‘โค้ก’ กำลังเจรจากับ’ออโรรา คานาบิส’ แคนาดา เพื่อผลิตเครื่องดื่มผสมกัญชาเพื่อสุขภาพ ตามเทรนด์ที่หลายบริษัทในโลกกำลังดำเนินการ
นายเทอร์รี่ บูธ ซีอีโอ บริษัท ออโรรา คานาบิส ผู้ผลิตกัญชา ที่รวมถึงเพื่อใช้ในการแพทย์รายใหญ่ของประเทศแคนาดา ให้สัมภาษณ์ในรายการทีวี บีเอ็นเอ็น สำนักข่าวบลูมเบิร์ก หลังจากที่ทั้ง ออโรรา และบริษัทโคคา-โคล่า จำกัด ต่างมีแถลงการณ์ เรื่องความสนใจพัฒนาเครื่องดื่มผสมกัญชาเพื่อสุขภาพว่า นอกจากโค้กแล้วยังก็ยังกำลังเจรจากับอีก 2 บริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มระดับโลกด้วย แต่ทั้งหมดยังไม่เปิดเผยรายละเอียดการเจรจา
หากการเจรจาสำเร็จ โค้ก จะเป็นบริษัทเครื่องดื่มรายแรกที่ไม่ใช่ผู้ผลิตแอลกอฮอลล์ ที่เข้ามาสู่ตลาดเครื่องดื่มผสมกัญชา ซึ่งก่อนหน้านี้มีบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ ที่เข้าสู่ธุรกิจเครื่องดื่มผสมกัญชาแล้ว อย่างเช่น ของบริษัท คอนสเตลเลชั่น แบรนดส์ จำกัด เจ้าของ แบรนด์เบียร์โคโรนา ที่เพิ่งประกาศเมื่อกลางเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ลงทุน 3,800 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 120,000 ล้านบาท ซื้อหุ้นเพิ่มเป็น 38% จากเดิมถืออยู่ 10% ในบริษัทคาโนพี โกรท ผู้ผลิตกัญชารายใหญ่
รายงานระบุว่า โคคา โคล่า สนใจพัฒนาเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของ สารเคมีที่มีอยู่ในพืชอย่างกัญชา หรือที่เรียกกันว่า Cannabidiol (CBD) ซึ่งไม่มีผลข้างเคียงทางจิต และประสาทแต่อย่างใด
กระนั้นแม้ กัญชา จะได้รับการส่งเสริมเป็นสมุนไพรธรรมชาติ ที่ใช้ในการลดอาการปวด และอักเสบ รวมทั้งการรักษาความวิตกกังวลภาวะซึมเศร้า และนอนไม่หลับ แต่ โคคา โคล่า ต้องการผลิตเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ที่จะช่วยลดการอักเสบปวด เจ็บปวด หรือ ตะคริว มากกว่า
ทั้งนี้เป็นที่เชื่อกันว่าอุตสาหกรรม น้ำอัดลม ทั่วโลกต้องปรับตัวขนานใหญ่ หลังจากผู้บริโภคหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น ทำให้หลายแบรนด์เลือกผลิตเครื่องดื่มใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค และดีต่อสุขภาพ
นอกจากนี้ ยังมีบริษัท มอลสัน คอรส์ บริววิ่ง ร่วมทุนกับบริษัท ไฮโดรโพธีคารี พัฒนาเครื่องดื่มผสมกัญชา สำหรับตลาดแคนาดาด้วย
กัญชายังผิดกฎหมายในหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งไทย ส่วนต่างประเทศที่รัฐอนุญาตให้ใช้กัญชาได้ มีเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ประมาณ 29 รัฐ ใช้เพื่อความบันเทิงประมาณ 7 รัฐ แต่มีข้อห้าม เช่น ผู้ซื้อต้องอายุ 21 ปีขึ้นไป ห้ามเสพในที่สาธารณะ ครอบครองได้ไม่เกิน 28.5 กรัม ปลูกได้ไม่เกิน 6 ต้น เป็นต้น นอกจากนี้ที่แคนาดา ยังมีการค้ากัญชาอย่างเป็นล่ำเป็นสัน หลังนำมาใช้บำบัดรักษาโรคในช่วงกว่า 20 ปีที่ผ่านมา ในยุโรป มีที่สเปน สาธารณรัฐเช็ก ที่ให้ปลูก พก และใช้ได้ตามกฎหมายกำหนด