ค้นหาคำตอบ”นูร์ฮาซัน อาแว”ทุกอย่างมีพร้อม ทำไมเข้าร่วมขบวนการ จนสู่จุดจบ!

สำนักข่าว”อิศรา” ได้วิเคราะห์บสัมภาษณ์ “มะรูดิง อาแว” พ่อของ “นูร์ฮาซัน อาแว” ที่ถูกระบุว่า เป็นคนร้ายปล้นเต้นท์รถที่นาทวี จ.สงขลา และถูกวิสามัญ สิ่งที่ต้องหาคำตอบ คือ”นูร์ฮาซัน อาแว” เป็นคนขยัน มีรายได้เลี้ยงชีพได้ดี ไม่มีสัญญาณอะไรมาก่อนว่า เขาจะเข้าร่วมกับขบวนการ …


แม้ฝ่ายความมั่นคงได้ออกมายืนยันว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุปล้นรถปิคอัพ 7 คันเพื่อนำไปทำระเบิดคาร์บอมบ์ป่วนจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็น “กลุ่มคนร้ายหน้าเดิมๆ” แต่ผู้เสียชีวิตเพียงหนึ่งเดียวจากปฏิบัติการครั้งนี้ กลับไม่มีประวัติก่อความไม่สงบ ไม่มีหมายจับ และไม่ได้มีชื่ออยู่ในเครือข่ายของขบวนการผู้ก่อเหตุรุนแรง 

nu

เขาคือ นูร์ฮาซัน อาแว เด็กหนุ่มอายุยังไม่ถึง 26 ปี เขาถูกพบเป็นศพในรถกระบะคันหนึ่งที่ถูกปล้น เจ้าหน้าที่ระบุว่ารถคันนี้ขับผ่านไปทางบ้านเกาะหม้อแกง รอยต่อ อ.เทพา จ.สงขลา กับ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี และเกิดการยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่จนรถตกข้างทาง ภายในรถไม่พบใครอื่นยกเว้นศพของ นูร์ฮาซัน

ประวัติของ นูร์ฮาซัน ในสารบบของเจ้าหน้าที่มีเพียงที่อยู่ตามบัตรประชาชน ย่านตะลุโบะ อ.เมืองปัตตานี และเคยศึกษาอยู่ที่โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาแห่งหนึ่งย่านจะบังติกอ ในเมืองปัตตานีเช่นกัน

การจากไปของ นูร์ฮาซัน ในฐานะคนร้าย สร้างความตื่นตะลึงและเศร้าเสียใจให้กับคนในครอบครัวอย่างมาก โดยเฉพาะของของเขา…มะรูดิง อาแว

“ตกใจมากตอนที่มีคนโทรมาบอกให้ไปรับศพลูกชายที่โรงพยาบาล” มะรูดิง เอ่ยขึ้น พร้อมสำทับว่าเขาไม่เชื่อว่าลูกจะเป็นคนร้ายจริงๆ

 “ตอนแรกที่รู้เรื่องไม่เชื่อว่าลูกชายจะเป็นคนอย่างที่ถูกกล่าวหา เพราะเขาเป็นเด็กดี อยู่ในกรอบตลอด ที่สำคัญเขามีงานทำที่มั่นคง มั่นใจว่าสาเหตุที่ทำให้ลูกชายต้องตกอยู่ในสภาพนั้น เพราะมีคนบังคับเขาอีกที เขาไม่ได้ทำเพราะสมยอมแน่นอน ที่ผ่านมาทางบ้านไม่เคยเห็นพฤติกรรมว่าลูกจะเป็นคนในขบวนการ ไม่มีข้อมูลแบบนี้เลย ลูกใช้ชีวิตไปวันๆ อยู่ที่บ้านแล้วก็ไปทำงานฝ่ายบัญชีของโรงเรียนที่เขาเคยเรียนและสอนที่นั่น”

มะรูดิง ยืนยันว่าศพของลูกชายได้รับการประกอบพิธีทางศาสนาตามปกติ ไม่ได้ทำพิธีตามหลักชะฮีด หรือตายในสงคราม (คนในขบวนการหลายคน หากเสียชีวิตจากการปะทะกับเจ้าหน้าทื่ จะทำพิธีตามหลักชะฮีด)

 “ยืนยันว่าศพของลูก ก่อนทำพิธีมีการอาบน้ำศพและละหมาดตามหลักศาสนาอย่างถูกต้อง ไม่ได้ทำพิธีตามหลักการตายในชะฮีด ไม่เชื่อว่าเขาจะร่วมขบวนการและไม่ยอมรับด้วย”

nu2

มะรูดิง ย้ำว่าแม้จะสูญเสียลูกชายไปแล้วจริงๆ แต่ก็ไม่เคยเชื่อว่าลูกจะเลือกใช้วิธีรุนแรง

“ผมเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าลูกจะเลือกใช้วิธีรุนแรง ตลอดเวลาที่ผ่านมาลูกชายเป็นคนชอบเรียนหนังสือทั้งสายศาสนาและสายสามัญ เขาเรียนชั้นประถมในพื้นที่ จากนั้นได้เข้าเรียนต่อที่โรงเรียนเตรียมศึกษาจนจบศาสนาชั้น10 และสามัญมัธยมศึกษาปีที่ 6 แล้วก็เข้าเรียนจนจบศาสนาชั้น 13 ที่ปัตตานี ก่อนจะเข้าเรียนต่อที่วิทยาลัยชุมชนจนจบอนุปริญญา แล้วได้เรียนต่อภาคพิเศษที่มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์กระทั่งจบปริญญาตรีเมื่อปีที่ผ่านมา” มะรูดิงเล่าถึงเส้นทางชีวิตของลูกชาย

        “ก่อนเกิดเหตุเขาทำงานที่โรงเรียนดารุลมะอาเรฟ ที่สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานีหลังเก่า ดูแลเรื่องบัญชี และยังเป็นครูสอนบางช่วงที่โรงเรียนเตรียมศึกษา รวมทั้งเป็นครูสอนตาดีกาที่มัสยิดในหมู่บ้าน ทุกวันศุกร์เขาจะเป็นผู้บรรยายธรรม หรืออ่านคุตบะห์ก่อนละหมาดวันศุกร์ที่มัสยิดในหมู่บ้าน ชาวบ้านจึงรักเขา จนชาวบ้านเรียกร้องให้ขึ้นเป็นคอเต็บประจำมัสยิดในหมู่บ้านด้วย”

ไม่ใช่แค่งานที่เกี่ยวกับศาสนา แต่งานทางธุรกิจ นูร์ฮาซัน ก็ทำด้วยเช่นกัน

“ลูกชายผมมีธุรกิจ” มะรูดิงเล่าต่อ “เขาร่วมกับเพื่อนเลี้ยงปลาทับทิม แล้วส่งขายที่สะพานปลา เขาเป็นคนขยันมาก”

นิสัยบางอย่างของลูกชายขัดกับสิ่งที่เห็นตอนเป็นศพอย่างสิ้นเชิง นั่นจึงทำให้หัวอกของคนเป็นพ่อไม่อาจยอมรับได้

  “ที่งงมากก็คือ ปกติเขาไม่ชอบใส่กางเกงยีนส์และหมวกแก๊ป รวมทั้งรองเท้าผ้าใบ ทุกๆ วันเขาจะชอบนุ่งโสร่ง ใส่เสื้อแขนยาว สวมหมวกกะปิเยาะห์และซอเกาะสีดำ (หมวกแบบหนึ่งที่มุสลิมนิยมใส่) แถมยังห้ามน้องสาวใส่กางเกงยีนส์ด้วย เรื่องนี้งงมาก แต่ก็ไม่สามารถหาคำตอบได้ เมื่อเขามาเสียชีวิตในชุดแบบนั้น”

nu1

มะรูดิงเล่าว่า สิ่งที่ทำให้คิดมากขึ้นไปอีก ก็คือเมื่อได้เข้าไปในห้องส่วนตัวของลูกชาย

   “เหมือนเขาเตรียมตัวตลอดเวลา ข้าวของและเอกสารสำคัญ ทั้งบัตรประจำตัวประชาชน ใบขับขี่รถจักรยานยนต์ สมุดบัญชีธนาคารกรุงไทย มีเงินสดประมาณ 3 หมื่นบาท บัตรเอทีเอ็ม 2 ใบ นาฬิกาข้อมือ แหวนนาค กุญแจ 9 ดอก โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ทั้งหมดถูกเก็บรวมไว้ในถุงผ้า เหมือนกับรู้ตัวเองว่ากำลังจะไปไหน แล้วไม่ได้กลับมา ทุกอย่างที่เป็นของส่วนตัวเขาขณะนี้ถูกเจ้าหน้าที่ยึดไปตรวจสอบ พร้อมทั้งรถจักรยานยนต์ด้วย”

ปริศนาการเสียชีวิตของ นูร์ฮาซัน เป็นประเด็นที่ผู้เกี่ยวข้องต้องสร้างความกระจ่าง เพราะสะท้อนถึงความซับซ้อนของขบวนการที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ชายแดนใต้ที่อาจไม่ใช่แค่การปลุกระดมให้คนเกลียดรัฐ แต่อาจจะมีสิ่งอื่นที่ลึกล้ำมากกว่านั้น…สิ่งนั้นคืออะไร?

—————————————————————————

บรรยายภาพ :

1 มะรูดิง อาแว พ่อของ นูร์ฮาซัน

2 พิธีฝังศพนูร์ฮาซัน บิดายืนยันว่าทำกันตามปกติ

3 รถกระบะบรรทุกระเบิดที่พบศพนูร์ฮาซัน สวมรองเท้าผ้าใบ (ในวงกลมสีแดง) ใส่หมวกแก๊ป และกางเกงยีนส์