ฉลองยูเนสโก ขึ้นบัญชีโขนไทย เป็นมรดกทางวัฒนธรรม วธ.เปิดตัวอลังการ “แอนิเมชันรามเกิยรติ์” ดึงจิตกรรมฝาผนังรอบพระระเบียงพระอุโบสถวัดพระแก้ว ถ่ายทอดเรื่องราวออกมาเคลื่อนไหวบนแผ่นฟิล์ม “วิษณุ” ขอบคุณทีมสร้างทำฝันคนโบราณให้เป็นจริง เตรียมออกฉาย เม.ย.- พ.ค.นี้ รัฐบาลชี้ เหมาะสม เป็นช่วงพระราชพิธีสำคัญของชาติ
เมื่อวันที่ 14 มี.ค. ที่โรงภาพยนตร์พารากอนซีนีเพล็กซ์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว. วัฒนธรรม นายนนทรี นิมิบุตร (อุ๋ยนนทรี) ผู้อำนวยการบริหาร และนายอธิปัตย์ กมลเพ็ชร ผู้กำกับภาพยนต์ นายคมภิญญ์ เข็มกำเนิด ผู้เชี่ยวชาญด้านแอนิเมชัน นายเดวิส อัศวนนท์ ผู้พากย์เสียง “ทศกัณฐ์” วรรษพร วัฒนากุล ผู้พากย์เสียง “นางสีดา” ร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัวและฉายภาพยนตร์ แอนิเมชั่น รามเกียรติ์ ตอน รามาวตาร รอบปฐมทัศน์ โดยมีกำหนดฉายให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าชมช่วงเดือนเมษายน – พฤษภาคม 2562 นี้
นายวิษณุ กล่าวถึงนโยบายรัฐบาลในการนำทุนทางวัฒนธรรมมาสร้างสรรค์ภาพยนตร์ในยุค Thailand 4.0 ว่า รัฐบาลมีนโยบายในการนำทุนทางวัฒนธรรมมาสร้างสรรค์ตามนโยบาย Thailand 4.0 จึงได้สนับสนุนการกระทรวงวัฒนธรรม นำคุณค่าของศิลปกรรมไทย เรื่อง รามเกียรติ์ ตอน “รามาวตาร” อันเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมจากจิตกรรมฝาผนังรอบพระระเบียงพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม มาผลิตด้วยนวัตกรรมสื่อสมัยใหม่ และฉายภาพยนต์ ในรูปแบบแอนิเมชันให้ได้รับชมกัน ทั้งนี้สื่อเอนิเมชันยังเป็นส่วนหนึ่งที่จะส่งเสริมให้ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ง่าย โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชน ซึ่งการนำเสนอรูปแบบโขนที่หาโอกาสรับชมได้ยาก จึงถือว่าแอนิเมชันรามาวตาร เป็นภาพยนตร์ที่จะทำให้ประชาชนยุคดิจิตอลได้เข้าถึงวรรณกรรมเรื่องสำคัญของชาติ ที่สะท้อนมาจากความงามของจิตรกรรมอันทรงคุณค่าที่ปรากฏบนฝาผนังวัดคู่บ้านคู่เมืองของไทย อย่างไรก็ตามสำหรับการผลิตและฉายภาพยนต์แอนิเมชันรามเกียรติ์ ตอน “รามาวตาร” เป็นหนึ่งในกิจกรรมฉลองในโอกาสที่ยูเนสโก ประกาศขึ้นบัญชีโขน ในประเทศไทยเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา และเพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าถึงภูมิปัญญาอันล้ำค่าที่มีความงดงามและทรงคุณค่าทางศิลปกรรม
นายวิษณุกล่าวว่า คนไทยรู้จักรามเกียรติ์เป็นอย่างดีรู้จักมักคุ้นมาตั้งแต่เกิดเพราะเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตประเพณี ภาษาทส่วนหนึ่งของความเชื่อและเป็นส่วนหนึ่งของชื่อเสียงที่เห็นอยู่ในประเทศไทยหรืิอในพระปรมาภิไธยของพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่สมัยสุโขทัยอยุธยา มาจนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ก็จะมีคำที่แสดงถึงเรื่องรามเกียรติ์ เช่น ราม รามาธิบดี เป็นต้น
“การนำภาพบนฝาปูน 178 ห้อง มาทำให้เคลื่อนไหวได้เป็นการสนองนโยบายรัฐบาลอย่างดี ไทยแลนด์ 4.0. หมายถึงนำต้นทุนทางวัฒนธรรมขึ้นมา ไม่ปล่อยให้่นิ่งแข่งอยู่อย่างนั้น ไม่ปล่อยให้นิ่งบนฝาปูน ทำภาพนิ่ง ยักษ์อ้าปาก ม้าออกมาวิ่ง เคลื่อนไหว สนุกสนานทุกอย่างเคลื่อนไหวมีชีวิตเดินได้ การนำทุนทางวัฒนธรรมมาสร้าง สนองนโยบายนายกฯ และรัฐบาล สร้างคุณค่าให้ประเทศไทยด้าน ขอบคุณ ทำให้ฝันคนโบราณกลายเป็นจริง เตรียมการฉายในช่วงนี้ เป็นช่วงที่เหมาะสมอย่างยิ่ง เรากำลังจะมีพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ประกอบกับปีนี้ไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุมอาเซียน ซึ่งอาเซียนทั้ง10 ประเทศ รู้จักรามเกียรติ์อย่างดี อย่างจีนเองก็ได้บอกว่าไซอิ๋วได้แรงบันดาลใจจากรามเกียรติ์ เช่นเดียวกัน จึงถือว่ามรดกล้ำค่าของประเทศไทยเราด้วย”นายวิษณุกล่าว
ด้านนายวีระ กล่าวว่า การสร้างภาพยนตร์ดังกล่าว เป็นงานแอนิเมชัน สร้างสรรค์ภาพตัวแสดงให้มีการเคลื่อนไหวที่พัฒนามาจากท่าทางการแสดงโขน ประกอบกับเทคนิคพิเศษของแอนิเมชันมาถ่ายทอดเรื่องราวให้น่าติดตาม ภายในระยะเวลา 1 ชั่วโมง ทั้งนี้ยังถือว่าเป็นการจุดประกายให้ผู้สร้างสรรค์งานในปัจจุบัน เห็นถึงคุณค่าของงานศิลปะในรูปแบบต่างๆ มาสร้างมูลค่าเพิ่มให้เข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้าง
ทั้งนี้ ภายในงานมีการสาธิตวาดภาพจิตรกรรมฝาผนัง โดยอาจารย์สาคร โสภา นายช่างใหญ่ในการบูรณะภาพจิตรกรรมฝาผนังรอบพระระเบียงฯ และเวทีเสวนาเผยถึงเบื้องหลังการสร้างภาพยนตร์แอนิเมชันชิ้นประวัติศาสตร์ ที่ได้ชื่อว่านำภาพจิตรกรรมฝาผนังที่ยาวที่สุดในโลกจากพระระเบียงพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม มาสร้างสรรค์เป็นงานศิลปะที่สืบสานภูมิปัญญาไทยในรูปแบบนวัตกรรมสื่อร่วมสมัย พร้อมเปิดให้สื่อมวลชนได้รับชมภาพยนตร์แอนิเมชัน“รามเกียรติ์” ด้วย