คนภูมิใจไทยเต้น คนประชาธิปัตย์กล่าวหาหัวหน้าพรรค “ตัวตลกทางการเมือง” อัดกลับ”ผู้เฒ่าอยู่นาน” ระบุ ต้องปฏิรูปพรรคยกใหญ่
กลายเป็นวิวาทะทางการเมือง หลังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำทีมคณะรัฐมนตรีประชุมสัญจรที่บุรีรัมย์ และปรากฏตัวต่อหน้ามวลชน 30,000 คนที่สนามช้าง อารีน่า โดยในซีกของประชาธิปัตย์คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลภาคอีสาน กล่าวว่า ลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ และ จ.บุรีรัมย์ ของนายกรัฐมนตรี อาจจะกระทบกับฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์บ้าง แต่ไม่เป็นไร ถือเป็นการแข่งขันกัน การที่รัฐบาลลงไปในพื้นที่ก็ถือว่าเป็นประโยชน์กับอีสานตอนใต้ 4 จังหวัด
“แต่ที่นายกฯ ปฏิเสธว่าการไป ครม.สัญจรครั้งนี้ไม่มีการเมือง ถ้าคนเชื่อก็โอเค แต่ดิฉันไม่เชื่อ เพราะมีคำถามออกมาว่าใครดูดใครแน่ ดูได้จากเมื่อปี 57 ทหารเข้าไปค้นสนามช้าง อารีน่า แล้ววันนี้ผ่านมา 3 ปี กลับไปจูบปากกัน ขับรถไต่ถัง หมายความว่าอะไร แต่โชคดีที่ใส่หมวกกันน็อก ไม่เช่นนั้นคงหัวแตกไปแล้ว” คุณหญิงกัลยา กล่าว
ด้านนายอิสสระ สมชัย อดีต รองหัวหน้าประชาธิปัตย์ และอดีต ส.ส.อุบลราชธานี กล่าวว่า การเดินทางไป ครม.สัญจรที่ จ.บุรีรัมย์ ก็เป็นนัยทางการเมือง ตนว่าโดนดูดเเน่นอนเเล้วพรรคนี้(ภูมิใจไทย) ความใกล้ชิดสนิทสนมก็ชัดเจนมานาน ถึงขั้นมีข่าวลือก่อนหน้านี้ว่านยอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จะได้มาเป็นนายกรัฐมนตรี และล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ ยังเเนะนำให้ประชาชนหลายหมื่นคนว่า นายอนุทิน เป็นหนึ่งในทีมงานประชารัฐ ซึ่ง นายอนุทิน ยังยิ้มโค้งคำนับรับเสียงปรบมือของชาวบ้านด้วยความยินดีโดยไม่ปฏิเสธ เรียกว่าเป็นตลกทางการเมือง
“พรรคพวกมาเล่าให้ตนฟังว่า ประชาชนที่มายังสนามช้าง อารีน่า ถูกเกณฑ์มา โดยสั่งการเป็นลำดับขั้น ให้ผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้านใน จ.บุรีรัมย์ เกณฑ์คนมาให้ได้อย่างน้อยหมู่บ้านละ 30 คน เเบบนี้เรียกว่าไปเพื่อหาเสียงหรือไม่ ไม่รู้ เชื่อว่าประชาชนเห็นแล้วคิดเองได้ และอีกเรื่องที่น่าสังเกตคือ ไม่รู้ว่า นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย จริงใจกับ พล.อ.ประยุทธ์ แค่ไหน งานใหญ่ระดับต้อนรับนายกฯ และคณะรัฐมนตรี กลับใส่กางเกงขาสั้น ผมว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญเเน่นอน เเม้คนรู้ว่านายเนวินเป็นเจ้าของทีมฟุตบอล แต่ใช่ว่าจะต้องใส่กางเกงขาสั้นตลอด 24 ชั่วโมงเสียเมื่อไหร่ แบบนี้จงใจไม่ให้เกียรติ ไม่เคารพนายกฯ” นายอิสสระ ระบุ
ล่าสุด นายศุภชัย ใจสมุทร รองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย แสดงความเห็นผ่านเฟสบุคส่วนตัวว่า จากข่าวนี้ตนไม่เชื่อว่า ที่ทั้งสองท่านออกมาพูดนั้นจะทำในนามของพรรคประชาธิปัตย์ แต่เป็นการทำในนามส่วนตัว ซึ่งนับว่าเป็นการเสียมารยาทมาก เพราะท่านทั้งสองเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ แต่กลับมีการออกมาแสดงความเห็นวิจารณ์คนอื่นและกระทบกับพรรคการเมืองอื่น
“ถือเป็นการไม่ให้เกียรติกันอันเป็นเรื่องไม่บังควร แต่ก็คงไม่อาจจะว่ากล่าวกระไรได้อาวุโสทั้งวัยวุฒิและคุณวุฒิขนาดนี้แล้ว เป็นผู้เฒ่าที่อยู่มานานบนผืนโลก” นายศุภชัย ระบุ และว่า
ประเด็นก็คือ คนบุรีรัมย์เป็นคนมีอัธยาศัยไมตรีอันดีและเต็มใจที่จะต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง ยิ่งเป็น ครม.มาประชุมกันก็ยินดีเต็มใจมาต้อนรับโดยไม่ต้องกะเกณฑ์กันมา การกล่าวเช่นนั้นเสมือนเป็นการดูถูกดูแคลนคนบุรีรัมย์ เป็นนักการเมืองแต่พูดจาดูถูกประชาชน ตนว่า เป็นการกระทำผิดที่รุนแรงมาก
ต่อคำกล่าวที่พาดพิงถึงหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยนั้น ขอยืนยันว่าหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยแสดงจุดยืนแน่วแน่มาตลอดว่าอยู่บนแนวทางประชาธิปไตย และปฏิเสธแนวทางอื่น ไม่ต่างกับหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พูดเสมอว่าทุกอย่างว่าไปตามกติกาอภิสิทธิ์มีอุดมการณ์อย่างไร อนุทินก็ไม่ต่างหรอกครับ เลิกเสียทีนิสัยเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น
“จริงๆแล้วคนที่น่าสงสัยในอุดมการณ์น่าจะเป็นนายอิสระ สมชัย เองนั่นแหละ วันดีคืนร้ายก็ออกมาต่อต้านแนวทางประชาธิปไตยระบบรัฐสภา ออกมาตั้งเวที กปปส.ล้มรัฐบาล ต่อต้านการเลือกตั้ง แต่พอถึงเวลาทำเนียน ทิ้งพี่ทิ้งน้อง กปปส.กลับไปอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ รอเลือกตั้ง ไม่รอปฏิรูปก่อนการเลือกตั้งแบบที่บอกกับพี่น้อง กปปส. ออกมาโจมตีทหาร ทั้งที่ก่อนนี้เชียร์สุดใจ กว่าจะรู้ตัวว่าตีงูให้กากิน เสียค่าโง่ไปก็สายเสียแล้ว ตอนนี้ก็หงุดหงิดฟาดงวงฟาดงาด่าพรรคอื่นตามนิสัยเดิม” นายศุภชัย ระบุ พร้อมตบท้ายว่า
เห้อ!ห่วงน้องไอติม ท่าจะปฏิรูปพรรคกันเหนื่อยแน่ ไอติมเอ๊ย!