ซีล-รบพิเศษ ยังช่วย 13 ชีวิตไม่สำเร็จ อาจทะลวงผนังถ้ำ

 

วันที่ 28 มิ.ย. การค้นหาเยาวชนทีมฟุตบอลหมูป่า อะคาเดมี่และโค้ช จำนวน 13 คน ที่ติดอยู่ในถ้ำหลวงเขาน้ำนางนอน ยังเต็มไปด้วยอุปสรรค หลังจากเมื่อเย็นวันที่ 27 มิ.ย. ได้มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ระดมสูบน้ำออกจากถ้ำในอัตรา 5,000 ลบ.ม.ต่อวินาที โดยคิดการณ์ว่า เวลาประมาณ 02.00 น. ระดับน้ำจะลดลงเหลือระดับหน้าอก ที่หน่วยซีล จะสามารถฝ่าน้ำเข้าไปช่วยเด็กที่คาดว่า อยู่บนที่พัทยาบีช เนินทรายภายในถ้ำ แต่เมื่อเวลา 03.00 น. ได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนัก กระแสน้ำภายในถ้ำไหลแรง และเอ่อท่วมสูงอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ที่ควบคุมระบบการจ่ายไฟ แจ้งเตือนว่า น้ำใกล้จะท่วมถึงคัตเอาท์แล้ว ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อผู้ปฏิบัติงานภายใน

เวลา 07.00 น. หน่วยซีลและเจ้าหน้าที่ทุกหน่วย ได้ถอนกำลังออกจากในถ้ำชั่วคราว เจ้าหน้าที่หยุดเดินเครื่องสูบน้ำทั้งระบบ โดยน้ำได้ท่วมทุกห้องโถงของถ้ำ จนไม่สามารถปฎิบัติการค้นหาได้ รอประชุมปรับแผนการค้นหาใหม่ 9 โมง

ขณะที่ การค้นหาปล่องลงไปบนภูเขาเพื่อลงไปภายในถ้ำ ก็ไม่ประสบความสำเร็จ แม้จะพบปล่อง 3 ปล่อง แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ได้หย่อนตัวลงไป พบว่า เป็นปล่องตัน ไม่สามารถเข้าไปภายในถ้ำได้

อย่างไรก็ตาม แม้แนวทาง การสูบน้ำเพื่อลดระดับน้ำให้หน่วยซีลเข้าไปทำงานต้องรอระดับน้ำ และการค้นหาปล่องเพื่อเข้าไปภายในถ้ำไม่สำเร็จ อีกแนวทางหนึ่ง ที่จะมีการประชุมวิเคราะห์คือ การเจาะผนังถ้ำเข้าไป ซึ่งก่อนหน้านี้ กระแสเสียงของนักสำเรวจถ้ำ เห็นว่า ถ้ำหลวง เขาน้ำนางนอน เป็นหินปูน การทะลวงถ้ำอาจจะทำให้ถ้ำถล่มลงมาได้ แต่ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรธรณี เห็นว่า สามารถเจาะผนังถ้ำได้ ซึ่งกำลังมีการตรวจสอบว่า จุดไหนที่เหมาะสม และอยู่ใกล้กับเด็กมากที่สุด นับเป็นวิธีการสุดท้ายที่จะนำมาช่วยเหลือเด็ก