6 ด.ภาค 4 จับมโหฬารยาเสพติด 3 จังหวัด บำบัด 1.2 หมื่นคน เลือกทหารพบฉี่ม่วงเกือบ 2,000 ราย

แม่ทัพภาค 4 แถลงข่าวแก้ปัญหายาเสพติด 6 เดือน 3 จังหวัดใต้ วางเครือข่ายจิดอาสาครอบคลุมทุกหมู่บ้าน เยาวชนเข้าสู่การบำบัด 12,000 คน ตรวจเลือกทหาร ตรวจพบฉี่ม่วง 1,700 คน 

12 เม.ย. 62 (วันนี้) เวลา 09.00 น. ที่ตึกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พลโทพรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เป็นประธานแถลงข่าว สรุปผลการปฏิบัติด้านการแก้ไขปัญหายาเสพติดรอบ 6 เดือน ตั้งแต่เดือน ต.ค. 61 – มี.ค. 62 โดยมีเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้, ผู้บัญชาการกองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้, ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 9, ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี, รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส, รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา, โฆษกชาวบ้าน, หน่วยจิตอาสาญาลันนันบารูเข้าร่วมการแถลง

พลโทพรศักดิ์ พู กล่าวว่าตามที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ดำเนินการตามนโยบายเร่งด่วนสำคัญในด้านการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยมุ่งเน้นใช้มาตรการทางกฎหมายสำหรับผู้ค้า และมาตรการทางสังคมสำหรับผู้เสพที่ต้องเข้าสู่กระบวนการบำบัด ฟื้นฟูอย่างจริงจัง ตลอดจนเน้นการแก้ไขปัญหาตามแนวทางสันติ ให้อภัย ใช้บทบาทของศาสนาในการลดปัญหายาเสพติด และการแพร่ระบาดยาเสพติดในหมู่บ้าน อีกทั้งน้อมนำ การใช้ “ศาสตร์พระราชา” และยุทธศาสตร์คนดี ในการสร้างความยั่งยืนในระดับบุคคล ครอบครัวและชุมชน โดยตั้งเป้าหมายเพื่อส่งคืนบุตรหลานสู่อ้อมกอด อันอบอุ่นของครอบครัวอย่างน้อย 10,000 คน โดยการดำเนินการที่ผ่านมาได้ผลเกินความคาดหมาย มีผู้สมัครใจเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาแล้วกว่า 12,375 ราย โดยมีการปฏิบัติที่สำคัญ ดังนี้

1. ด้านการป้องกัน มุ่งเน้นสร้างภูมิคุ้มกันและภูมิป้องกันยาเสพติดให้ครอบคลุม 5 กลุ่มเป้าหมาย คือ ในหมู่บ้าน/ชุมชน ในสถานศึกษา นอกสถานศึกษา รร.ตาดีกา และ สถาบันการศึกษาปอเนาะ โดยใช้แนวทางการสร้างชุมชนเข้มแข็งและจิตอาสาญาลันนันบา รูเข้าดำเนินการ ปัจจุบันสามารถฝึกอบรมและจัดตั้งกลุ่มพลังจิตอาสาประชารัฐได้แล้วกว่า 10,000 คน ครอบคลุมพื้นที่ 37 อำเภอ 200 ตำบล 1,500 หมู่บ้าน โดยมีเป้าหมาย เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหายาเสพติดด้วยพลังของชุมชนให้เกิดเป็นชุมชนเข้มแข็ง นอกจากนี้ ยังได้ขับเคลื่อนงานสร้างภูมิคุ้มกันผ่านมวลชนญาลันนันบารู และญาลันนันบารูจูเนียร์ที่ผ่าน การฝึกอบรมและจัดตั้งแล้วกว่า 20,000 คน

2. ด้านการบังคับใช้กฎหมาย มุ่งดำเนินการต่อผู้ค้าในระดับต่างๆ โดยให้ ความสำคัญเร่งด่วนกับผู้ค้ารายย่อย ซึ่งเป็นปัญหาและสาเหตุหลักของการแพร่ระบาดของ ยาเสพติดในหมู่บ้าน

3. ด้านการบำบัดรักษา มุ่งเน้นใช้มาตรการทางสังคม โดยใช้ชุดปฏิบัติการกิจการ พลเรือน จำนวน 224 ชุด เข้าดำเนินการในหมู่บ้าน ภายใต้กระบวนมีส่วนร่วมของชุมชน ผู้นำสี่เสาหลัก และเวทีสภาสันติสุขตำบล เพื่อค้นหาผู้เสพเข้ารายงานตัว สู่กระบวนการคัด กรอง, บำบัดรักษา, ติดตามดูแลในชุมชน และพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยแบ่งระดับความ รุนแรงเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้ใช้, กลุ่มผู้เสพ และกลุ่มผู้ติด เพื่อเข้าสู่กระบวนการ บำบัดรักษา ดังนี้

– กลุ่มผู้ใช้, ผู้เสพ ได้มีการส่งเข้าบำบัด ณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล ภายใต้การมีส่วนร่วมของชุมชน และฟื้นฟูโดยใช้หลักศาสนา

– กลุ่มผู้ติด ได้มีการส่งเข้าค่ายพักพิงเพื่อการบำบัดหลักสูตร 35 วัน ( CAMP 35 ) หรือส่งเข้าบำบัด
ที่โรงพยาบาลชุมชน, โรงพยาบาลทั่วไป, โรงพยาบาลศูนย์ และกรณีเป็นผู้ ติดซ้ำซ้อนให้ส่งโรงพยาบาลธัญญารักษ์ หรือโรงพยาบาลจิตเวชต่อไป

4. ด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต มุ่งดำเนินการต่อผู้ผ่านการบำบัด และหายขาดจาก การติดยาเสพติดมาฝึกอบรมวิชาชีพตามความต้องการ และความสมัครใจ มีงานทำ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

และจากนโยบายเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ในห้วงที่ผ่านมา ได้ปรากฏผลให้เห็นเด่นชัดอย่างเป็นรูปธรรม จากทหารกองเกินที่เข้ารับการตรวจเลือก เป็นทหารกองประจำการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4อำเภอของจังหวัด สงขลา จำนวนทั้งสิ้น 17,646 นาย ตรวจพบปัสสาวะสีม่วง จำนวน 1,768 นาย คิดเป็น ร้อยละ 10.02 ของจำนวนผู้เข้ารับการตรวจเลือกทั้งหมด และเมื่อเปรียบเทียบกับห้วงปีที่ ผ่านมาพบว่ามีจำนวนทหารกองเกิน ที่มีปัสสาวะสีม่วงลดลงเป็นจำนวนมากถึงร้อยละ 70 ซึ่งชี้ให้เห็นได้ว่าการดำเนินการกดดันโดยใช้มาตรการทางกฎหมายกับผู้ค้า และมาตรการทางสังคมกับผู้เสพ ได้ผลเป็นอย่างมาก

แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวเพิ่มเติมว่าทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๔ ส่วนหน้า ยังคงเดินหน้าบังคับ ใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาดกับผู้ค้ารายย่อยในพื้นที่ให้หมดสิ้นไป รวมถึงมาตรการทาง กฎหมายกับผู้ค้ารายใหญ่จนนำไปสู่การยึดทรัพย์ ควบคู่กับการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติด สารเสพติด โดยจัดชุดปฏิบัตรการกิจการพลเรือน เข้าพบปะผู้นำสี่เสาหลักเพื่อขอความ ร่วมมือในการชักชวนผู้ติดสารเสพติดเข้ารับการบำบัดฟื้นฟู ตลอดจนการพัฒนาคุณภาพ ชีวิตและส่งเสริมอาชีพอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ได้มีการเปิดโอกาสให้ผู้ร่วมการแถลงได้แสดงและเสนอความคิดเห็นเพิ่มเติม หน่วยจิตอาสาญาลันนันบารูขอขอบคุณทางแม่ทัพภาคที่ 4 โดยเฉพาะนโยบายแก้ไขปัญหายาเสพติดมีความภูมิใจ ผู้ปกครองคนในพื้นที่มีเบาะแสยาเสพติดแจ้งทางหน่วยจิตอาสาญาลันนันบารู อยากให้ท่านสนับสนุนเรื่องที่ให้การบำบัดยาเสพติดฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายตลอดๆ เพื่อคืนความสู่มวลชนต่อไป