พยาบาลสาวขับรถมากับสามี จะกลับบ้านที่ จ.นราธิวาส ถึง อ.บางสะพาน รถพุ่งชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ยับ ตายคาที่ ส่วนสามีเจ็บสาหัส ตำรวจคาดคนขับอาจจะวูบหลับใน เพราะไม่พบรอยเบรกในที่เกิดเหตุ…
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 3 มิ.ย.2562 ร.ต.อ.พิทยา คูณทวีชัยทรัพย์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์ชนท้ายรถบรรทุกพ่วงเทรลเลอร์ มีผู้เสียชีวิตติดภายในและมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่กู้ชีพ รพ.บางสะพาน, กู้ภัยทางหลวง และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างราษฎร์ศรัทธาธรรมสถาน พร้อมรถอุปกรณ์ตัดถ่างลงตรวจสอบจุดเกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุบริเวณริมถนนขอบทางบนถนนเพชรเกษม ขาล่องใต้ หลัก กม.398+300 ก่อนถึงวัดธรรมรัตน์ ประมาณ 300 เมตร พื้นที่ ม.5 ต.ทองมงคล อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบรถบรรทุกเทรลเลอร์ ยี่ห้อ ฮีโน่ ทะเบียน 72-0313 สระบุรี (ส่วนหัว) 72-0314 สระบุรี (ส่วนหาง) มีนายดลเล๊าะ หวันระโส๊ะ อายุ 45 ปี ชาว ต.ท่าชะม่วง อ.รัตภูมิ จ.สงขลา เป็นคนขับ บริเวณด้านท้ายพ่วง พบรถยนต์โตโยต้า ยาริส สีขาว ทะเบียน 5กณ 3268 กรุงเทพมหานคร พุ่งชนท้าย หน้ารถยุบถึงห้องโดยสาร พบ น.ส.รอฮานี มิสุแท อายุ 29 ปี ชาวบ้าน ม.5 ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาแจะ จ.นราธิวาส เสียชีวิตถูกอัดติดกับเบาะคนขับ บริเวณเบาะที่นั่งด้านข้าง พบ นายอิสมาแอ วาเย็ง อายุ 32 ปี สามีของผู้เสียชีวิต นอนร้องขอความช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือนำส่ง รพ.บางสะพาน และเร่งตัดถ่างนำร่างผู้เสียชีวิตส่งไปชันสูตรที่ รพ.บางสะพาน
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายดลเล๊าะ หวันระโส๊ะ คนขับรถเทรลเลอร์ ได้ขับรถเพื่อนำสินค้า จาก อ.บางปะอิน จ.อยุธยา เพื่อไปส่งยัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ก่อนจะมาจอดแวะพักริมข้างถนนบริเวณดังกล่าวเพื่อรับประทานอาหาร ขณะที่จอดได้เพียงสักพักไม่ถึง 5 นาที ก็ได้มีรถยนต์โตโยต้ายาริสคันเกิดเหตุ ที่มี น.ส.รอฮานี มิสุแท ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่พยาบาลอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ใน จ.ปทุมธานี พร้อมสามี กำลังจะเดินทางกลับไปเยี่ยมลูกชายวัย 7 เดือน ที่ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เข้ามาชนท้ายอย่างจัง จนเป็นเหตุให้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่า น.ส.รอฮานี คนขับรถเก๋ง น่าจะมีอาการวูบหลับใน ทำให้รถพุ่งออกไปยังไหล่ทาง ชนเข้าอย่างจังกับรถบรรทุกเทรลเลอร์ที่จอดอยู่ เนื่องจากไม่พบรอยเบรกในที่เกิดเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุพร้อมสอบปากคำผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ ก่อนที่จะได้สรุปสาเหตุ การเกิดอุบัติเหตุต่อไป.
Cr.ไทยรัฐออนไลน์