‘วราวุธ’ตรวจ’พรุควนเคร็ง’ก่อนนายกฯเดินทาง 1 สัปดาห์

รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ป่าพรุควนเคร็ง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมปลูกป่าฟื้นฟูในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2562

นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเกินทางตรวจพื้นที่ปา  าพรุควนเคร็ง หลังเกิดไฟไหม้อย่างรุนแรง ติดต่อกันนานหลายวัน เมื่อเดือนสิงหาคม แต่บ่ายวันที่ 8 ก.ย.62 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และอธิบดีกรมป่าไม้ ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และเครือข่ายผู้ปฏิบัติงานดับไฟป่าในพื้นที่ป่าพรุควนเคร็งจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมมอบสิ่งของจำเป็นที่ใช้ในการปฏิบัติงาน เยี่ยมชมนิทรรศการเกี่ยวกับการเกิดไฟป่า สภาพพื้นที่ป่าพรุควนเคร็ง เครื่องมืออุปกรณ์การดับไฟป่า ยุทธศาสตร์ด้านการดับไฟป่า การป้องกัน การฟื้นฟูสภาพป่า และวิถีชีวิตของประชาชนในแนวป่าพรุ พร้อมทั้งประชุมรับฟังบรรยายสรุปจากนายถาวรวัฒน์ คงแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศณีธรรมราช และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ณ บริเวณสถานีควบคุมไฟป่าพรุควนเคร็ง ต.การะเกด อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ทุกคนทราบกันดีแล้วว่าพรุควนเคร็งเป็นป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ขนาดไหน ไฟป่าที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเกิดขึ้นด้วยน้ำมือของธรรมชาติหรือจะเป็นต้นเหตุใดก็ตาม ถ้าเกิดขึ้นตามธรรมชาติเป็นวิสัยที่เราต้องแก้ไข แต่ถ้าไม่ได้เกิดขึ้นตามธรรมชาติเป็นไฟที่ผิดกฎหมาย ตนในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขอให้คำมั่นว่าตนจะทำทุกอย่างที่อยู่ภายใต้อำนาจของตนในการที่จะหา จะขออุปกรณ์ กำลัง ปัจจัยในการดูแลเจ้าหน้าที่ทุก ๆ คน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ทุกคน รวมทั้งดูแนวทางในการฟื้นฟูและหาวิธีแนวทางป้องกันการเกิดไฟป่าพรุควนเคร็ง เพราะว่าการทำงานนอกจากจะให้กำลังแก่เจ้าหน้าที่ทุก ๆ คนแล้ว ความเข้าใจของชาวบ้านของพี่น้องประชาชนที่อยู่รอบ ๆ บริเวณป่าพรุก็เป็นสิ่งที่สำคัญ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวด้วยว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงให้ความสำคัญและทรงเป็นห่วงสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย โดยเฉพาะผืนป่าทั้งหลาย โดยมีองคมนตรีถึง 2 ท่าน ได้ลงพื้นที่มาตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายให้แนวทาง แสดงให้เห็นว่าพระองค์ทรงเป็นห่วงพื้นที่ป่าพรุ ดังนั้นตนจึงได้เน้นย้ำกับปลัดกระทรวงและอธิบดี เพราะว่ากำลังเจ้าหน้าที่มีอยู่น้อยนิดเมื่อเทียบกับพื้นที่ป่าที่ต้องดูแล จึงจำเป็นต้องมีเครื่องมืออุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจสอบและดับไฟที่มีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ แต่อย่างไรก็แล้วแต่จะมีเจ้าหน้าที่แค่ไหน มีเครื่องมืออุปกรณ์ดีแค่ไหน ความมร่วมไม้ร่วมมือของพี่น้องประชาชนที่อยู่บริเวณรอบป่าพรุทั้งจังหวัดสงขลา พัทลุงและนครศรีธรรมราชเป็นสิ่งที่สำคัญที่ต้องอยู่ร่วมกับป่าให้ได้ ผืนป่าแห่งนี้เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่เราต้องอนุรักษ์เอาไว้ เพราะหากว่าเราไม่อนุรักษ์ไว้ซักวันหนึ่งธรรมชาติก็จะกลับมาทวงคืน และจะเกิดความเดือดร้อนกับพี่น้องประชาชนนั่นเอง ดังนั้นวันนี้ก่อนที่ธรรมชาติจะมาทวงคืนความสมดุลของเขา เราต้องมาทำป่าให้สมบูรณ์กันก่อนดีกว่า ดังนั้น ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ตนจะประสานกับกรมป่าไม้ และกรมอทุยานฯ ในการเตรียมกล้าไม้ และประสานกับจังหวัดในการขอกำลังจิตอาสาทุกคนที่อยู่ในพื้นที่ทั้ง 3 จังหวัดในพื้นที่ป่าพรุควนเคร็ง ในการปลูกป่าและฟื้นฟูป่า เพราะตนจะไม่ยอมให้มีป่าเสื่อมโทรมขึ้นอีกในประเทศไทย ที่ใดมีป่าเสื่อมโทรม กรมป่าไม้และกรมอุทยานฯ จะเอากล้าไม้เข้าไปปลูกเพื่อให้ป่ามีความสมบูรณ์คืนความสมดุลของระบบนิเวศอีกครั้งหนึ่ง นอกจากนี้ในส่วนของป่าพระควนเคร็ง ยังได้มอบหมายให้กรมทรัพยากรน้ำ และกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ไปหาแนวทางในการหาแหล่งน้ำ หรือรักษาน้ำในป่าพรุได้อย่างไร เช่น การขุดอ่างเก็บน้ำอาจจะเป็นแบบอ่างพวง หรือแก้มลิง หรือธนาคารน้ำใต้ดิน หรือขุดเจาะบาดาล เป็นต้น

สำหรับป่าพรุควนเคร็ง มีพื้นที่ครอบคลุม 3 จังหวัด คือ อ.ระโนด จ.สงขลา /อ.ควนขนุน จ.พัทลุง และ 5 อำเภอของจังหวัดนครศรีธรรมราช คือ หัวไทร เชียรใหญ่ ชะอวด เฉลิมพระเกียรติ และร่อนพิบูลย์ มีพื้นที่ประมาณ 347,000 ไร่ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2561 – 31 สิงหาคม 2562 เกิดไฟป่า 72 ครั้ง พื้นที่ได้รับความเสียหายกว่า 15,600 ไร่ ลักษณะไฟป่าพรุควนเคร็งที่เกิดขึ้นเป็นไฟป่ากึ่งผิวดินกึ่งใต้ดิน จึงทำให้ยากต่อการดับไฟ จึงจำเป็นต้องมีการสูบน้ำเข้าไปในพื้นที่ป่าเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นของผิวดิน ที่ผ่านมาต้องสูบน้ำเข้าป่าพรุมากถึง 14 ล้านลูกบาศก์เมตร และวันที่ 13 กันยายน 2562 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีกำหนดลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาไฟป่าพรุควนเคร็งจังหวัดนครศรีธรรมราช ณ สถานีควบคุมไฟป่าพรุควนเคร็ง ต.การะเกด อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช