ที่ประชุมแกนนำปชป.เห็นด้วยเข้าร่วมรัฐบาลพลังประชารัฐ

ที่ประชุมประชาธิปัตย์เกือบ 2 สาย เห็นตรงกันเกือบ 100% หนุนเข้าร่วมรัฐบาล พปชร.

5 เม.ย.62 – ที่พรรคประชาธิปัตย์ มีการประชุมหารือ ของอดีตส.ส. และว่าที่ส.ส.ของพรรคเข้าร่วมประชุม อาทิ นายชวน หลีกภัย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค นายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ นายนิพนธ์ วิสิษฐยุทธศาสตร์ กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู รักษาการรองหัวหน้าพรรค นายถาวร เสนเนียม นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม นายชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว นายชุมพล จุลใส เป็นต้น ทั้งนี้ ในช่วงกลางวันยังได้ร่วมรับประทานอาหารร่วมกันด้วย

จากนั้นเวลา 14.15 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ว่าที่ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะผู้ดำเนินการประชุมวันนี้ ให้สัมภาษณ์หลังการหารือว่า วงเป็นการร่วมกันของอดีตส.ส.และว่าที่ส.ส. นัดหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งที่ผ่านมาและการทำงานของพรรค ซึ่งสรุปภาพรวมคิดว่าพรรคประชาธิปัตย์ต้องทำตามอุดมการณ์ คือ ทำงานเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เหนือสิ่งอื่นใด นอกเหนือจากนี้ไม่อาจร่วมทำงานได้ ดังนั้นการทำงานของส.ส.จะเดินในแนวนี้เท่านั้น ส่วนเรื่องร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาลนั้นยังไม่อยากพูดอะไรในตอนนี้ เพราะจำนวนส.ส.ยังไม่นิ่ง

เมื่อถามว่าประชาชนที่เลือกพรรคประชาธิปัตย์ต้องการให้นำนโยบายของพรรคไปปฏิบัติได้จริง นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ในส่วนของแนวนโยบายก็เป็นส่วนหนึ่งเป็นธรรมดาที่อยากให้ผู้แทนที่เขาเลือกนำนโยบายไปปฏิบัติ แต่อีกส่วนที่ประชาชนต้องการ คือ ความมั่นคง ความปรองดอง และความยั่งยืนของประเทศชาติ ดังนั้น ในฐานะส.ส. เราก็ต้องนึกถึงประเทศเหนือการเมือง หมายความว่า การทำงานของส.ส.จะไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ทางการเมืองมาก่อน อะไรที่เป็นประโยชน์ที่ทำให้ประเทศเดินหน้า แม้พวกเราไม่ได้ประโยชน์ เราจะยึดชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เหนือการเมือง ส่วนอุดมการณ์ของพรรคที่ปฏิเสธเผด็จการทุกรูปแบบนั้น ต้องดูความหมายของคำว่าเผด็จการว่าหมายถึงอะไร แต่ที่สำคัญเราอย่าตกอยู่กับวาทกรรมทางการเมืองของคำว่าประชาธิปไตยและเผด็จการ เพราะทำให้แบ่งแยกประชาชน แบ่งแยกสังคม

ขณะที่นายถาวร กล่าวว่า ได้หารืออย่างไม่เป็นทางการมีผู้เข้าร่วมกว่า 30 คน ความเห็นจากการรับฟังประเด็นสำคัญ คือจะร่วมรัฐบาลหรือไม่ เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์อยากร่วมรัฐบาล ที่สำคัญเกือบครึ่งของที่ประชุมต้องการให้ประกาศท่าทีในนามพรรคประชาธิปัตย์ ก่อนวันที่ 9 พ.ค.นี้ เพราะเห็นว่าขณะนี้ใกล้งานพระราชพิธีสำคัญอันศักดิ์สิทธิ์ ไม่ควรดำเนินกิจกรรมทางการเมือง เรื่องของสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นสถาบันที่เราเทิดทูนอย่างสูงยิ่ง แต่การร่วมรัฐบาลเป็นเรื่องความอยู่รอดของชาติบ้านเมือง เราไม่คำนึงถึงการต่อรองตำแหน่ง แต่สิ่งที่เราให้ความสำคัญ คือ นโยบาย แก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน การตัดสินใจนำเสนอของทุกท่านที่ต้องการให้ร่วมรัฐบาลต้องการให้ชาติอยู่รอด ต้องการให้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยเดินไปข้างหน้าได้ ไม่ได้เห็นแก่ตำแหน่งหรือพรรค แต่เห็นแก่ชาติบ้านเมือง อันเป็นความต้องการของพี่น้องประชาชน ที่อยากเห็นความสงบเกิดขึ้น จัดตั้งรัฐบาลได้

เมื่อถามว่า ใครจะเป็นผู้ประกาศท่าทีร่วมรัฐบาล นายถาวร กล่าวว่า คณะกรรมการบริหารพรรคชุดรักษาการ สามารถเชิญอดีตส.ส.ปี 54 และว่าที่ส.ส.เพิ่มเข้ามาในปี 62 รวมทั้งกรรมการบริหารชุดรักษาการของพรรค รวมทั้งองค์ประชุมที่ข้อบังคับพรรคเขียนเอาไว้มาประชุมกันได้ ตนไม่อยากประเมิน แต่เท่าที่ฟังความต้องการประชาชนและผู้มาแสดงความเห็นในวันนี้ต่างเรียกร้องตรงกันและพูดเป็นเสียงเดียวกัน ว่า นี่เป็นความต้องการของพี่น้องประชาชน ไม่ใช่เป็นความต้องการของเขา

เมื่อถามอีกว่าหากกรรมการบริหารพรรคชุดรักษาการไม่เห็นด้วยในการร่วมรัฐบาล นายถาวร กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์อยู่กันด้วยเหตุผล เรานำเอาผลการประชุมวันนี้ ส่งให้กรรมการบริหารพรรคชุดรักษาการรับทราบ ถึงแนวทางของการประชุมไว้ก่อน ซึ่งคงใช้ดุลพินิจแบบมีวุฒิภาวะ อย่าตกใจ อย่าคาดการณ์ แต่นักการเมืองของประชาธิปัตย์ จะคำนึงถึงความอยู่รอดของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประโยชน์ประชาชน การเข้าร่วมรัฐบาล ไม่ใช่เป็นการผิดอุดมการณ์ ไม่ใช่สนับสนุนผู้สืบทอดอำนาจ หรือไม่ได้สนับสนุนเผด็จการแน่นอน เพราะพล.อ.ประยุทธ์ เข้ามา ตามเส้นทางของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ที่ผ่านการทำประชามติมาแล้ว 16 ล้านเสียง คนที่เล่นแง่การเมืองบางคนอาจจะคิดว่า นี่เป็นการยอมเข้าร่วมรัฐบาลที่จะทำให้เสียเปรียบไหม ซึ่งอยู่ที่คนจะคิด แต่คิดว่าประชาชน จะได้เปรียบ

ถามต่อกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เคยประกาศท่าทีไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ไปก่อนหน้านี้เเล้ว นายถาวร กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ ลาออกจากหัวหน้าพรรคเเล้ว การพูดของท่านไม่ได้พูดจากการมติของที่ประชุมพรรคไปพูด เป็นความคิดเห็นส่วนตัว เเม้ว่าเราจะเคารพความคิดเห็นซึ่งกันและกัน แต่เมื่อไม่เป็นมติพรรค ก็จะไม่ผูกพันพรรค.