ปชป.จุดกระแสพัทลุงซื้อเสียง-ผู้สมัครหญิงหลั่งน้ำตา-นิพิฏฐ์ ยอมรับหนักสุด ออกนอกพื้นที่ไม่ได้

พรรคประชาธิปัตย์ระดมขุนพล ปราศรัยช่วยผู้สมัคร จ.พัทลุง ชวน-ไตรรงค์-อภิสิทธิ์ ครบทีม จุดกระแสชาวพัทลุง’ต้านซื้อเสียง’ ระบุ เลวร้ายมากกว่าทุกครั้ง

พัทลุงมี 3 เขตเลือกตั้ง ประชาธิปัตย์ ส่งส.ส.เก่าลงสมัคร ประกอบด้วย นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ สุพัชรี ธรรมเพชร และนริศ ขำนุรักษ์ โดยได้เปิดปราศรัยใหญ่ในโค้งสุดท้าย มีขุนพลพรรคร่วมปราศรัยคับคั่ง อาทิ นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรค นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค นายชำนิ ศักดิเศรษฐ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ซึ่งไม่สบายก็ยังเดินทางมาร่วมปราศรัยด้วย

นายไตรรงค์ กล่าวว่า ทีมาช่วยหาเสียง เพราะได้ยินว่า เลือกตั้งครั้งนี้รุนแรงที่สุด ผู้สมัครของพรรคถึงกับร้องไห้ รู้สึกเห็นห่วง จึงอยากให้พี่น้องช่วยกันอย่าให้ใครมาทำลายชื่อเสียงที่ดีของชาวพัทลุง

ส่วนนายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า เลือกตั้งคราวนึ้ ถือว่าเลวร้ายที่สุด ตั้งแต่เคยลงเลือกตั้งมา

‘ผมเป็นรองหัวหน้าพรรคของภาคใต้ แต่ไม่สามารถออกไปช่วยลูกพรรคได้ อย่างที่ยะลา พังงา ภูเก็ต ซึ่งที่ยะลา ผู้สมัครของพรรค ออกไป 2 คน และผู้สมัครก็เป็นคนใหม่ ยังไม่มีประสบการณ์ แต่ไปไม่ได้จริงๆ เพราะพัทลุงก็หนักไม่แพ้กัน คราวหน้าจะไม่รับตำแหน่งในพรรคแล้ว’ นายนิพิฏฐ์ กล่าวและว่า หากพี่น้องชาวพัทลุงเห็นว่า ผู้สมัครของพรรคดี ก็ต้องช่วยปกป้อง แต่หากเห็นว่าไม่ดี ก้ไม่ต้องช่วย

‘ผมเป็นส.ส.มา18 ปี จึงได้เป็นรัฐมนตรี คนที่ 2 ของจังหวัดพัทลุง ซึ่งห่างกัน 53 ปี คราวนี้มีความตั้งใจมาก ร่างนโยบายมากับมือ เพื่อต้องการแก้ปัยหาให้กับพี่น้อง พัทลุงถือเป็นเมืองหลวงของประชาธิปัตย์ อย่างให้ประชาธิปัตย์ ต้องเสียหายในช่วงที่ผมเป็นรองหัวหน้าพรรค ช่วยกันรักษาพรรคประชาธิปัตย์’

ขณะที่นายชวน ได้เรียกร้องให้เลือกผู้สมัครของพรรคให้มากที่สุด ไม่ต้องแบ่งให้ใคร เพราะถ้าเลือกแต่ผู้สมัครเขต ตัวเองก็จะไม่ได้เป็น ส.ส.

‘ต้องเลือกให้มากที่สุด เพื่อให้ผมได้เป็นส.ส.ด้วย’นายชวน กล่าว พร้อมได้ยกความสำเร็จในการดำเนินนโยบายสมัย เป็นนายกรัฐมนตรี อาทิ กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา โครงการอาหารกลางวัน นมโรงเรียน เค่าตอบแทน อสม. เงินเดือนผู้สูงอายุ

‘ทราบว่าผู้สมัครของพรรค ถึงกับร้องไห้กับความเลวร้ายที่เกิดขึ้นในการเลือกต้งในจังหวัดพัทลุง คนมีเงินเป็นสิ่งที่ดี แต่ควรจะนำเงินไปตั้งกองทุนให้เด็กกู้ยืมเพื่อการศึกษา ไม่ใช่นำมาซื้อเสียง ที่เป็นการทำลายประชาธิปไตย เราชาวพัทลุงอย่าให้เขาซื้อได้ อย่าให้สิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นที่พัทลุง’นายชวน กล่าว

เช่นเดียวกับนายอภิสิทธิ์ ที่เรียกร้องให้เลือกผู้สมัครของพรรคให้มากที่สุด เพื่อที่ตัวเอง นายชวน ได้เป็น ส.ส.ด้วย

‘ประมาณว่าคะแนนเฉลี่ยของ ส.ส.ประมาณ 80,000 คน หากเลือกคุณนริศ 40,000 เท่ากับขาดทุน 40,000 ต้องเอาคะแนนที่อื่นไปชดเชย หากเลือก 80,000 ถือว่าเสมอตัว หากเลือก 120,000 ถึงจะได้กำไร ช่วยให้ผมได้เป็น ส.ส.ด้วย และให้พรรคได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล พัทลุงก็เหมือนพื้นที่อื่นทีมีผู้สมัครมาก บางคนอาจจะมีญาติลงสมัคร บางคนก็ไม่อยากให้ญาติเสียหน้า เลือกให้ 1,000-2,000 ซึ่งต้องตัดใจ เลือกประชาธิปัตย์’ นายอภิสิทธิ์ กล่าว

หัวหน้าประชาธิปัตย์ได้กล่าวถึงความทล้มเหลวในการบริหารประเทศของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยเฉพาะการแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ โดยเฉพาะยางพารา

‘พรรคประชาธิปัตย์ กำหนดนโยบายยางพารากิโลกรัมละ 60 บาท บางพรรคบอกว่า จะให้ราคา 65 บาท ซึ่งถ้าเขาทำได้ ทำยางถึงยังถูก เพราะเขาไม่มีความสามารถในการบริหารประเทศ’นายอภิสิทธิ์ กล่าวและพูดถึงนโยบายของพรรค ในการประกันรายได้เกษตรกร ประกันราคายางพารา เป็นต้น