น้าแอ๊ดกล่าว >>
ตถาคตท่านเน้นเสมอเรื่อง”ศรัทธาคู่กับปัญญา”แต่ดูเหมือนชาวพุทธบ้านเราจะไปกันได้เเค่ศรัทธาเท่านั้น เวลานี้คนไทยเป็นเอามากไปเดินสายไหว้พระตามวัดขอหวย ขอโชคขอลาภ ทำยังกับพระพุทธรูปนั้นเป็นพระพรมหม พระอินทร์ของพวกฮินดูยังไงยังงั้น วัดก็เลยแข่งกันสร้างแต่พระอิฐพระปูนเล็กใหญ่เต็มไปหมด เพื่อหวังดึงดูดคนมาวัดมากๆ ซึ่งว่าไปแล้วก็ไม่ถูกครับ ถ้าพระพุทธรูปที่สร้างๆกันนั้นหมายถึงตถาคตแล้วละก็ ศรัทธานั้นมีได้ครับ เเต่ต้องเป็น”ศรัทธาที่ถูก”เมื่อคนเราเริ่มต้นนับถืออะไรก็ควรจะมีศรัทธาในสิ่งนั้นเป็นพื้นฐาน แล้วจึงพัฒนาตนให้ก้าวหน้าในหนทางแห่งปัญญา จนถึงที่สุดเเล้วเมื่อนั้นศรัทธาก็ไม่สำคัญ
… จะเล่าเรื่องที่ท่านสมเด็จปยุตฺโตท่านเล่าให้ฟังครับ ว่าครั้งหนึ่งตถาคตได้ตรัสถามพระสารีบุตรว่า ที่ท่านศึกษาธรรมจนแตกฉานนั้นท่านมีศรัทธาในตัวเราหรืออย่างไร? พระสารีบุตรตรัสตอบว่า ข้าพระพุทธเจ้าได้ศึกษาตามที่พระองค์สอนจนเห็นความจริงของธรรมได้ด้วยตัวเอง หาได้เชื่อเพราะศรัทธาในสิ่งที่พระองค์สอนแต่อย่างใด แต่เชื่อเพราะรู้ถึงความจริงนั้นว่าเป็นอย่างนั้นจริงตามที่พระองค์ทรงสอน ตถาคตจึงตรัสกับพระสารีบุตรว่าท่านถูกต้องเเล้ว ท่านเป็นผู้ศึกษาด้วยปัญญาจนเห็นธรรม เห็นความจริงของธรรมด้วยปัญญาของตนเอง ศรัทธาที่เคยมีต่อเราไม่จำเป็นอีกต่อไป พระอรหันต์ไม่ต้องมีศรัทธา มีแต่ปัญญากับเมตตาเเค่นั้นก็พอ
#เมื่อปัญญาเต็มเปี่ยมศรัทธาก็เป็นเรื่องรอง
#ปลง