รอยเตอร์ 3 สิงหาคม / ประธานาธิบดี โจโค วิโดโด้ ประธานาธิบดีอินโดนีเชีย ได้ส่งหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเมียนมา เรียกร้องให้รัฐบาลเมียนมายุติการใช้ความรุนแรงในการปราบปรามมุสลิมโรฮิงญา หลังมีการขว้างระเบิดน้ำมันเข้าใส่เอกอัคราชทูตเมียมาในอินโดมีเชีย ที่จาการ์ต้า
เมื่อกลางดึกคืนวันอาทิตย์ ได้มีคนร้ายขว้างระเบิดน้ำมันใส่สถานเอกอัคราชทูตเมียนมาในจาการ์ตา เพื่อต่อต้านเมียนมาที่ใช้กำลังในการปราบปรามชาวโรฮิงญา ซึ่งชาวอินโดนีเชียประเทศที่มีมุสลิมมากที่สุดไม่อาจยอมรับได้ ซึ่งตำรวจ เปิดเผยว่า เหตุระเบิดส่งผลให้เกิดเพลิงไหม้เพียงเล็กน้อย บริเวณชั้น 2 ของอาคาร ที่อยู่ด้านหลังสถานทูต
หลังจากนั้นในวันอาทิตย์ได้มุสลิมอินโดนเชีย ประท้วงหน้าสถานที่เมียนมา เรียกร้องให้ออง ซาน วู จี ลาออกจากการรับรางวัลโนเบลไพรซ์ สาขาสันติภาพพร้อมร้องเรียนใหรัฐบาลอินโดเชียแสดงท่าทีต่อการกระทำรุนแรงของรัฐบาลเมียนมา
โจโค วิโดโด้ จึงได้ส่งหนังสือผ่านรมว.ต่างประเทศ ให้รัฐบาลเมียนมาใช้แนวทางสันติในการแก้ไขปัญหา และให้คณะจากสหประชาชาติเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังจากก่อนหน้านี้ รัฐบาลเมียนมาไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ของยูเอ็นไปเข้าไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มาร์ซูดี้ เดินทางไปเจรจาแก้ปัญหา
รัฐบาลอินโดนีเชีย ได้เร่งให้ความช่วยด้านมนุษยธรรมแก่าวโรฮิงญา โดยมาร์ซูดี รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเชีย จะเดินทางไปบังคลาเทศเพื่อให้การช่วยเหลือผู้อพยพ
ปัญหาชาวโรฮิงญา ที่มีอยู่ 1.1 ล้านคนในรัฐยะไข่ เป็นปัญหาที่ท้าทายรัฐบาลชาวพุทธที่นำโดยออง ซาน ซูจี โดยมีชาวโรฮิงญามากกว่า 73,000 คนอพยพอยู่ในบังคลาเทศ
สำหรับเหตุความรุนแรงล่าสุดในรัฐยะไข่ news24 รายงานโดยอ้างข้อมูลรัฐบาลเมียนมาว่า มีผู้เสียชีวิตประมาณ 400 ราย ในจำนวนนี้ 370 คน เป็นชาวโรฮิงญา
ข่าว รอยเตอร์ ภาพ news24
