#นายกรัฐมนตรีของประเทศไทยในอุดมคติของผม
ขอให้ทุกคนอ่าน อัลฟาติฮะห์ กุลฮูให้ แด่อัลลอฮยัรฮัม ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณในฐานะปัญญาชนมุสลิมคนหนึ่งดีใจ ที่ ดร.สุรินทร์ เป็นบุคคลที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนทุกศาสนิกดั่งที่ อดีต นายกรัฐมนตรี นายชวน หลีกภัย ได้กล่าวไว้
ความสำเร็จของท่านเป็นสิ่งที่ประเสริฐมาก สร้างปรากฎการณ์ใหม่เป็นมุสลิมคนแรกๆของไทยที่จบปริญญาเอกจากสถาบันที่คนรุ่นใหม่ทุกคนใ่ฝ่ฝันอยากเรียนและจบจากที่นั่น
ส่วนตัวจำได้ว่า รู้จักชื่อ ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ ตั้งแต่เด็กๆผ่าน นสพ.มุสลิมนิวส์ ซึ่งเป็น นสพ.มุสลิมอันดับหนึ่งในเวลานั้น เขียนขึ้นปก รมต.การต่างประเทศ สร้างความดีใจและประทับใจไม่น้อยที่มีมุสลิมคนแรกก็ว่าได้สามารถขึ้นมาเป็น รมต ต่างประเทศ
ท่ามกลางความดีใจได้ไม่นาน ถึงกับผิดหวังเมื่อข่าวทุกช่อง นสพ.ทุกฉบับ ตีข่าวหน้าหนึ่งว่า มาเลเซียได้ทำการจับกุม สะมะแอ ท่าน้ำ แกนนำพูโลพร้อมพวกและได้ทำการส่งตัวกลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทย ด้วยความที่ตัวเองยังเป็นเด็กประถม ไม่สามารถที่จะค้นข่าวและศึกษากระบวนการที่มีมากและหลายช่องทางเหมือนสมัยปัจจุบัน ทำให้ในใจของเด็กหนุ่มที่กำลังเติบโต รับรู้เพียงแต่ว่า รัฐบาลไทยในสมัย นาย ชวน หลีกภัยเป็นนายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้ ดร.สุรินทร์ ในฐานะ รมต.ต่างประเทศทำการประสานจับกุมในครั้งนั้น
สิบปีต่อมาด้วยความความประสงค์ของ อัลลอฮ อดีตเจ้าหน้าที่สถานทูตอเมริกาได้ชวนผมกับเพื่อนเพื่อพบกับ ดร.สุรินทร์ ขณะที่ท่านเป็นเลขาธิการอาเซียนเป็นการส่วนตัวครั้งแรกในชีวิต ที่ โรงแรมโนโวเทส เพลินจิต กทม.
หลายวันต่อมา มีการประชุมอาเซียนภาคประชาชน ที่ กทม.ก็เป็นความโชคดีกับผมอีกครั้งเมื่อพี่ชลิดา ได้ให้โอกาสผมเข้าประชุมและให้ผมขึ้นเวที่ถามคำถามกับเลขาธิการอย่างใกล้ชิด ด้วยคำถามที่เป็นเอกลักษณ์และเป็นคำถาม เกี่ยวกับสันติภาพปาตานี จึงทำให้ผมได้รับนามบัตรและเบอร์ส่วนตัวของท่าน
และ17 ปีต่อมา เมื่อสะมะแอ ท่าน้ำได้รับการพักโทษ ผมมีโอกาสถาม ยีแอ ในที่ประชุมครั้งที่ยีแอ เป็นวิทยากร ว่า ดร.สุรินทร์ คือผู้ประสานการจับกุมในครั้งนั้นจริงไหมครับ
คำตอบที่ยีแอตอบ ณ วันนั้น ว่า เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นในสมัยพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลแต่ยีแอไม่ได้เอ๋ยถึง ดร.สุรินทร์
และครั้งล่าสุดซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมได้มีโอกาสรับคำปรึกษาจากท่านอย่างใกล้ชิด
เรามีการพบปะที่ห้องรับรองท่าอากาศยานนราธิวาส ผู้ใหญ่ที่อยู่ด้วยคือ ท่านทวี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และท่านอธิการบดี มนร.
คำพูด ที่ ดร. สุรินทร์ ได้พูดต่อหน้าทุกคน คือ ต้องการคนรุ่นใหม่ มาร่วมกันพัฒนานราธิวาสให้ประชาคมโลกได้รู้จัก
ก่อนจาก ดร.สุรินทร์ได้บอกผมว่า ถ้าเจอยีแอ บอกว่าผมฝากสลามด้วย
ส่วนตัว ดร.สุรินทร์ เป็นนักการเมืองที่ผมชื่นชอบ ท่านคือคนที่มีคุณภาพที่สุดคนหนึ่งของสังคมไทย เป็นแบบอย่างให้กับมุสลิมทั่วโลกได้ ผมประทับใจใน ลีลา ทักษะการบรรยายของ ดร.สุรินทร์ มาก คือพูดบรรยายเป็นภาษาไทยพร้อมๆ กับยกอายะห์อัลกุรอ่าน ไปด้วย หากพูดในชายแดนใต้ ท่านก็ยกคำภาษามลายูในบางคำพร้อมกับการพูดภาษาอังกฤษในเวลเดียวกัน
เชื่อว่าหลายคนรอวันว่าเมื่อไหร่ ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยสักครั้ง เพราะไม่เฉพาะคนไทยเท่านั้นที่ให้การยอมรับ แม้แต่นานาชาติก็ให้การยอมรับอย่างมากด้วย เชื่อว่าจะสร้างชื่อให้กับประเทศไทยได้ไม่น้อย
แต่น่าเสียดาย ที่ ดร.สุรินทร์ อยู่ในพรรคประชาธิปัตย์ ที่หล่อหลอมให้ ความรู้ที่มี วิสัยทัศน์ของ ดร.สุรินทร์ กลับไม่เกื้อหนุนและสอดรับกับโลกยุคใหม่เท่าที่ควร
เสียดาย ที่ความเป็นนักการเมืองของ ดร.สุรินทร์ มองไม่เห็นปัญหาโครงสร้างแห่งอำนาจของสังคมไทย ที่บั่นทอนและทำลายศักยภาพของพลเมืองไทย
สังคมไทย และสังคมมุสลิมมีความโชคดีอย่างมาก ที่มี ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ เป็นแบบอย่างให้กับผมและ เป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคนกับการพัฒนาตัวเอง พัฒนาสังคมไทย และอัลอิสลาม
ดูอาร์ขอให้อัลลอฮทรงตอบรับอามาลของท่าน อัลลอฮยารฮัม ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ
ด้วยรักและศรัทธา
ซาวาวีย์ (ทวีศักดิ์ ปิ)
12 รอบีอุลเอาวัล 1439
