กลายเป็นซาก! ชายสูงวัยขับกระบะชนกลางลำรถพ่วง ดับคาซาก

เมื่อเวลา 23.40 น.วันที่ 3 ตุลาคม 2560 ร.ต.อ.ปรีชา เต็กสี รอง.สวสอบสวนสภ.ลาดหลุมแก้ว ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถกระบะชนกับรถพ่วง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตติดภายใน เหตุเกิดบริเวณถนนตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี มุ่งหน้าบางบัวทอง หมู่ที่ 1 ตำบลหน้าไม้ อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี จึงรุดตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยแพทย์เวรจากโรงพยาบาลลาดหลุมแก้ว และเจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ้ง พร้อมด้วยอุปกรณ์เครื่องตัดถ่าง โดยมีเจ้าหน้าที่สายตรวจ และเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง มาคอยอำนวยการจราจรให้ในที่เกิดเหตุ

ในที่เกิดเหตุบริเวณกลางถนน สายตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี มุ่งหน้าบางบัวทอง บริเวณจุดกลับรถ มหพันธ์กระเบื้อง พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อนิสสัน นาวาร่า สีดำ หมายเลขทะเบียน 2กว-1700 กรุงเทพมหานคร ได้มุดเข้าไปครึ่งคัน สภาพพังยับเยิน หลังจากพุ่งชนเข้ากลางลำ กับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ยี่ห้อ hino สีขาว หมายเลขทะเบียน 70-2355 สุพรรณบุรี ส่วนตัวลูกพ่วง หมายเลขทะเบียน70-23554 สุพรรณบุรี ที่ประตูข้างรถเขียนว่า( สำรวย เสร็จกิจ )ที่บรรทุกน้ำดื่มมาเต็มคันรถ

ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ้ง ต้องใช้อุปกรณ์เครื่องตัดถ่าง พร้อมกับใช้รถพ่วงสิบล้อ มาลากและดึงตัวรถกระบะออกมาจากใต้ท้องรถพ่วงคันดังกล่าว โดยใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมง จึงนำรถยนต์กระบะออกมาได้ และพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ที่อยู่ด้านที่นั่งคนขับ ทราบชื่อต่อมาคือ นายธราวิชญ์ อ้นทอง อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 ซอยติวานนท์ 2 แยก 6/3 ตำบลตลาดขวัญ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี สภาพศพคอหักเสียชีวิตอยู่ในซากรถ จากการสอบถามนายสุชาติ สวนสว่าง อายุ 48 ปี (เสื้อสีเหลือง) ชาวจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นคนขับรถพ่วงให้การว่า ตนเองออกมาจากบริษัทเสริมสุข สาขาปทุมธานี เพื่อบรรทุกน้ำดื่มไปส่งที่ศูนย์กระจายสินสินค้าเซเว่น ที่ย่านบางบัวทอง และเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุตนกำลังจะกลับรถ เพื่อจะมุ่งหน้าไปบางบัวทอง จากนั้นก็ได้ยินเสียงดังโครม และสิ่งของกระจายออกมา จึงได้หยุดรถและลงมาดู ก็พบว่ามีรถกระบะพุ่งชนเข้า ไปใต้รถพ่วงของตนเองแล้ว และมีผู้เสียชีวิต จึงได้ยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจในที่เกิดเหตุ

ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบในที่เกิดเหตุ ร่วมชันสูตรกับแพทย์โรงพยาบาลลาดหลุมแก้ว พร้อมบันทึกภาพในที่เกิดเหตุเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากการตรวจสอบไม่พบรอยเบรคของรถกระบะ ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบสวนสาเหตุ และจะนำตัวคนขับรถพ่วงไปสอบสวนเพิ่มเติมที่โรงพัก ส่วนผู้เสียชีวิตมอบให้ เจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ้ง นำส่งชันสูตร ยังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เพื่อหาสาเหตุการตาย และจะได้ประสานญาติมารับศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป