ชาวบ้านแห่ร่วมพิธีฝังศพแนวร่วมก่อความไม่สงบที่ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญเทพา สงขลา ฝังแบบซาฮีด ด้านเพจ Cerita Patani อ้างพ่อตา ระบุร้องรอยถูกซ้อมก่อนยิงดับ ปลุก’ตายสิบเกิดแสน’
วันที่ 8 ตุลาคม เวลา 09.30 น.ญาตินายมะดาโอะ เสมสัน แนวร่วมฯ คดีปล้นเต็นท์รถประกอบระเบิดคาร์บอม ซึ่งเสียชีวิตจากการปะทะกับ จนท.ที่อ.เทพา จ.สงขลา เมื่อคืนวันที่ 7 ตุลาคม ได้นำร่างผู้เสียชีวิตประกอบพิธีทางศาสนาที่กุโบร์บ้านระไมล์ต้นขาม ม.๗ ต.เปียน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา โดยเป็นการฝังที่ไม่มีการอาบน้ำศพ(ชะอีด)แต่อย่างใด และมีผู้เข้าร่วมประมาณ ๑๘๐ คน ส่วนใหญ่เป็นบุคคลในพื้นที่/มีบุคคลนอกพื้นที่ประมาณ ๕๐ คน และนักเรียนจากปอเนาะควนหรัน ม.๒ ต.เปียน ฯ ประมาณ ๓๐ คน
เพจ Cerita Patani ได้โพสต์ ข้อความ ระบุว่า ทำไมต้องลุกขึ้นสู้ ความจริงที่ถูกกดทับ “จากการให้การของพ่อตา เมื่อเวลา ประมาณ 01:30 น. เศษได้มีรถมา วนเวียนบริเวณใกล้บ้าน ซึ่งอยู่ในส่วนยางตนก็เลยออกมาดูและก็ได้เข้าไปนอน โดยที่ไม่รู้ว่าเป็นรถอะไรและเวลา ต่อมาตนและชาวบ้านก็ได้ยินเสียงปืนดัง ก็เลยออกมาดูจึงได้พบว่ามีผู้เสียชีวิต 1 ราย และมีเจ้าหน้าที่อีกจำนวนมากมาปิดล้อมบริเวณบ้านและจากการให้การของชาวบ้านบอกว่าเสียงปืนที่ดังคล้ายกับยิงข้างเดียวโดยไม่มี การตอบโต้หรือปะทะแต่อย่างใด ส่วนสภาพร่างกายของผู้ตายได้พบว่าร่างกายมีรอยบอบช้ำฟันด้านบนหักสามซี่และมีรอยถูกยิงทีขาคล้ายกับว่าโดน ซ้อมมาก่อนทีจะเสียชีวิตซะอีก ฯลฯ”
คำบอกเล่าที่ล้วนเป็นประจักษ์พยานให้กับผู้เสียชีวิต ที่ถูกออกหมาย(ยัดข้อหา)จับโดยที่เจ้าตัวไม่สามารถพิสูจย์ความบริสุทธิ์ใดๆได้ เพราะการค้นหาความยุติธรรมในผืนแผ่นดินที่ถูกยึดครอง มันไม่เคยบริสุทธิ์ จากสะพานกอตอ ประท้วงใหญ่ปัตตานี ทวงคืนที่ดินมัสยิดคู่เมืองปัตตานี(มัสยิดกรือเซะ) ตากใบวิปโยค ฯลฯ มาถึง ไล่ยิงหนุ่มมลายูขณะเดินทางไปทำงาน สุดท้าย สังหารเด็กหนุ่มมลายูผู้บริสุทธิ์ ที่เดินออกจากร้านก๋วยเติ๋ยว ความยุติธรรมยังคงเป็นอากาศ ที่สำคัญแต่จับต้องไม่ได้
ทำไมเค้าต้องลุกขึ้นทวงถาม “ความยุติธรรม” เนื้อหาที่สยามเองไม่เคยแม้จะรวบรวมความกล้าตอบอย่างลูกผู้ชาย ว่ามันคืออะไร? บทละครบทเดิม จับ ซ้อม หนี ต่อสู้ วิสามัญ ตั้งอาวุธปืน “สันติวิธีก่อกำเนิดการจับอาวุธ” “สันติสุขก่อกำเนิดงบประมาณ” “ความยุติธรรมก่อกำเนิดสันติภาพ” การไม่อาบน้ำศพผู้เสียชีวิต กลายเป็นความสะพรึงกลัวที่ตามหลอกหลอนสยาม เพราะกลัวการลุกฮือขึ้นของประชาชนที่เห็นถึงความ”อยุติธรรม” ที่สยามก่อให้มันเกิดขึ้น คำสั่งลับแกมบังคับถึงผู้นำศาสนาในพื้นที่ห้ามไม่ให้ประชาชนจัดการเดินขบวนสรรเสริญผู้ที่เสียชีวิตในการปะทะกับกองกำลังสยาม พยายามนำอายะห์ ในคัมภีร์อัลกุรอ่านมาตีความ โดยนำส่วนที่เป็นประโยชน์ต่อสยามมาใช้ ทั้งที่อายะอัลกุรอ่านถูกประทานลงมาสอดคล้องกับแต่ละสถานการณ์และบริบทแต่ละเหตุการณ์ ไม่ได้ประทานลงมาเพื่อใช้ในสถานการณ์โดยรวมทั้งหมด
‘การแก้ไขวิธีการเขียนหลักไวยกรณ์เพื่อให้ความหมายเปลี่ยนแปลงไป ในอายะและซูเราะห์ที่เกี่ยวเนื่องกับการสู้รบเพื่อนำมาซึ่งความ”ยุติธรรม”บนหน้าแผ่นดิน ขอคารวะผู้พลีชีวิตทั้งชีวิตในโลกดุนยา เพื่อนำซึ่งความ”ยุติธรรม”กลับคืนให้กับประชาชน เพื่อการมีชีวิตนิรันดิ์ในโลกอาคีรัต ตายสิบเกิดแสน อุดมการณ์ความท้าทายที่ไม่มีวันมอดดับ’ ระบุ