ญาติร้องความเป็นธรรม!ผู้ต้องหาคดีความมั่นคงตายรายที่ 3 ปล่อยข่าวถูกวางยา

วันนี้ 11ธค.61 กรณีการเสียชีวิตของนายอารซู เ วาะงอย อายุ25ปี บ้านเลขที่235 ม.8 บ้านไอปาแย ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ. นราธิวาส ที่โรงพยาบาลนราธิวาสศรีนครินร์เมื่อเวลาประมาณ20.20น.ของที่6ธันวาคมที่ผ่านมา หลังจากที่ทางเรือนจำจังหวัดนราธิวาสได้นำนายอารซู(ผู้ตาย)เข้ามารักษาที่โรงพยาบาลนราธิวาสศรีนครินทร์เป็นเวลา 20วัน เต็มจนเสียชีวิต ภายในห้องซีซียู CCUของโรงพยาบาลดังกล่าว โดยญาติได้นำร่างของนายอารซู เวาะงอย กลับจากโรงพยาบาลเพื่อประกอบพิธีทางศาสนาอิสลามที่บ้านเกิดที่บ้านไอปาแย และได้ทำการละหมาดและฝังศพในเช้าวันที่09.00น.ของวันที่7ธันวาคม ท่ามกลางประชาชนเข้าร่วมประกอบพิธีละหมาดศพและส่งศพเป็นจำนวนมาก และได้มีประชาชนและญาติทยอยมาเยี่ยมเยียนที่บ้านอย่างไม่ขาดสาย

ภายหลังจากการเสียชีวิตของนายอารซู เวาะงอย ได้มีการนำประเด็นการเสียชีวิตลงในเฟส ในโซเชียลเน็ตเวิร์ค โดยระบุการเสียชีวิตมาจากถูกเจ้าหน้าที่รัฐวางยา ทำให้เกิดการเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมออนไลน์เป็นไปอย่างกว้างขวาง “ เพื่อความถูกต้องในข้อเท็จจริงของข้อมูลข่าวสาร”ทางทีมงานสื่อมวลชนไม่นิ่งนอนใจ จึงได้จัดทีมลงพื้นที่เพื่อสืบเสาะหาเท็จจริง ว่าเกิดอะไรขึ้นกับการ”เสียชีวิตของนายอารซู เวาะงอยจากญาติ”


เมื่อมาถึงที่บ้านเลขที่235/4 ม.8 บ้านไอปาแย ต. จวบ อ.เจาะไอร้อง ซึ่งเป็นบ้านของนายมะแซ เวาะงอย วัย66ปี ผู้เป็นพ่อของผู้ตายมีอาชีพรับจ้างทั่วไป เป็นคนเปิดเผย มีอัธยาศัยดีกับผู้คนได้เป็นอย่างดี มีความเชื่อมโยงเป็นญาติกันทั้งหมู่บ้าน สภาพบ้าน เป็นบ้านปูนชั้นเดียว ทีมข่าวจึงเข้าไปพูดคุยกันจึงได้ความว่านายอารซู เวาะงอย เป็นคนลำดับที่7 มีพี่น้องด้วยกัน 9คน ได้แต่งงานกับนางสาวรัตติกา สามะ อายุ21 ปี ยังไม่ทันมีลูก เคยตั้งครรภ์มาครั้งหนึ่งถึง7เดือนแต่ลูกเสียชีวิตในครรภ์มาก่อนหน้านี้ มีอาชีพรับจ้างทั่วไปพักอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่235 ซึ่งอยู่ระแหวกติดกันกับบ้านของคุณพ่อ
นางสาวรัตติกา สามะ ภรรยาของผู้ตายได้เล่าให้กับทีมผู้สื่อข่าวว่าเมื่อช่วงปลายเดือนรอมฏอน 2 ปี ที่ผ่านมา ได้มีกำลังเจ้าหน้าที่สนธิสามฝ่ายเป็นจำนวนมากเข้ามาปิดล้อมบ้านและได้ควบคุมตัวสามี(นายอารซู)โดยเจ้าหน้าที่ระบุมีความเชื่อมโยงกับคนร้ายที่ก่อเหตุยิง เจ้าหน้าที่ตำรวจที่หน้า โรงพัก สภ.ระแงะ เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต และได้มีการดำเนินคดีพร้อมพวก10คน ศาลอาญาจังหวัดนราธิวาส และศาลได้มีการพิพากษาตัดสินคดีเมื่อวันที่ 9สิงหาคม61ที่ผ่ามาจำคุก 2 ปี ทางทนายความจึงได้ดำเนินการอุทธรณ์สู้คดี แต่กลับเกิดมีอาการป่วยหนักไอ ออกเลือด และสามีบอกมาตลอดเลยว่าเขาป่วยหนักจนไม่มีเรี่ยวแรงแม้จะลุกเดิน
จากการเผยของทนายศูนย์มูลนิธิทนายความมุสลิมนราธิวาส ว่า เท่าที่จำได้ นาย อารซู เวาะงอย เป็นรายที่ 3 จำเลยคดีมั่นคงนราธิวาส ที่เสียชีวิตระหว่างต่อสู้คดีและถูกคุมขังในเรือนจำ
-คดีกลุ่มนาย รุสลัน โละมะ(คนรือเสาะ) ผลคดียกฟ้อง
-คดีกลุ่ม พระองค์ดำ (ผู้ต้องหาเป็นคนบูเกะบากง ยี่งอ) ผลคดียกฟ้อง
-และล่าสุด นายอารซู คดีกลุ่มยิงตำรวจ โรงพักระแงะ เหตุเกิดเมื่อปี 2560
โดยศาล ชั้นต้นได้พิพากษาเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 61 ลงจำคุก 2 ปี และอยู่ระหว่างอุทธรณ์ ซึ่งคดีนี้ศาลได้พิพากษาผู้ต้องหาทั้ง10คน จำคุกตลอดชีวิต 1ราย จำคุก5ปี 1ราย และจำคุก2ปี 8รายที่เหลือ หนึ่งในนั้นคือนายอารซู เวาะงอย


จากนั้นเขาในฐานะภรรยาไม่รู้จะทำอย่างไรเพื่อให้สามีสามารถเข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล จึงได้เดินทางไปยังศูนย์มูลนิธิทนายความมุสลิมนราธิวาส เพื่อเล่าอาการป่วยของสามีในเรือนจำ แต่กลับไม่มีอะไรคืบหน้า สามีก็ยังคงอยู่ในเรือนจำ ทางเรือนจำให้แต่ยาพาราเซตามอนตลอดระยะเวลาป่วย
จนกระทั่งวันนั้นได้ไปเยี่ยมสามีแจ้งมาว่าทางเรือนจำจะพาออกไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลในวันพรุ่งนี้ ตนจึงแจ้งพ่อและแม่ของสามีทราบ จึงได้มานั่งรอที่หน้าเรือนจำนราธิวาสจากเช้าจนเย็นของวันดังกล่าวเพื่อจะได้เข้าไปสอบถามอาการป่วย แต่ทางเรือนจำไม่ได้นำสามีผู้ป่วยออกไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลแต่อย่างใด จึงพากันกลับบ้าน
จนกระทั่งมารับรู้จากสามีอีกทีในหลายวันต่อมาว่าได้ออกไปหาหมอที่โรงพยาบาลและหมอวินิจฉัยว่าเป็นป่วยเป็นวัณโรค ทั้งๆที่สามีไม่เคยดูดบุหรี่มาเลย จากนั้นสามีบอกว่าถูกแยกขังในเรือนจำ เพราะเป็นวัณโรค โดยห้ามญาติมาเยี่ยมเป็นเวลา 1สัปดาห์ เมื่อครบกำหนด1สัปดาห์จึงได้เดินทางไปเยี่ยมสามีเหมือนเดิม สามีบอกว่าได้มีหมอจากโรงพยาบาลเข้ามาตรวจคนไข้ในเรือนจำ และหมอได้สั่งให้ทางเรือนจำส่งตัวสามีเข้าไปรับการรักษาด่วนที่โรงพยาบาล จนกระทั่ง 1เดือนให้หลังทางเรือนจำได้โทรศัพท์ติดต่อบอกว่าให้มาเฝ้าสามีขณะนี้กำลังเข้านอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลนราธิวาสฯ จึงรีบแจ้งพ่อแม่สามีทราบและได้รีบเดินทางไปที่โรงพยาบาล
เมื่อมาถึงโรงพยาบาลพบเห็นสภาพร่างกายของสามีต้องตกใจมาก เพราะผอมซีด หน้าบวม ช่วงนี้พักอยู่ห้องรวมกับคนไข้ทั่วไป หลังจากนั้น3วัน ได้ย้ายเข้าพักรักษาตัวที่ห้องซีซียู CCU โดยหมอใช่เครื่องช่วยหายใจมาโดยตลอด หลังจากนั้นได้ย้ายเข้าออกพักในห้องรวมกับคนไข้ทั่วไป จากนั้นสามีมีอาการทรุดอีกครั้งจึงย้ายเข้าห้องซ๊ซียูอีกครั้ง จากนั้นอาการเริ่มดีขึ้น และทรงตัว ได้รับคำยืนยันจากพยาบาลว่าคนไข้มีสภาพทรงตัว ไม่น่าเป็นหวง ทางพยาบาลก็ให้ญาติจากห้องผู้ป่วยเพราะหมดเวลาเยี่ยม


จนกระทั่งเพียงแค่ 20 นาที ให้หลังภรรยาได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากผู้คุมสามีจากเรือนจำว่าสามีได้เสียชีวิตแล้วที่โรงพยาบาล จากนั้นจึงแจ้งให้พ่อแม่สามีและพี่ชายของสามีที่ทุกคนพึงกลับมาถึงที่บ้าน ต่างก็ตกใจ นึกไม่ถึงว่าสามีจะด่วนจากไปขนาดนั้น ทุกคนจึงรีบเดินทางไปที่โรงพยาบาลทันที และได้สอบถามพยาบาลที่เป็นผู้ดูแลคนไข้ และได้สอบถามพยาบาลคนเดิมที่ได้ถามอาการก่อนที่ญาติจะเดินทางกลับบ้านว่า”เกิดอะไรขึ้นครับคุณพยาบาล”ได้รับคำตอบมาว่าไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมสายยางเครื่องช่วยหายใจหลุดออกจากปากของคนไข้ ได้อย่างไร เพราะทุกคนก็รู้ว่าคนไข้มีสภาพช่วยตัวเองไม่ได้ จึงทำให้ญาติไม่สบายใจและเกิดความคลับแคลนใจต่อการเสียชีวิตของนายอารซู เวาะงอย


ด้านนายอารือมัน เวาะงอย อาบุ39ปี ตำแหน่งสมาชิก อบต.จวบ และเป็นพี่ชายของผู้ตาย ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวกรณีการเสียชีวิตของน้องชายว่าอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาดูแลทุกข์สุขของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างจริงจังและต่อเนื่อง ซึ่งจากกรณีน้องชายนั้นอยากตั้งข้อสังเกตดังนี้ 1-กรณีน้องชายป่วยในเรือนจำไอออกเลือก ทำไมทางเรือนไม่นำไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลในพื้นที่ทันที ถึงแม้ทางหมอได้สั่งให้ทางเรือนจำรีบนำผู้ป่วยที่เป็นน้องชายเข้ารับการรักษาจากอาการป่วยด่วนแต่ทำไมทางเรือนจำปล่อยให้เวลาล่วงเลยเวลา1เดือนเต็ม จนน้องชายมีอาการทรุดตัวหนักถึงส่งโรงพยาบาล ส่วนผมเชื่อว่าน้องชายผมไม่ใช่นักโทษประหารชีวิต ศาลพิพากษาจำคุก2ปี และอยู่ระหว่างการสู้คดีในชั้นอุทธรณ์
2-น้องชายผมได้รับการรักษาอาการป่วยที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจมาโดยตลอด เพราะเกิดจากสภาพของอาการป่วยที่มันหนักจนไม่สามารถใจด้วยตัวเอง และตลอดระยะเวลาของการรักษาญาติได้รับรู้อาการป่วยของน้องชายแต่ก่อนที่ญาติจะแยกย้ายกันกลับบ้านเพราะหมดเวลาเยี่ยม ทางพยายามก็ยืนยันเต็มปากว่าผู้ป่วยมีอาการทรงตัว แต่เพียงแค่20นาที่น้องชายกลับสิ้นใจตาย และได้รับคำตอบจากพยาบาลผู้ดูแลคนไข้ว่า”ไม่ทราบว่าสายยางเครื่องช่วยหายใจมันหลุดจากปากคนไข้ได้อย่างไร ทำให้หน้าจอมอนิเตอร์ดับขึ้นเลขศูนย์ ได้อย่างไร อาจเป็นสาเหตุที่น้องชายตายจากไปอย่างกะทันหันมันเกิดอะไรขึ้นกับโรงพยาบาลแห่งนี้
จึงอยากเรียกร้องความเป็นธรรมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาชี้แจง สร้างความกระจ่างให้กับครอบครัวและสังคมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับน้องชายและจะได้ไม่เป็นเยี่ยงอย่างให้รายต่อไปที่อาจเกิดขึ้นได้เสมอ