พบศพชายนิรนามสักหนุมานเต็มหลัง กับยันต์ 32 ยอดที่ต้นคอ ลอยอืดกลางคลองไม่ทราบสาเหตุ กู้ภัยลงไปลากศพเฮี้ยน ทำเรือล่ม โชคดีเจ้าหน้าที่ปลอดภัย
เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (6 มิ.ย.) ร.ต.ท.นันทิยา รักดี รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งพบศพคนเสียชีวิตลอยอยู่กลางคลองม้ายัง หมู่ที่ 2 ต.บางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ รุดไปที่เกิดพร้อมด้วย พ.ต.อ.ธงชัย นุ้ยเจริญ ผกก.สภ.เมืองชุมพร พ.ต.ต.ณัฐวัฒน์ ดำจีน สว.สส. และชุดสายสืบ สายตรวจ หน่วยกู้ภัยมูลนิธิชุทมพร แพทย์เวรโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์
ที่เกิดเหตุอยู่ติดกับสำนักวิปัสสนากรรมฐานวัดชุมพรรังสรรค์ พระอารามหลวง ใกล้สะพานแขวนทางลัดข้ามไปยังตัวเมืองชุมพร พบศพลอยอืดอยู่ในกอผักตบชวากลางคลอง หน่วยกู้ภัย 2 นาย ได้ใช้เรือไฟเบอร์ท้องแบนลงไปใช้ผ้าขาวมัดศพเพื่อนำขึ้นมาชันสูตรบนฝั่ง แต่ปรากฏว่าขณะเรือโคลงจนทำให้พลิกคว่ำจมน้ำ แต่กู้ภัยไม่ได้รับอันตรายเนื่องจากคลองบริเวณดังกล่าวน้ำสูงระดับคอ จึงยืนประคองตัวในน้ำได้ และช่วยกันนำเรือเข้ามาที่น้ำตื้นใกล้ตลิ่งแล้วพลิกเรือหงายขึ้นนำน้ำออกจนสามารถลากนำศพขึ้นฝั่งได้ปลอดภัย
จากการชันสูตรศพ พบผู้เสียชีวิตเป็นเพศชาย ไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 30-35 ปี สูงประมาณ 165 ซม. สวมกางเกงยีนส์ สวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีดำ ไม่สวมรองเท้า ที่ข้อมือซ้ายมีนาฬิกายี่ห้อคาสิโอเรือนเงินสายหนังสีน้ำตาล สภาพน้ำไม่เข้าเข็มเวลายังเดินตามปกติ ที่หัวไหล่ขวา หัวไหล่ซ้ายและลำตัวด้านหน้าสักยันต์ลายสวยงาม ส่วนกลางหลังสักยันต์หนุมาน ที่ต้นคอสักยันต์ 32 ยอด
ในกระเป๋ากางเกงมีเงินเป็นธนบัตรและเหรียญจำนวน 482 บาท ไฟแช็ก 1 อัน เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้น แพทย์ยังไม่สามารถชันสูตรศพได้เนื่องจากสภาพศพเริ่มเน่าเปื่อยขึ้นอืด คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2-3 วัน จึงนำศพส่งไปโรงพยาบาลเพื่อเอกซเรย์และชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบสาเหตุการตาย ต้องรอผลการเอกซเรย์การชันสูตรศพจากแพทย์อย่างละเอียด เบื้องต้น สันนิษฐานว่าผู้ตายอาจจะขับรถ จยย.ลงมาจากสะพานแขวนซึ่งเป็นทางลัดข้ามไปยังตัวเมืองชุมพร ที่เชื่อมต่อกับถนนคอนกรีตเลียบคลองม้ายัง ซึ่งเป็นทางโค้งหักศอกแล้วอาจจะเสียหลังตกลงไปในคลอง ซึ่งจะได้ประสานนักประดาน้ำลงดำน้ำหารถ จยย.
หรืออาจจะถูกฆาตกรรมถูกทำร้ายจนตายแล้วนำศพมาโยนทิ้งในคลองดังกล่าว เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบที่เกิดเหตุ และสอบสวนชาวบ้านใกล้เคียงเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานหาสาเหตุการตายต่อไป