สัมผัสร่องรอยกรีก-โรมัน ที่ตุรกี

โดยSurat Atta
ผู้สื่อข่าว คมชัดลึก

ว่ากันว่ามาเที่ยวตุรกี ไม่มาชม’วิหารเทพีอาร์เทมิสโบราณ’ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ยุคโบราณถือว่ามาไม่ถึงตุรกี
จากข้อมูลทางประวัติศาสตร์ระบุว่า วิหารแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมืองโบราณเอฟฟิซุสหรือเอเฟส มหานครที่ยิ่งใหญ่ของจักรวรรตโรมันโบราณเดิมเป็นที่อยู่อาศัยของชาวโยเดียที่อพยพมาจากกรีก ซึ่งเคยรุ่งเรืองในศตวรรษที่6 ก่อนคริสต์กาล
ต่อมาถูกรุกรานโดยพวกเปอร์เซียและพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช ภายหลังเมื่อโรมันมาครอบครองก็ได้สถาปนาเอฟฟิซุสเป็นเมืองหลวงในต่างจังหวัดของโรมัน
ปัจจุบันคือจังหวัดอิซเมียร์ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของประเทศตุรกี
มีฉากหลังเป็นเนินเขาสูงเรียกว่า’เนินบุลบุล’ เป็นที่พำนักสุดท้ายของพระแม่มารีย์หรือ ‘House Of virgin Mary’ที่ถูกค้นพบโดยคณะนักบุญออกัสตินและได้รับคำยืนยันจากศาสนจักรนิกายโรมันคาทอริกแล้วว่า’เป็นของจริง’
หลังฟังบรรยายสรุปจากออสก้า ไกด์ท้องถิ่น ประจำทริป จากนั้นก็เดินไปตามเส้นทางผ่านเสาหินอ่อนสีขาวที่ทอดยาวผ่าใจกลางเมืองเก่า ซึ่งเต็มไปด้วยซากปรักหักพัง แต่ยังเห็นร่องรอยของความรุ่งเรืองในอดีต เมื่อ 2,000 ปีที่แล้ว
เสาวิหารกว่า 100 ต้นนี้สร้างด้วยหินอ่อนเป็นสถาปัตยกรรมกรีกแบบไอโอนิค ศิลปะแบบเฮเลนสติคที่มีความอ่อนหวานและปราณีต
ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตรจากประตูทางเข้าถึงทางออก แม้จะเมื่อยล้าบ้างตามประสาผู้สูงวัย แต่ก็ไม่รู้สึกเบื่อ เมื่อได้มองสองข้างทางที่เต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจในอดีต
เดินมาตามทางประมาณ 500 เมตรจากปากประตูทางเข้า จะเป็นสถานที่ประชุมของนักการเมือง ซึ่งมีลักษณะเป็นครึ่งวงกลมเป็นชั้น ๆ ไล่ระดับขึ้นไป
ถัดไปอีกหน่อยฝั่งซ้ายจะเป็นที่อยู่อาศัยของพวกคหบดี นักการเมืองและเจ้าหน้าที่ระดับสูง ฝั่งขวาจะเป็นซ่องโสเภณี แบ่งเป็นล๊อก ๆ ส่วนด้านหน้าสันนิษฐานว่าจะเป็นห้องอบซาวน่าและมีส้วมหลุมนั่งเรียงแถว ซึ่งเข้าใจว่าบริเวณนี้เคยเป็นสถานเริงรมณ์และแหล่งโลกีย์มาก่อน
เดินทางสักระยะจะเป็นประตูเข้าเมือง สังเกตุตรงเสาประตูทั้งสองข้างจะมีแกะสลักรูปเฮอคิวถัดลงมาจะเป็นห้องสมุด ซึ่งยังคงมีความสมบูรณ์มากที่สุด
ใกล้กันจะเป็นเวทีกลางแจ้งครึ่งวงกลมบรรจุผู้คนได้ประมาณ 3,000 คนใช้สำหรับการประลองกำลังต่อสู้ของพวกทหารศึก
ใช้เวลาดื่มด่ำกับบรรยากาศในอดีตแห่งความรุ่งเรืองของกรีก-โรมันเมื่อ 2,000 ปีก่อนประมาณชั่วโมงครึ่ง จึงกลับมาขึ้นรถกลับ

Surat Atta