แฉ เบื้องหลัง ปม แบน สารเคมีเกษตร วัดใจ”เฉลิมชัย-ลุงตู่”เลือกนายทุน หรือ เกษตรกร

ปัญหา สารเคมีเกษตร 3 ชนิด “พาราควอต ไกลโฟเซต และ คลอร์ไพริฟอส” ซึ่งแท้ที่จริงแล้ว มันคือ “สารพิษ” ที่ส่งผลอันตยต่อสุขภาพของเกษตรกร ประชาชนผู้บริโภคผลผลิตทางการเกษตร รวมทั้งสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ …ที่ผ่านมาหลายภาคส่วน ได้มีการรณรงค์ ให้ “แบน” 3 สารพิษดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง โดยเรียกร้อง ให้ยกเลิกการนำเข้า การจำหน่าย และการใช้ แต่ก็ยังทำไม่สำเร็จ…

เพราะเป็นเรื่องของผลประโยชน์ทางธุรกิจมหาศาล ที่เกี่ยวข้องอยู่กับ ภาคธุรกิจ-นักการเมือง และข้าราชการที่มีส่วนรับผิดชอบ

ที่ผ่านมา ในฝ่ายการเมืองผู้ถือ “นโยบาย” โดยตรง อย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ,มนัญญาไทยเศรษฐ์” รมช.เกษตรและสหกรณ์ และ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ก็ได้แสดงจุดยืนออกมาชัดเจนว่า “ต้องแบน” … และจะต้องทำให้สำเร็จในสิ้นปีนี้ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน ในปี 2563

กระนั้นก็ตามที การจะ “แบน” หรือ “ไม่แบน” 3 สารพิษดังกล่าวนี้ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ “คณะกรรมการวัตถุอันตราย” ที่มีตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ 29 คน เป็นกรรมการ ซึ่งในจำนวนนี้ มีสัดส่วนของตัวแทนหน่วยงานจากกระทรวงเกษตรฯ อยู่เป็นจำนวนมาก … จึงมีคำถามถึงท่าทีของ “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” รมว.เกษตรและสหกรณ์ ว่าคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้ ก็ได้รับคำตอบ จากการโพสต์ผ่านเฟซบุู๊ก เมื่อ 26 ก.ย. ที่ผ่านมานี้ ว่า…

 

หากคณะกรรมการวัตถุอันตราย หากมีมติให้ยกเลิกใช้ “ผมพร้อมลงนามให้ยกเลิกใช้ทั่วประเทศอย่างแน่นอน” เนื่องจากเป็นนโยบายหลักในการส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรที่มีความปลอดภัยทั้งต่อเกษตรกร และประชาชนผู้บริโภค

ท่าทีของ “เฉลิมชัย” เหมือนบอกว่าพร้อมจะยกเลิก … แต่ความระหว่างบรรทัดนั้น เป็นเพียงการบอกว่า “พร้อมลงนาม” หากคณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติให้เลิกใช้…

ย้อนกลับไปดูมติของกรรมการชุดนี้ ในการประชุมลับเมื่อ 14 ก.พ. 62 ปรากฎว่า กรรมการเสียงข้างมาก 16 เสียง จาก 29 เสียง มีมติ “ไม่แบน” …และในการประชุมครั้งล่าสุด เมื่อ 18 ก.ย. 62 ก็มีการยื้อเวลาออกไปอีก 60 วัน โดยให้ไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมว่า ถ้าเลิกแล้วจะเอาอะไรมาใช้แทน แล้วค่อยเสนอเรื่องเข้ามาพิจารณากันใหม่

ล่าสุด”นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา” หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ผู้ที่ “ออกหน้า” รณรงค์ให้มีการแบน 3 สารพิษดังกล่าว ก็ได้นำเบื้องลึก เบื้องหลังมาแฉผ่านเฟซบุ๊ก ว่าทำไมถึงยังแบน 3 สารพิษไม่ได้ … เป็นหนังสือราชการ ลงนามโดย “น.ส.ดุจเดือน ศศะนาวิน” รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านพัฒนาการผลิต เกี่ยวกับการยกเลิก สารพาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส ระบุว่า กรมวิชาการเกษตร ได้ดําเนินการ ดังนี้

1 . ยกร่างหนังสือเรียนปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการวัตถุอันตราย เพื่อขอให้พิจารณาจัดวัตถุอันตราย พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส เป็นวัตถุอันตราย ชนิดที่ 4 คือ ห้ามผลิต นําเข้า ส่งออก และจําหน่าย เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2560

2. ได้นําหนังสือ (ข้อ 1) เรียนหารือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2562 ถึงแนวทางในการดําเนินการ และได้รับข้อเสนอแนะว่า ควรจะดําเนินการตามมติ คณะกรรมการวัตถุอันตรายในการให้จํากัดการใช้วัตถุอันตรายพาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส และได้มอบหมายให้ กรมวิชาการเกษตรจัดทํา และดําเนินการมาตรการจํากัดการใช้ ซึ่งอยู่ระหว่างดําเนินการตามมาตรการจํากัดการใช้วัตถุอันตรายดังกล่าว

เป็นการยืนยันว่า ข้อเสนอแนะของ “เฉลิมชัย ศรีอ่อน”รมว.เกษตรฯ สวนทางกับท่าทีของ “มนัญญา ไทยเศรษฐ์” รมช.เกษตรฯ ที่ประกาศชัดว่า”ต้องยกเลิกการใช้” เพราะของท่านรัฐมนตรีว่าการฯ เสนอเพียง “ให้จำกัดการใช้” … ความหมายก็คือ “ยังไม่เลิกใช้” ใช่หรือไม่ ?

สัญญาณที่ส่งออกมาอย่างนี้ ก็คงไม่ต้องเดาว่า มติของ “คณะกรรมการวัตถุอันตราย” ในการประชุมครั้งต่อไปจะออกมาอย่างไร จึงอยากตั้งคำถามไปถึง “ลุงตู่” ว่า … เราจะปล่อยให้คน 29 คน ที่อาจจะแอบอิงอยู่กับผลประโยชน์ เป็นผู้ตัดสินชะตาชีวิตของคนอีกหลายสิบล้านคนอย่างนั้นหรือ

เป็นไปได้หรือไม่ที่ ลุงตู่ ในฐานะผู้นำสูงสุด จำเป็นต้องงัดมาตรการ อย่างใดอย่างหนึ่ง โละกรรมการชุดนี้ ทั้ง 29 คน แล้วตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ ให้มีการพิจารณากันอย่าง “โปร่งใส” และถ้าคณะกรรมการชุดใหม่ สามารถ “แบน” 3 สารพิษนี้ได้ ก็จะถือว่าท่านได้ “สร้างบุญ สร้างกุศล” กับคนไทยหลายสิบล้านคน ให้พ้นนรก “ตายผ่อนส่ง”

เป็นบทพิสูจน์ การใช้ วิจารณญาณของ ผู้นำประเทศ ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะแก้ปัญหาสำคัญนี้ อย่างไร ???