ข้อมูลอันน่าตกใจ’เจ็บ-ตาย’ในค่ายทหารส่วนใหญ่สมองบวม 6 ปี จับ 6,000 ครั้ง

การเสียชีวิตของ ‘อับดุลเลาะ อีซอมูซอ’ ปลายหอกได้พุ่งไปยังกองทัพ ด้วยความสงสัยว่า มีการซ้อมทรมานจนได้หมดสติ สมองบวม และเสียชีวิตในที่สุด และไม่ใช่ครั้งแรกที่ผู้ต้องสงสัยถูกจับกุมและเสียชีวิต โดยเฉพาะอาการสมองบวม เกิดกับผู้ต้องสงสัยหลายคนก่อนจะเสียชีวิต ที่น่าตกใจคือ ผู้กระทำความผิด ไม่เคยได้รับโทษเลย

อับดุลเลาะ อีซอมูซอ เป็นช่างก่อสร้างและรับจ้างกรีดยาง ถูกต้องสงสัยว่า เป็นเครือข่ายผู้ก่อความไม่สงบ ทหารพรานได้จับกุมตัวเขาไปซักถามในค่ายองคยุทธบริหาร เมื่อเดือนกรกฎาคม 2562 เขาถูกพบในสภาพ หมดสติในค่ายทหาร เพียง 9 ชั่วโมง หลังจากถูกนำตัวเข้าไปซักถาม มีอาการสมองบวม ประสาทสัมผัสไม่ตอบสนอง ต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์เป็นเวลากว่า 1 เดือน ก่อนจะเสียชีวิต เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม
การเสียชีวิตของเขากลายเป็นปริศนา แพทย์ไม่มีคำวินิจฉัยที่ชัดเจน เพียงแต่ระบุว่า สมองขาดออกซิเจนจึงเกิดอาการสมองบวม ก่อนจะเสียชีวิตด้วยอาการติดเชื้อ

ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก ที่มีการจับกุมผู้ต้องสงสัย และเสียชีวิตหลังการถูกจับกุม ข้อมูลจากมูลนิธิผสานวัฒนธรรม(Cross Cultural Foundation (CrCF)) องค์กรพัฒนาเอกชนที่ลงพื้นที่เก็บข้อมูลการดำเนินคดีของเจ้าหน้าที่รัฐ พบว่า ตั้งแต่ปี 2556 มีผู้ถูกจับกุมไปซักถามในค่ายทหาร 250 คน เฉลี่ยปีละ 41 คน ในจำนวนนี้มีการจับกุมซ้ำๆหลายครั้ง และเชื่อมีการจับกุมผู้ต้องสังสัยประมาณ 6,000 ครั้ง โดยส่วนใหญ่ไม่ถูกดำเนินคดี

จากรายงานสถานการณ์สิทธิมนุษยชน จังหวัดสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประเทศไทย ประจำปี 2561 ของ ‘กลุ่มด้วยใจ’ เปิดเผยข้อมูลการซ้อมทรมานและการปฏิบัติที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรม ที่ทางกลุ่มได้เก็บรวบรวมข้อมูลผู้เสียหายจากการถูกทรมาน ตั้งแต่ปี 2551 ข้อมูลในแต่ละปีรวบรวมจากกรณีที่กลุ่มด้วยใจสัมภาษณ์โดยตรงกับผู้เสียหายที่ถูกกระทำ พบว่า ในปี 2554 พบว่ามีจำนวน 46 คน ปี 2556 จำนวน 10 คน ปี 2557 จำนวน 15 คน ปี 2558 จำนวน 16 คน ปี 2559 จำนวน 11 คน ปี 2560 จำนวน 4 คน และในปี 2561 จำนวน 21 คน

ข้อมูลจาก CrCF ระบุว่า การทรมานและการปฏิบัติที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรมหรือย่ำยีศักดิ์ศรีฯ ในจังหวัดชายแดนใต้ ปี 2557-2558 ระบุว่าการทรมานส่วนใหญ่เกิดขึ้นในขั้นตอนกระบวนการซักถาม รองลงมาคือระหว่างการจับกุมและระหว่างการเดินทางจากบ้านไปยังสถานที่ควบคุมตัว หรือระหว่างย้ายจากสถานที่ควบคุมตัวที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง

วิธีการที่เจ้าหน้าที่ใช้ทรมานผู้ถูกควบคุมตัว ในปี 2561 ไม่ว่าจะเป็นการทรมานทางด้านร่างกาย เช่น การกรอกน้ำใส่ปากให้หายใจไม่ทัน เตะบริเวณหน้าอก หน้าท้อง ตีเข่า ตีศอก รวมไปถึงการทรมานที่อวัยวะเพศ เช่น การดีดลูกอัณฑะ เตะบริเวณลูกอัณฑะ ไม่ให้ทานอาหาร และการทรมานด้านจิตใจและทำให้เกิดความอับอาย เช่น ขู่ว่าจะทำร้ายครอบครัว ขู่จะให้ ‘กินขี้’ และ ‘น้ำฉี่’ บังคับให้เปลือยกายอยู่ในห้องแอร์ที่มีอากาศหนาว เป็นต้น

สำหรับกรณีของผู้ที่ได้รับการบาดเจ็บและเสียชีวิตที่มีการเผยแพร่สู่สาธารณะ เท่าที่พบขณะนี้ ได้แก่ กรณีของ นายมะสุกรี สาและ อายุ 36 ปี ผู้ต้องสงสัยคดีความมั่นคง เจ้าหน้าที่แจ้งว่าเป็นลมหมดสติจนลื่นล้มในห้องน้ำภายในศูนย์ซักถามหน่วยเฉพาะกิจ ได้รับบาดเจ็บสาหัส และปัจจุบัน นายมะสุกรีแขนขาอ่อนแรงเคลื่อนที่ไม่ได้ ต้องได้รับกายภาพบำบัดและต้องได้รับการช่วยเหลือจากคนรอบข้าง

ทั้งนี้ นายมะสุกรีถูกเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นเมื่อวันที่ 16 มี.ค. 2562 และถูกควบคุมตัวไว้ในศูนย์ซักถามหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี

ต่อมา เมื่อวันที่ 16 มี.ค. 2562 เจ้าหน้าที่นำตัวนายมะสุกรีส่งโรงพยาบาลปัตตานี ในวันที่ 6 ของการควบคุมตัว เจ้าหน้าที่แจ้งว่าไม่มีการซ้อมทรมาน ไม่มีการชดเชยเยียวยา

Muslim students carry a banner saying “stop violence” during an anti-violence rally attended by Muslim and Buddhist residents in Thailand’s southern Narathiwat province on January 22, 2019. – Gunmen in Thailand’s deep south shot dead two Buddhist monks and wounded two others inside a temple on January 18, capping a week of deadly violence as the prime minister vowed to “punish” those responsible. (Photo by Madaree TOHLALA / AFP)

และในกรณีถึงขั้นเสียชีวิต ได่แก่

1.นายอัสฮารี สะมะแอ อายุ 25 ปี ผู้ต้องสงสัยคดีความมั่นคง ถูกเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กับหน่วยเฉพาะกิจที่ 13 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา ควบคุมตัวโดยอาศัยอำนาจตามกฎอัยการศึก ในเวลาประมาณ 11.00 น. ของวันที่ 21 ก.ค. 2550 ต่อมา นายอัสฮารีถูกเจ้าหน้าที่นำตัวส่งโรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี ในสภาพบาดเจ็บสาหัส ต่อมานายอัสฮารีเสียชีวิตที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา เนื่องจากสมองบวม หน้าอกช้ำหลายจุด โดยศาลปกครองพิพากษาให้หน่วยงานต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่ ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่มารดาผู้เสียชีวิต

2.นายยะผา กาเซ็ง หรือ ‘อิหม่ามยะผา’ อิหม่ามประจำมัสยิดหมู่บ้านกอตอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ถูกเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาสที่ 39 และเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรรือเสาะ จ.นราธิวาส ควบคุมตัวไว้ที่หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาสที่ 39 เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2551 ต่อมา อิหม่ามยะผา ถูกพบว่าเสียชีวิตอยู่บนรถที่ใช้ควบคุมตัว กระดูกซี่โครงหัก ลมรั่วในช่องอกด้านขวา เมื่อวันที่ 21 มี.ค. 2551

ทั้งนี้ ภรรยาและบุตรของผู้เสียชีวิตฟ้องคดีเรียกค่าเสียหายจากหน่วยงานต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่ ศาลพิพากษาตามยอม โดยให้กองทัพบกชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ภรรยาและบุตรของนายยะผา

3.นายสุไลมาน แนซา อายุ 25 ปี ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปยังศูนย์เสริมสร้างความสมานฉันท์ ค่ายอิงยุทธบริหาร จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 30 พ.ค.2553 ต่อมานายสุไลมานถูกพบว่าเสียชีวิตในสภาพมีผ้าขนหนูผูกคอติดกับเหล็กดัดหน้าต่างในห้องควบคุมตัว ทั้งนี้ ศาล จ.ปัตตานี มีคำสั่งว่า เสียชีวิตเนื่องจากขาดเลือดไปเลี้ยงสมอง จากการผูกคอด้วยผ้าเช็ดตัวกับเหล็กดัดหน้าต่าง ระหว่างอยู่ในความควบคุมของเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ ครอบครัวถอนฟ้องคดี หลังจากรัฐบาลได้จ่ายเงินเยียวยาความเสียหายจนเป็นที่พอใจแล้ว

4.นายอับดุลลายิ ดอเลาะ อายุ 41 ปี ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวเมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2558 ที่ศูนย์เสริมสร้างความสมานฉันท์ ภายในค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี ต่อมานายอับดุลลายิเสียชีวิตในห้องควบคุมตัว เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 2558 ทั้งนี้ ไม่พบบาดแผลจากการถูกทำร้ายร่างกายหรือการซ้อมทรมาน การไต่สวนสิ้นสุดที่ไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิต

และรายสุดท้าย 5.นายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ อายุ 34 ปี ผู้ต้องสงสัยในคดีความมั่งคง ถูกควบคุมตัวที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี จากนั้นถูกเจ้าหน้าที่นำตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลปัตตานี ในอาการสมองบวมอย่างรุนแรง จากการขาดอากาศหายใจเป็นเวลานาน ต่อมานายอับดุลเลาะเสียชีวิตที่สุด

จากข้อมูล สะท้อนว่า มีการความรุนแรงจากเจ้าหน้าที่ของรัฐต่อผู้ต้องสงสัย ที่นำไปสู่โศกนาฏกรรม และวงจรความรุนแรงที่วนเวียนซ้ำไปซ้ำมาของทั้ง2 ฝ่าย