นายกรัฐมนตรี สั่งรัฐมนตรีช่วยศึกษาฯ จัดการปัญหา “ฮิญาบอนุบาลปัตตานี” ย้ำทุกฝ่ายปฏิบัติตามระเบียบ ปัญหาก็จบ ความขัดแย้งก็ไม่เกิด สงสัยตามระเบียบหมายถึงเด็กไม่คลุมฮิญาบหรือไม่
กรณีปัญหานักเรียนมุสลิมโรงเรียนอนุบาลปัตตานีขอแต่งกายตามหลักศาสนาอิสลามได้ เนื่องจากติดขัดระเบียบของโรงเรียน จนกลายเป็นปมขัดแย้ง โดยผู้ปกครองนักเรียนที่เป็นชาวพุทธบางส่วน สนับสนุนให้บุตรหลานแต่งชุดอยู่บ้านมาโรงเรียน กระทั่งเป็นบรรยากาศการเผชิญหน้าระหว่างกันนั้น ได้กลายเป็นประเด็นคำถามที่ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล สอบถามท่าทีกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ภายหลังการประชุม ครม.เมื่อวันอังคารที่ 14 ส.ค.61
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ควรมาถึงรัฐบาล ฉะนั้นจะให้ พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะหัวหน้าผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ไปประชุมชี้แจงอีกครั้งหนึ่งว่ามีความเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมอย่างไร
“เรื่องนี้ไม่ควรจะมาถึงรัฐบาล ส่วนการทำความเข้าใจ ก็บอกแล้วว่าอะไรต่างๆ ที่เป็นระเบียบ ต่างคนต่างปฏิบัติตามก็จบแล้ว ถ้าไปสู่ความขัดแย้ง ก็ขัดแย้งไม่จบไม่สิ้นทุกเรื่อง” นายกรัฐมนตรี ระบุ
อนึ่ง จากการตรวจสอบเพิ่มเติมของ “ทีมข่าวอิศรา” พบว่า ระเบียบที่นายกฯพูดถึงนั้น มีอยู่ 2 ระดับ คือ ระเบียบการแต่งกายของนักเรียนโรงเรียนอนุบาลปัตตานี มีประกาศไว้ชัดเจนในเว็บไซต์ของโรงเรียน http://www.anubanpattani.ac.th/home.html สรุปก็คือ นักเรียนชาย สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน นักเรียนหญิง สวมเสื้อสีขาว กระโปรงจีบสีน้ำเงิน ซึ่งหากตีความตามนี้ ย่อมหมายความว่านักเรียนมุสลิมไม่สามารถแต่งกายตามหลักศาสนาได้ เนื่องจากนักเรียนหญิงต้องสวมฮิญาบ หรือ ผ้าคลุมผม ส่วนนักเรียนชายต้องสวมกางเกงขายาว
อย่างไรก็ดี ยังมี ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยเครื่องแบบนักเรียน พ.ศ.2551 เปิดช่องให้นักเรียนมุสลิมในโรงเรียนของรัฐบาล สามารถแต่งกายตามหลักศาสนาได้ตามความสมัครใจ ซึ่งรวมถึงโรงเรียนของรัฐที่ตั้งอยู่ใน “ที่ธรณีสงฆ์” ด้วย โดยโรงเรียนอนุบาลปัตตานีก็จัดอยู่ในโรงเรียนประเภทนี้ เพราะเป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่ใน “ที่ธรณีสงฆ์” ของวัดนพวงศาราม อ.เมืองปัตตานี มีอีกชื่อหนึ่งว่า โรงเรียนวัดนพวงศาราม
กลุ่มผู้ปกครองนักเรียนมุสลิมที่เคลื่อนไหวขอให้บุตรหลานแต่งกายตามหลักศาสนาตั้งแต่เปิดภาคการศึกษาใหม่ กลางเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ก็อ้างระเบียบกระทรวงศึกษาฯฉบับนี้ ทว่าต่อมาหลังเกิดความขัดแย้งขึ้นในโรงเรียน ได้มีการเคลื่อนไหวจากวัดและผู้ปกครองนักเรียนที่เป็นชาวพุทธ ให้กระทรวงศึกษาธิการแก้ไขระเบียบฯว่าด้วยเครื่องแบบนักเรียนเสียใหม่ กระทั่งในเดือน มิ.ย.61 กระทรวงศึกษาธิการได้แก้ไขระเบียบฯว่าด้วยเครื่องแบบนักเรียน กำหนดให้นักเรียนมุสลิมในสถานศึกษาที่ตั้งอยู่ในที่ธรณีสงฆ์ การจะแต่งเครื่องแบบตามหลักศาสนาต้องเป็นไปตามข้อตกลงระหว่างวัดกับสถานศึกษาเท่านั้น ไม่สามารถแต่งได้ตามความสมัครใจตามระเบียบเดิม
การแก้ไขระเบียบดังกล่าว ถูกมองว่าเพื่อปลดล็อคปัญหา “ฮิญาบอนุบาลปัตตานี” แต่ปรากฏว่าปัญหากลับไม่จบลง เพราะมีความเคลื่อนไหวของเครือข่ายผู้ปกครองนักเรียน ออกแถลงการณ์ประกาศจุดยืนให้นักเรียนที่เป็นชาวพุทธ แต่งกายด้วยชุดอยู่บ้านไปเรียนหนังสือ จนกว่านักเรียนมุสลิมจะแต่งกายให้ถูกระเบียบของโรงเรียน ทำให้หลังจากนั้นมีนักเรียนพุทธแต่งกายด้วยชุดอยู่บ้านมาโรงเรียน ราวๆ 70 คน และปัญหายืดเยื้อมาจนถึงปัจจุบัน คือผ่านครึ่งภาคการศึกษามาแล้ว กระทั่งล่าสุดนายกรัฐมนตรีต้องสั่งการให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ไปชี้แจงทำความเข้าใจอีกครั้งหนึ่ง โดยให้ยึดระเบียบเป็นหลัก
Cr.สำนักข่าวอิศรา