ปลอมเอกสารสำนักจุฬาฯ ฟัตวาทำบุญคนตายบิดอะห์

เพจใช้ชื่อว่า ซุนนะห์ ไทยแลนด์ ได้เผยแพร่เอกสารได้นำภาพโลโก้และอ้างอิงอ.อรุณ บุญชม ระบุว่า “การทำบุญบ้านคนตายนั้นเป็นบิดอะฮ์(ลงนรก)” ซึ่งความเป็นจริงแล้วทางสำนักและอ.อรุณ ไม่ออกคำฟัตวาดังกล่าวตามที่พวกเขานำภาพมาเสนอแต่อย่างใด

ทั้งนี้ในหนังสือฟิกฮ์นิติศาสตร์อิสลาม แปลโดยอ.อรุณ บุญชม ประธานกรรมการอิสลามกรุงเทพฯ ในหน้าที่ 240. ท่านอ.อรุณแปลว่า

“ข้อ 7. การที่คนในครอบครัวของผู้ตายยุ่งอยู่กับการทำอาหารและเรียกมาชุมนุมรับประทานอาหารกัน ดังที่มีประเพณีในสมัยนี้คือเป็นบิดอะฮ์ที่ขัดกับซุนนะฮ์อย่างรุนแรง”

คำกล่าวของอ.อรุณ ที่ได้แปลมาจากหนังสือ ซึ่งไม่ตรงตามที่มีการนำไปตัดภาพว่าทางสำนักจุฬาและอ.อรุณ กล่าวหาตามคำในภาพดังกล่าว ซึ่งในภาพที่ระบุว่า

“การทำบุญบ้านคนตาย การทำอาหารเลี้ยงบ้านคนตาย ถือเป็นบิดอะฮ์(อุตริกรรมในศาสนา)ที่บาป(หะรอม)ทั้งผู้ทำและผู้ไปร่วม”

และระบุว่า แปลโดย อ.อรุณ บุญชม

มีการตั้งข้อสังเกตุว่า 1. อ.อรุณ ไม่ได้แปลหรือกล่าวสักสำนวนหนึ่งเลยว่า “การทำบุญบ้านคนตาย การทำอาหารเลี้ยงบ้านคนตาย ถือเป็นบิดอะฮ์(อุตริกรรมในศาสนา)ที่บาป(หะรอม)ทั้งผู้ทำและผู้ไปร่วม”

เพราะบ้านเราเมื่อมีผู้ตาย โดยปกติ ครอบครัวมัยยิดก็จะอยู่ที่มัยยิดเสียใจจากการจากไป และคอยต้อนรับแขกผู้มาเยี่ยมมัยยิด

2. ในบ้านเราผู้ที่ทำอาหารเลี้ยงแขกนั้น ไม่ได้เป็นภาระกับครอบครัวผู้ตายเลย เนื่องด้วยบ้านใกล้เรือนเคงเขามาช่วยกันปรุงอาหารเลี้ยงแขกที่มาเยี่ยมมัยยิด มิใช่ครอบครัวผู้ตายที่คอยปรุงอาหารตามที่วะฮาบีย์กล่าวหา

3. แขกที่มาเยี่ยมมัยยิดนั้นเมื่อมาเยือนบ้านก็ถือเป็นซุนนะฮ์ที่ต้องต้อนรับแขก ถึงแม้จะด้วยน้ำ 1 แก้วก็ตาม โดยที่ไม่ได้เป็นการทำให้ครอบครัวมัยยิดหนักใจหรือรุมกันมากินแต่อย่างใด

4. การทำบุญหลังจากมัยยิดได้ฝั่งลงงไปแล้วนั้น เป็นความสมัครใจที่กระทำกันมานาน โดยไม่ได้เป็นเงินของเด็กกำพร้าหรือฉ้อฉลมาแต่อย่างใด

ดังนั้น การนำภาพดังกล่าว ทั้งข้อความมาเสนอ จึงเป็นการโกหกและใส่ร้ายทางสำนักจุฬาและอ.อรุณ บุญชม โดยสิ้นเชิง