ลาวิชัย เป็นมุสลิมปาทาน ที่คลุกคลีอยู่ในวงการค้าวัวมาตั้งแต่เริ่มธุรกิจ จนเติบใหญ่เป็นอับต้นๆของประเทศ และได้ขยายธุรกิจไปสู่ธุรกิจปุ๋ย ยา และปลูกป่า
ลาวิชัย หรือวิชัย ปาทาน เป็นคนพิจิตร โดยกำเนิด แต่มีปัญหาขัดแย่งกันภายใน พ่อจึงย้ายครอบครัวมาอยู่ที่ ตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ ในช่วงวัยรุ่น ‘ลาวิชัย’ ได้โยกย้ายตัวเอง ไปอยู่มหาสารคาม ไปทำเนื้อขาย เกือบ 20 ปี สู้ด้วยตัวลำแข้งตัวเองตั้งแต่เด็ก ทำทั้งธุรกิจเนื้อ และค้าวัว เรียกว่า ช่ำชองในวงการวัวอย่างหาตัวจับยากคนหนึ่ง
ต่อมาได้ก่อตั้งอดุลย์ฟาร์ม ร่วมกับพี่น้อง ซื้อขายวัว และเนื้อวัวส่งขายไปทั่วประเทศ รวมทั้ง เป็นรายใหญ่ส่งขายไปยังมาเลเซีย
“ผมส่งขายวัวออกนอกประเทศมากที่สุด ทั้งปากีสถานและมาเลเซีย โดยมาเลเซียถือเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ ที่เป็นการส่งออกวัวโดยถูกกฎหมายผ่านแดนถูกต้อง แต่ต่อมามีกลุ่มที่ลักลอบส่งวัว ไม่ผ่านแดน มาตัดราคาวัวที่ส่งถูกต้อง จึงเลิกทำ หันมาค้าขายและประมูลงานกับทางราชการ’ ลาวิชัย กล่าว
ล่าสุด เพิ่งเข้าร่วมโครงการโคบาลบูรพาของรัฐบาล ที่ต้องการสนับสนุนให้ชาวบ้านจังหวัดสระแก้วเลี้ยงวัว โดยซื้อวัว 30,000 ตัวไปแจกจ่ายให้ชาวบ้าน
“ผมให้สหกรณ์ฯ ไปรับสัมปทาน และเราหาวัวมาส่ง ผมรับมา 10,000 ตัว ชูวิทย์ กุ๋ย(พิทักษ์พรพัลลภ) รับไป 10,000 ตัว และมีอีกคนรับไป 10,000 ตัว ซึ่งการให้สหกรณ์ฯ รับสัมปทานมา เพราะต้องใช้เงินค้ำประกัน 45 ล้านบาท และหวังว่า จะไม่ต้องใช้เงินตัวเองลงทุน เพราะต้องควักเงินซื้อวัวไปก่อน แล้วส่งให้กับทางราชการ มีการตรวจรับแล้ว ต้องส่งงาน ต้องรอเงินนานกว่าจะได้ แต่สุดท้ายเงินออกช้า สหกรณ์ฯ ก็ไม่มีเงินจ่าย ก็ต้องควักเงินตัวเองอยู่ดี” ลาวิชัย กล่าว
วัวโครงการโคบาลบูรพา ที่นำไปแจกชาวบ้านสระแก้ว รับผิดชอบโดยกรมปศุสัตว์ กำหนดวัวอายุ 18 เดือน สูง 115 ซม. ราคา โดยแจกให้คนละ 3 ตัว โครงการนี้แต่เดิมต้องการให้ซื้อวัวจากต่างประเทศ แต่ต่อมาได้กำหนดให้ซื้อในประเทศ เพื่อต้องการกระจายรายได้ให้กับชาวบ้าน
“ในการส่งมอบ บรรดากำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ก็จะเข้ามาแทรกแซง ขอเลือกวัวตัวโตๆ ให้กับคนของตัวเองก่อน แต่ของผมๆไม่ยอมรับ แจกถึงชาวบ้านโดยตรง และวัวที่นำไปมอบให้ชาวบ้าน ตรงตามสเป็ค และฉีดยาอย่างดี และนำมาเลี้ยงระยะหนึ่งอาหารเสริมอย่างดีเพื่อให้วัวอ้วนพี ส่งมอบของดีให้กับชาวบ้าน ไม่เอาเปรียบชาวบ้าน เหมือนบางคนที่วัวไม่สมบูรณ์บ้างอะไรบ้าง” ลาวิชัย กล่าว
วัวโคบาลบูรพา ได้ขยายเวลาออกไป เนื่องจากทางราชการจ่ายเงินไม่ตรงตามเวลาที่กำหนด ซึ่งได้ส่งมอบไปแล้ว ประมาณ 5,000 ตัว รวมแล้ว เกือบ 20,000 ตัว ซึ่งจะสามารถส่งมอบได้ตามกำหนด
ขณะเดียวกัน ก็ได้หารือกับทางฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นำวัวประมาณ 20,000 ตัวไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านเลี้ยงเป็นอาชีพเสริม ตอนแรก กำหนดให้คนละ 5 ตัว เพื่อให้มีรายได้เพียงพอ แต่ตอนหลังมาลดลงเหลือ 3 ตัว ซึ่งก็จะมีชาวบ้านได้ไปประมาณ 8,000 ราย เป็นโครงการที่ทำเพื่อพี่น้องภาคใต้ อยู่ระหว่างดำเนินการ คิดว่าไม่นาน คงจะเรียบร้อย
จากธุรกิจค้าวัว ลาวิชัย ได้แตกไลน์ธุรกิจที่เกี่ยวข้องไปสู่ ธุรกิจค้าส่ง ค้าปลีกยาที่เกี่ยวกับสัตว์ ซึ่งขายส่งปลีกให้กับผู้เลี้ยงสัตว์ทั่วไป และประมูลส่งให้กับทางราชการ รวมทั้งได้แตกไลน์ธุรกิจไปยังการค้าส่งต้นไม้ ปลูกต้นไม้ให้กับหน่วยงานราชการ
“เวลาเราไปประมูลวัว เห็นเขาประมูลต้นไม้กัน ก็สนใจไปศึกษา ก็คิดว่า ทำได้ เป็นวงจรธุรกิจการเกษตรที่อยู่ใกล้ๆกัน ทั้ง ค้าวัว ค้ายา และปลูกต้นไม้ แต่งานปลูกต้นไม้ก็มีปัญหา มีพวกหัวหมอในพื้นที่ จะเข้ามารับเงิน แต่ไม่อยากทำงานอ้างว่า เป็นโครงการช่วยชาวบ้าน ซึ่งช่วยชาวบ้านก็จริง แต่ชาวบ้านต้องทำงาน ไม่ใช่เอาเงินไปแจกชาวบ้าน เพราะเคยมีรับเงินแล้ว ทิ้งงาน ไม่ทำงาน เราก็ส่งมอบงานไม่ได้ คนกลุ่มนี้ ก็จะเข้ามาขุมขู่ แต่ผมก็จัดการได้หมด” ลาวิชัย กล่าว
ลาวิชัย นับเป็นนักธุรกิจมุสลิมที่ประสบความสำเร็จอย่างเงียบๆ ไม่เป็นที่รู้จักในแวดวงสาธารณะมากนัก แต่ในวงการค้าวัว รู้จักลาวิชัยดีว่า เป็นมือ 1 ของวงการ
“ที่ประสบความสำเร็จ ผมเป็นมุสลิม ไม่คิดโกงใคร เอาเปรียบใคร คุยอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น ตรงไปตรงมา และส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกค้า” ลาวิชัย กล่าวทิ้งท้าย