แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ประเมินผลการเลือกตั้งในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ พฤติกรรมทหารค้นปอเนาะ สร้างภาพลักษณ์เสียหาย ส่งผลให้ พลังประชารัฐได้เพียง 3 คนจากเป้าที่วางไว้ 5-6 คน
ผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม พรรคพลังประชารัฐ ได้รับการเลือกตั้งในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 3 คน ในพื้นที่จังหวัดยะลา 1 ที่นั่ง นราธิวาส 2 ที่นั่ง จากที่ตั้งเป้าไว้ 5-6 คน โดยในพื้นที่อ่อนไหวอย่างในจังหวัดปัตตานี ไม่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาแม้แต่คนเดียว ทั้งที่ตัวผู้สมัคร เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ ทำงานใกล้ชิดกับชาวบ้านและได้รับการยอมรับพอสมควร และนโยบายได้รับการตอบรับที่ดีมาก ทั้งบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตลอดจนมารดาประชารัฐ
‘จากการตรวจสอบไปยังพื้นที่ ชาวบ้านมีความรู้สึกไม่ดีต่อรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กรณีที่เข้าไปตรวจค้นโรงเรียนเอกชนสอนศาสนา และจับกุมครูหลายไปสอบสวน โดยไม่พบความผิด รวมทั้ง การไปตรวจสอบการใช้จ่าย จำนวนเด็กและครู ที่บางแห่งที่มีผลออกมาสร้างผลลบต่อโรงเรียนเอกชนสอนศาสนา หรือปอเนาะ’ แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ให้ข้อมูล
แกนนำคนดังกล่าว กล่าวว่า การจับกุมครูสอนศาสนา มีมาต่อเนื่อง รวมทั้งก่อนการเลือกตั้ง และช่วงการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า ปอเนาะ เป็นแหล่งบ่มเพาะการศึกษาที่สำคัญของพี่น้องมุสลิม โดยเฉพาะการเรียนการสอนด้านศาสนา และครูสอนศาสนา เป็นคนที่มีอิทธิพลต่อความรู้สึกของชาวบ้าน การทำลายภาพลักษณ์ของปอเนาะจึงส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของชาวบ้าน เป็นเหตุผลที่ชาวบ้านต้องการสั่งสอนรัฐบาล
‘การตรวจสอบโรงเรียนสอนศาสนาเอกชน สามารถทำได้ แต่ไม่ใช่หน้าที่ของทหารเข้าไปดำเนินการ เป็นหน้าที่ของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งหากกระทรวงเข้าไปตามกระบวนการชาวบ้านก็ไม่มีปัญหา เพราะปัญหาจำนวนเด็กเกินกว่างบประมาณมีอยู่ทั่วประเทศ ไม่ใช่เฉพาะที่ 3 จังหวัดภาคใต้ สิ่งเหล่านี้ รัฐบาลต้องนำไปปรับปรุง ไม่ให้เกิดเงื่อนไขขึ้นมาอีก’ แกนนำพรรคพลังประชารัฐ กล่าว