วันที่ 13 พ.ย. 61 พ.ต.อ.ศุภกร พึ่งรศ ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส นายมูฮาหมัดอับดุลนี อิบบรอเฮง หัวหน้าหน่วยบรรเทาสาธารภัย เมืองรันตูปันยัง รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย พ.ต.ท.กฤษดา ใจแก้ว ผบ.ร้อย ตชด.447 พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิธารน้ำใจสุไหงโก-ลก ได้ร่วมสนธิกำลังนำนักประดาน้ำ งมหาศพนายมูฮาหมัดซายูตี บินนาวี อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 848 ถ.ตือปีสุไหง เมืองรัฐตูปันยัง รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย หลังจากที่ได้กระโดดแม่น้ำสุไหงโก-ลก เพื่อหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติด สังกัด ตชด.447 ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังค้นกระเป๋าสตางค์ ที่ภายในกระเป๋ามีการซุกซ่อนเฮโรฮีน จำนวน 1 หลอดกาแฟ และยาบ้า 1 เม็ด ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลา 20.30 น.ของคืนวันที่ 12 พ.ย. 61 ที่ผ่านมา บริเวณท่าเรือข้ามฟากภายในชุมชนหัวสะพาน เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส
โดยตลอดทั้งคืนหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันค้นหานายมูฮาหมัดซายูตี แต่ไม่พบ เนื่องจากมีอุปสรรคกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวและมีน้ำหมุนวนเป็นจุดๆ รวมทั้งสภาพพื้นที่ไม่เอื้ออำนวย เนื่องจากแสงสว่างไม่เพียงพอ เจ้าหน้าที่จึงได้ยกเลิกภารกิจและในช่วงเช้าได้เริ่มกันงมค้นหาศพนายนายมูฮาหมัดซายูตี ซึ่งคาดว่าน่าจะเสียชีวิตแล้ว และในช่วงเช้าการร่วมสนธิกำลังของเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยและมาเลเซีย ได้เริ่มปฏิบัติการอีกครั้ง โดยงมค้นหาศพของนายมูฮาหมัดซายูตี ที่บริเวณตอหม้อของสะพานข้ามพรมแดนไทยมาเลเซีย เนื่องจากจุดดังกล่าวมีซากปรักหักพังของไม้หมอนที่ใช้ทำรางรถไฟ จมอยู่ใต้น้ำเป็นจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่าศพของนายมูฮาหมัดซายูตี อาจจะไปติดอยู่ที่บริเวณดังกล่าว แต่การค้นหาโดยทั่วบริเวณเจ้าหน้าที่ไม่พบศพของนายมูฮาหมัดซายูตี แต่อย่างใดซึ่งอาจว่าอาจจะถูกกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวพัดพาไปไกลกว่าที่จะค้นหาพบ และเจ้าหน้าที่ได้ยกเลิกภารกิจไปในที่สุด
ด้าน พ.ต.อ.ศุภกร พึ่งรศ ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบประวัติของนายมูฮาหมัดซายูตี พบว่ามีภรรยาเป็นชาวไทย ชื่อ นางรอปียะ กาเซ็ง อายุ 40 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ที่ชุมชนหัวสะพานใกล้จุดเกิดเหตุ และปัจจุบันภรรยาได้ถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำนราธิวาส ในข้อหายาเสพติด ซึ่งโดยปกตินายมูฮาหมัดซายูตี มักจะอาศัยข้ามเรือข้ามฟากมาฝั่งบ้านภรรยาอยู่เป็นประจำ หลังจากที่ในแต่ละวันจะเสร็จสิ้นจากการยึดอาชีพขี่รถ จยย.รับจ้างที่ตลาดเมืองรัฐตูปันยัง แม้ว่าผู้เสียชีวิตจะเป็นชาวมาเลเซีย แต่ด้วยมนุษยธรรมเราก็ต้องร่วมค้นหาศพของนายมูฮาหมัดซายูตี เพื่อที่จะให้เครือญาติได้รับศพไปประกอบพิธีทางศาสนา
