จับกัญชาครึ่งตันจากนครพนมลงใต้ รถนำไม่แจ้งมีด่าน

สภ.ชะอำ จับหนุ่มนครพนม ลักลอบขนกัญชากว่า 476 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 4.7 ล้านบาท

เวลา 19.00 น. วันที่ 28 ธันวาคม ขณะที่ ร.ต.อ.เกรียงไกร กิ่งสามี รอง สวป.สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.ชะอำ กำลังตั้งจุดตรวจจุดสกัดป้องกันเหตุ บริเวณถนนจอมพล ตัดเข้าหมู่บ้านหนองข้าวนก หมู่ 4 ต.สามพระยา อ.ชะอำ พบรถยนต์กระบะนิสสันนาวารา 4 ประตู สีบรอนด์เงิน กระบะด้านหลังมีฝาปิดแครี่บอยแบบเรียบสีดำ หมายเลขทะเบียน ชจ 5528 กรุงเทพ ขับมาตามเส้นทาง เมื่อใกล้ถึงด่านตรวจได้แสดงพิรุธรีบกลับรถด้วยความเร็วและเร่งเครื่องหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านจึงขับรถไล่ตามมาอย่างกระชั้นชิด เมื่อหลบหนีได้ประมาณ 2 กิโลเมตร รถนิสสันคันดังกล่าวได้จอดรถข้างทาง คนขับรถเป็นชาย 1 ราย ได้เปิดประตูวิ่งหลบหนีเข้าป่าข้างทางหายไป

เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบบริเวณหลังกระบะรถใต้แผ่นแครี่บอย พบถุงดำขนาดใหญ่จำนวน 8 ถุง ภายในห้องโดยสารบริเวณที่นั่งด้านหลังพบถุงดำขนาดใหญ่แบบเดียวกันอีก 6 ถุง รวม 14 ถุง ภายในแต่ละถุงพบแท่งฟลอยด์ขนาด 15x 20 เซนติเมตรซึ่งภายในบรรจุกัญชาอัดแห้งน้ำหนักก้อนละ 1 กิโลกรัม อยู่ถุงละ 34 ก้อน รวมทั้งหมดพบแท่งกัญชาอัดแห้ง 476 ก้อน น้ำหนักรวม 476 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 4 .7 ล้านบาทพ.ต.อ.กิตติ สะเภาทอง รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี พ.ต.อ.ภคิน ศิวเมธากุล ผกก.สภ.ชะอำ เดินทางมาจุดเกิดเหตุ สั่งการปิดล้อมพื้นที่นานกว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถจับกุมคนขับรถคันดังกล่าวได้ สอบสวนทราบชื่อต่อมาคือนายชาติชาย เนตวงษ์ อายุ 36 ปี ชาว หมู่ 7 ต.นาใน อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม จึงควบคุมตัวมายัง สภ.ชะอำ

สอบสวนเบื้องต้น นายชาติชายสารภาพว่า รับจ้างขนกัญชาจำนวนดังกล่าวมาจาก จ.นครพนม มุ่งหน้านำไปส่งที่ จ.สุราษฏร์ธานี ได้ค่าจ้างจำนวน 5 หมื่นบาท เดินทางออกจาก จ.นครพนม มาเมื่อช่วงสาย มีผู้ร่วมขบวนการขับรถนำหน้า 1 คัน ทิ้งระยะห่างประมาณ 10 กิโลเมตรเพื่อแจ้งเตือนหากพบด่านตำรวจ แต่เมื่อมาถึงด่านตำรวจดังกล่าวกลับไม่ได้รับแจ้งจึงตกใจรีบกลับรถหลบหนี ทิ้งรถวิ่งลงข้างทางและถูกตำรวจปิดล้อมจนถูกจับกุมได้ดังกล่าว ครั้งนี้ทำเป็นครั้งแรก

เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบหมายเลขทะเบียนรถที่ถูกจับกุมพบเป็นป้ายทะเบียนปลอม ซึ่งหมายเลขทะเบียนจริงเป็นรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า จึงเชื่อว่ามีการเตรียมการมาเป็นอย่างดี และไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นการกระทำผิดครั้งแรก เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการขยายผลติดตามจับกุมผู้กระทำผิดที่ร่วมขบวนการ