ในอิสลาม #อัลกุรอาน เตือนเราแม้เพียงการเข้าใกล้การทำ #ซินา
ซึ่งนับว่าเป็นการระมัดระวัง และเข้มงวดกวดขันอย่างยิ่งยวด เพราะการทำซินานั้นเกิดขึ้นจากแรงผลักดันของตัณหา
ดังนั้น การระมัดระวังมิให้เข้าใกล้จึงเป็นการประกันความปลอดภัยยิ่ง เพราะมีความใกล้ชิดกัน
อิสลามจึงถือเอาสาเหตุที่จะผลักดันไปสู่การทำซินา ว่าเป็นสิ่งที่ถูกห้าม ทั้งนี้เป็นการป้องกันการทำซินา #อิสลามไม่ชอบการปะปนกัน (ระหว่างชายหญิง) โดยไม่มีความจำเป็น
ไม่ใช่เพียงแค่ #ห้ามการแต่งตัวโดยการเปิดเผยอวัยวะที่ต้องห้าม แต่ยังเคร่งครัดในการ #ห้ามมีการอยู่ตามลำพังสองต่อสอง ส่งเสริมการแต่งงานสำหรับผู้ที่มีความสามารถ และ #สั่งเสียให้ถือศีลอด หากไม่สามารถจะแต่งงานได้
อิสลามได้วาดภาพการซินาโดยถือว่า #เป็นอาชญากรรมที่น่ารังเกียจยิ่ง เราพอจะประจักษ์เช่นนั้นได้จากหลักการขั้นมูลฐานของอิสลาม เราจึงขออ้างหลักฐานจากอายะฮ์อัลกุรอาน และฮะดิษของท่านร่อซูล ศ็อลลัลฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
อัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ตรัสความว่า
“และบรรดาผู้ที่ไม่วิงวอนขอพระเจ้าอื่นใดคู่เคียงกับอัลลอฮ์ และพวกเขาไม่ฆ่าชีวิตซึ่งอัลลอฮ์ ทรงห้ามไว้ เว้นแต่เพื่อความยุติธรรม และพวกเขาไม่ #ผิดประเวณี
และผู้ใดกระทำเช่นนั้น เขาจะได้พบกับความผิดอันมหันต์ การลงโทษใน #วันกิยามะฮ์จะถูกเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าสำหรับเขา และ #เขาจะอยู่ในนั้นอย่างอัปยศ”
(อัลฟุรกอน 25/68-69)
“และพวกเจ้าอย่าได้เข้าใกล้การทำซินา มันเป็นสิ่งชั่วช้า และหนทางที่เลวร้าย”
(อัลอิสร็ออ์ 17/32)
#อายะฮ์ที่ว่าด้วยการห้ามการซินา ห้ามเข้าใกล้ และห้ามทุกวิถีทางที่จะนำไปสู่การซินา ได้มีมาหลังจากอายะฮ์ที่ว่าด้วยการห้ามฆ่าลูกๆ และมาก่อนอายะฮ์ที่ว่า การห้ามฆ่าชีวิต เว้นแต่จะโดยวิถีทางที่เที่ยงธรรม (เมื่อมีการตัดสินให้ฆ่าตายตกตามกันไป ผู้ทำหน้าที่ประหารชีวิตจึงจะฆ่าคนๆ นั้นได้)
Crภาพ: Topicza