ภายหลังที่มีพระสงฆ์ศรีลังกาและชาวบ้านจำนวนหนึ่ง ได้ชุมนุมขัดขวางการชวยเหลือชาวโรฮิงญา อ. ชัยณรงค์ เศรษฐเชื้อ อาจารย์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้โพสต์บทความผ่านเฟสบุค Chainarong Sretthachau เล่าถึงความสัมพันธ์ระหว่างพระพม่ากับพระศรีลังกา
ย้อนรอยความสัมพันธ์ระหว่างพระสงฆ์หัวรุนแรงในพม่ากับศรีลังกา และไทย
พม่า มีกลุ่มพระสงฆ์หัวรุนแรงจัดตั้งขบวนการเคลื่อนไหน 969 เพื่อต่อต้านมุลสิม นำโดยวีระธุ
ศรีลังกา มีกลุ่มโบดู บาลา เสนา หรือบีบีเอส เพื่อต่อต้านมุสลิมในศรีลังกา มีกิริมา วิมาลาโยธี และมีส่วนปลุกปั่นกระแสเกลียดชังชาวมุสลิม คล้ายกับพระวีระธุ
29 กันยายน 2557 บีบีเอสได้เชิญพระวีระธุเข้าร่วมการประชุมของกลุ่มบีบีเอส ในสนามกีฬาในกรุงโคลัมโบ ศรีลังกา และวีระธุประกาศต่อที่ประชุมว่าจะร่วมมือกับบีบีเอส เพื่อปกป้องและคุ้มครองชาวพุทธที่ถูกคุกคามจากศาสนาอิสลาม ขณะที่ชาวมุสลิมได้ต่อต้านการมาพูดของวีระธุ
เมื่อเดือนมีนาคม 2559 วีระธุเคยมารับรางวัลที่วัดพระธรรมกาย และนำนักศึกษาพระพม่าไปดูงานถึงมหาจุฬาฯ แต่ไม่มีสื่อใดรายงาน นอกจากเฟสบุ๊ค ของ อ.ดร.ลลิตา หาญวงษ์
ขณะที่มีพระสงฆ์ไทยหัวรุนแรงบางรูปสร้างกระแสให้เกิดความเกลียดชังทางศาสนาในสังคม และบางรูปถูกขอจากฝ่ายความมั่นคงให้ลาสิกขาไปแล้วเมื่อเร็วๆ นี้
สำหรับเหตุการณ์ในศรีลังกา เมื่อวันที่ 26 ที่ผ่านมา กลุ่มพระสงฆ์หัวรุนแรงชาวสิงหลได้บุกเข้าโจมตีบ้านพักของชาวโรฮิงญาที่อยู่ภายใต้การดูแลของ UNHCR
หลังเกิดเหตุ นายราจิธา เสนารัตเน โฆษกรัฐบาลศรีลังกาได้ออกมาประณามว่า การกระทำดังกล่าวไม่ใช่สิ่งที่พระพุทธเจ้าสอน และพระสงฆ์ที่ลงมือก่อเหตุไม่ใช่พระสงฆ์ที่แท้จริง แต่เป็นสัตว์และแสดงความเห็นว่า “ในฐานะที่เป็นชาวพุทธผมรู้สึกอับอายกับสิ่งที่เกิดขึ้น สตรีที่กำลังอุ้มลูกน้อย ถูกบังคับให้ออกจากที่พักซึ่งถูกโจมตีโดยกลุ่มพระสงฆ์”
หลังจากนี้ คงต้องจับตาขบวนการเคลื่อนไหวของพระสงฆ์และชาวพุทธชาตินิยมเชิงศาสนาใน 3 ประเทศนี้ อย่างใกล้ชิด เพราะความคิดนี้มีแนวโ้น้มว่าจะขยายตัวได้ง่ายโดยการปั่นกระแสความเกลียดชังทางศาสนาและชาติพันธุ์