เปิดปูม! นายทหารสายแข็ง ‘พ.ท.สมคิด คงแข็ง’ผบ.หน่วยนำจับเด็กปอเนาะออกกำลังกาย

พ.ท.สมคิด คงแข็ง มีส่วนเกี่ยวข้องกับความรุนแรง อย่างน้อง 2 เหตุการณ์ ในฐานะผบ.หน่วย ครั้งหนึ่งซ้อมพลทหารตาย และอีกครั้งซ้อมผู้ต้องหาตาย

กลายเป็นข่าวครึกโครม กรณี กำลังผสมทหารตำรวจและฝ่ายปกครองนำกำลัง เข้าปิดล้อมจับกุมเด็กปอเนาะที่สถาบันสอนศาสนา ในพื้นที่ ณ มัดรอสาตูลฟาละห์ ม.4 ต.ถนน อ.มายอ จ.ปัตตานี  ขณะที่เด็กกำลังออกกำลังกาย หลังการเรียนกีตาบ นำไปสู่ประเด็นคำถาม ถึงความเหมาะสม แม้จะมีอำนาจตามกฎอัยการศึกก็ตาม

มีการจับเด็กในปอเนาะทั้งหมด 38 คนตรวจ DNA และบันทึกประวัติ มีการจับเด็กนักเรียนถ่ายภาพเผยแพร่โดยทั่วไป โดยไม่คำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน เนื่องจากทั้งหมดไม่ได้มีความผิด และมีการควบคุมตัวเด็กกัมพูชา 13 คน ซึ่งวีซ่าขาดอายุและไม่มีวีซ่า

ไม่น่าแปลกใจที่การตรวจค้นจับกุมลักษณะนี้เกิดขึ้น เพราะคนนำทีม คือ พ.อ.สมคิด คงแข็ง ผบ.ฉก.ทพ.42 ที่ได้ชื่อว่า เป็นนายทหารสายแข็ง ประวัติไม่ธรรมดา เกี่ยวข้องกับความรุนแรงจน ถูกย้ายมาแล้ว แต่รอดมาได้

เมื่อปี 2555 พ.ท.สมคิดเคยมีชื่อเกี่ยวพันกับคดีทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตมาแล้ว

ย้อนไปปี 2555 อ้างอิงจากเวบ ประชาไท ระบุว่า ศูนย์ทนายความมุสลิมให้ข้อมูลว่าในปีนั้น พ.ท.สมคิด ซึ่งขณะนั้นดำรงยศร้อยเอก มีชื่ออยู่ในชุดเจ้าหน้าที่กำลังผสมทหารและตำรวจที่เข้าจับกุมกลุ่มผู้ต้อง สงสัยที่หมู่ 5 ต.สะเอะ กรงปินัง ยะลา โดยผลของการล้อมจับทำให้ต่อมามีผู้ร้องเรียนว่า ทำให้ผู้ถูกจับรายหนึ่งถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตคือ อัสฮารี สะมะแอ โดยเสียชีวิตในโรงพยาบาลหลังจากที่ถูกจับกุมเพียงหนึ่งวัน หลังการไต่สวนการตายในชั้นศาล

ศาลยะลามีคำสั่งเมื่อ 28 มิ.ย. 2555 ระบุว่า อัสฮารีเสียชีวิตในระหว่างถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัว โดยมีหลักฐานสำคัญคือบาดแผลบนตัวของผู้ตายที่สอดคล้องกับรอยแผลบนร่างกายของ พยานอีกหลายปากที่เป็นผู้ที่ถูกจับกุมในคราวเดียวกันและโดนทำร้ายร่างกายไปพร้อม ๆ กัน

การเสียชีวิตของ อัสฮารี เป็นหนึ่งในคดีที่ศาลระบุชัดเจนว่า ผู้ตายเสียชีวิตเพราะได้รับบาดเจ็บจากการถูกทำร้ายร่างกายจนสมองช้ำ ในหนนั้นร้อยเอกสมคิดในขณะนั้นเป็นผู้มีส่วนร่วมรับผิดชอบดูแลกลุ่มเจ้าหน้าที่กำลังผสมตำรวจทหารที่เข้าดำเนินการจับกุมด้วย

เจ้าหน้าที่ทหารที่เกี่ยวข้องให้การว่า อัสฮารีหลบหนีการจับกุมและลื่นหกล้มจนไปกระทบของแข็งเช่นโขดหินและต้นไม้ใหญ่ ซึ่งศาลเห็นว่าเป็นคำให้การที่ขัดแย้งกับลักษณะบาดแผลบนร่างกายของผู้ตาย ญาติและทนายความได้ใช้เวลาเกือบห้าปีในการต่อสู้เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม จนกระทั่งศาลยะลามีคำสั่งว่าถูกืำร้าน

อย่างไรก็ตาม การดำเนินคดีอาญากับกลุ่มเจ้าหน้าที่ ซึ่งญาติคาดหวังว่าจะตามมาก็ไม่เกิดขึ้นจนบัดนี้

BBC Thai  ได้ระบุ เมื่อปี 2559 ว่า พ.ท.สมคิด คงแข็ง เป็นผบ.หน่วยที่เกิดเหตุซ้อมพลทหารทรงธรรม หมุกหมัด จนเสียชีวิต โดย 8 เม.ย. 2559  พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่าได้มีการออกคำสั่งโยกย้ายนาย ทหารคือ พ.ท.สมคิด คงแข็ง ผบ.ร.152 พัน 1 รวมทั้งนายทหารยศร้อยเอกที่มีชื่อในกลุ่มนายทหาร 6 คนที่ร่วมกันลงโทษพลทหารทรงธรรม หมุดหมัด สังกัด ร.152 พัน 1 ค่ายพยัคฆ์ บันนังสะตา จังหวัดยะลา ให้ออกนอกหน่วย เนื่องจากถือว่า มีส่วนต้องร่วมรับผิดชอบในเหตุการณ์ที่มีการซ้อมพลทหารจนเสียชีวิต

‘จะมีการลงโทษทางวินัยและอาญา’ ผบ.ทบ.ในขณะนั้น ระบุ แต่ พ.ท.สมคิด ก็ยังเป็นผบ.หน่วยจนนำกำลังไปจับกุมเด็กปอเนาะ ขณะออกกำลังกาย

พ.ท.สมคิด นายทหารสายแข็ง ยังอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ ในอนาคต เราก็ไม่อาจรู้ได้ว่า จะเกิดอะไรขึ้น

นี่หละ คนที่ถูกส่งไปแก้ปัญหาภาคใต้