ปฏิบัติการเพื่อค้นหาเด็กนักฟุตบอลและโค้ชทีมหมู่ป่าอะเคเดมี่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ในวันที่ 5 ยังคงดำเนินอย่างต่อเนื่อง เป็นปฏิบัติการ 24 ชั่วโมง โดยมีปฏิบัติการทั้งในถ้ำและบนภูเขา เพื่อหาหนทางไปยังพัทยาบีช เนินดินภายในถ้ำ ที่คาดว่า เป็นที่อยู่ของทั้ง 13 คน
ภายในถ้ำ เจ้าหน้าที่จากหลายภาคส่วน อาทิ กรมชลประทาน กทม. จังหวัดเชียงรายกรมทรัพยกรธรณี และอีกหลายหน่วยงาน ช่วยกันระดมสูบน้ำออกจากถ้ำ ด้วยเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่จากกรุงเทพมหานคร ปริมาณการสูบประมาณ 5,000 ลบ.ม.ต่อวินาที เป็นวิธีการสำคัญที่จะเข้าไปภายในถ้ำได้ หากระดับน้ำลด จะทำหน่วยซีล สามารถเข้าไปยังจุดที่เป็นเป้าหมายได้ ซึ่งหน่วยซีลจะกินนอนในถ้ำ เนื่องจากการเดินทางไปกลับต้องใช้เวลานานถึง 4 ช.ม.
โดยจุดนี้ มีนักดำน้ำจากอังกฤษเข้ามาสมทบ ถือเป็นผู้เชี่ยวชาญการกู้ภัยในถ้ำ โดย 1 ใน 3 คน ที่เดินทางมาถึงยังบริเวณถ้ำแล้ว เคยเข้ามาสำรวจถ้ำหลวงมาแล้ว สามารถชี้จุดสำคัญเป็นข้อมูลการทำงาน อาทิ ต้นไม้ใหญ่ 2 ต้นภายในถ้ำ ที่อาจทะลุไปยังด้านบนได้ ซึ่งตรงกับข้อมูลของกรมทรัพยากรธรณี นอกจากนี้ ยังมีเครื่องมือที่ทันสมัยคือ ระบบการสื่อสารภายในถ้ำมาช่วยด้วย
ส่วนด้านบนถ้ำ หน่วยรบพิเศษ(หมวกแดง) ทหารจากค่ายขุนเม็งและค่ายนเรศวร ตชด. ตลอดจนจนท.กรมอุทยานแก่งชาติ นับ 1,000 นาย กระจายกันหาโพรงเพื่อโรยตัวลงไปในถ้ำ โดยมีการเจอโพรงแล้ว 3 โพรง เจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่ง ได้โรยตัวลงไปแล้ว แต่ปล่องที่โรยตัวลงไป มีความซับซ้อน จึงยังไม่มีรายงานผลการโรยตัว
ทีมโรยตัวจะกินนอนบนภูเขา เนื่องจากไม่ต้องการเสียเวลาเดินเท้าไปกลับ 6 ชั่วโมง
ขณะที่เจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่ง จำนวน 24 ทีม ทำหน้าที่เสาะหาตาน้ำและปิดตาน้ำเพื่อไม่ให้น้ำไหลลงเข้าไปภายในถ้ำ
อีกด้านหนึ่ง ได้มีภาพเอกชนนำโคมไฟที่สามารถส่องสว่างนาน 12 ชั่วโมงมามอบให้เจ้าหน้าที่ด้วย
