เมื่อวันที่ 15 ส.ค.60 เวลา 14.45 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าที่ประชุมเห็นรายชื่อคณะกรรมการปฏิรูป 11 ด้านตามพ.ร.บ.แผนและขั้นตอนการปฏิรูปประเทศ พ.ศ. 2560 ประกอบด้วย 1.ด้านการเมือง นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ เป็นประธาน นายธีระภัทร์ เสรีรังสรรค์ นายพรชัย ตระกูลวรานนท์ นายวรรณธรรม กาญจนสุวรรณ พล.อ.ฐิติวัจน์ กำลังเอก พล.ต.ท.ตรีทศ รณฤทธิวิชัย นางนรรัตน์ พิมเสน นายวันชัย สอนศิริ นางฐะปาณีย์ อาจารวงศ์ นายรวี ประจวบเหมาะ
2.ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน นายกฤษฎา บุญราช เป็นประธาน คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ นายบัณฑูร ล่ำซำ นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ นางเบญจวรรณ สร่างนิทร พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ นายถวิล เปลี่ยนศรี นายกานต์ ตระกูลฮุน นายอาศิส อัญญะโพธิ์ นายประหยัด พวงจำปา นายสุรพงษ์ มาลี
3.ด้านกฎหมาย นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธาน นายกิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์ นายคำนูณ สิทธิสมาน นายสุขุมพงศ์ โง่นคำ นายนันทวัฒน์ บรมานันท์ นางสุดา วิศรุตพิชญ์ นายประสิทธิ์ ปทุมารักษ์ นายประภาศ คงเอียด พล.อ.จิระ โกมุทพงศ์ นายพีรพิชญ์ วงศ์วัฒนศานต์
4.ด้านกระบวนการยุติธรรม นายอัชพร จารุจินดา ประธาน คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ นายสราวุธ เบญจกุล นายวันชัย รุจนวงศ์ ว่าที่ร้อยตรีถวัลย์ รุยาพร นายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน นายตระกูล วินิจนัยภาค พล.ท.กฤษณะ บวรรัตนารักษ์ นายชาญณรงค์ ปราณีจิตต์
5.ด้านเศรษฐกิจ นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธาน นายชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล นายอิสระ ว่องกุศลกิจ นายเทวินทร์ วงศ์วานิช นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ นายทวีศักดิ์ กออนันตกูล นายสว่างธรรม เลาหทัย นายชาติศิริ โสภณพนิช นายสมชาย หาญหิรัญ นางปัทมา เธียรวิศิษฎ์สกุล
6.ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายรอยล จิตรดอน ประธาน นายบัณฑูร เศรษฐศิโรฒน์ นายขวัญชัย ดวงสถาพร นายธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นายสัญชัย เกตุวรชัย นายภาวิญญ์ เถลิงศรี นพ.ชูชัย ศุภวงศ์ พล.ร.อ.อภิวัฒน์ ศรีวรรธนะ นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ นางสาวลดาวัลย์ คำภา
7.ด้านสาธารณสุข นพ.เสรี ตู้จินดา ประธาน นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ นพ.ปิยะ หาญวรวงศ์ชัย นายสมชัย จิตสุชน นายพาณิชย์ เจริญเผ่า นพ.พลเดช ปิ่นประทีป นพ.ภิรมย์ กมลรัตนกุล นพ.โสภณ เมฆธน นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา นพ.ไพบูลย์ สุริยะวงศ์ไพศาล
8.ด้านสื่อสารมวลชน เทคโนโลยีสารสนเทศ นายจิระชัย มูลทองโร่ย ประธาน พล.อ.อ.คณิต สุวรรณเนตร นายธงชัย ณ นคร นายประดิษฐ์ เรืองดิษฐ์ นางประภา เหตระกูล ศรีนวลนัด ร.อ.ประยุทธ เสาวคนธ์ นายเสรี วงษ์มณฑา นางกนกทิพย์ รชตะนันทน์ นายสุทธิชัย หยุ่น นายสมหมาย ปาริจฉัตต์ นางปาริชาตสถาปิตานนท์
9.ด้านสังคม นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา ประธาน นพ.อำพล จินดาวัฒนะ ม.ร.ว.จักรรถ จิตรพงศ์ นายต่อพงศ์ เสลานนท์ นายวิเชียร ชวลิต นายวินัย ดะห์ลัน นายอโณทัย ฤทธิปัญญาวงศ์ นายสมเดช นิลพันธุ์ นายสุรินทร์ จิรวิศิษฎ์ พล.อ.รณชัย มัญชุสุนทรกุล นายเอ็นนู ซื่อสุวรรณ นายไมตรี อินทุสุต นางชุตินาฏ วงศ์สุบรรณ
10.ด้านพลังงาน นายพรชัย รุจิประภา ประธาน นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ นายมนูญ ศิริวรรณ นายดุสิต เครืองาม นายบัณฑิต เอื้ออาภรณ์ นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช นายสุนชัย คำนูณเศรษฐ์ นายดนุชา พิชยนันท์ นายกวิน ทังสุพานิช
และ 11.ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน นายกล้านรงค์ จันทร์ทิก พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป นายเจษฎ์ โทณวณิก นายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต นายมานะ นิมิตรมงคล นายวิชา มหาคุณ นายวิชัย อัศรัสกร พล.อ.อ.วีรวิท คงศักดิ์ นายอนุสิษฐ คุณากร นายอุทิศ ขาวเธียร นายประยงค์ ปรียาจิตต์
พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า คณะกรรมการทั้งหมดมีวาระดำรงตำแหน่งคราวละ 5 ปี โดยที่ประชุมครม.วันเดียวกันนี้แต่งตั้งทั้งสิ้น 120 คน เหลืออีก 45 คนจะได้พิจารณาแต่งตั้งเพิ่มต่อไป ซึ่งเป็นไปตามแนวทางที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. เคยสั่งการให้มีข้าราชการประจำน้อยที่สุด ทั้งนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค.นี้เป็นต้นไป
“คณะกรรมการทั้ง 11 คณะ จะมีการประชุมเพื่อยกร่างแผนการปฏิรูปในด้านต่างๆ จากนั้นจะนำแผนของแต่ละคณะมารวมกันเพื่อกำหนดเป็นแผนปฏิรูประดับชาติ โดยคาดว่าแผนการปฏิรูประดับชาตินั้นจะใช้เวลา 8 เดือน ซึ่งจะแล้วเสร็จในเดือนเมษายน 2561 ทั้งนี้ตามพ.ร.บ.ปฏิรูป นั้นได้กำหนดวิธีการทำงาน เช่น 1. มีหัวข้อในการปฏิรูปตามที่รัฐธรรมนูญและครม.กำหนด 2.ระบุกลไก วิธีการ ขั้นตอน และผลลัพธ์ของการปฏิรูปในแต่ละด้าน พร้อมมีตัวชี้วัดด้วย 3.ผลสัมฤทธิ์ในช่วงระยะเวลา เช่น 5 ปี 4.กฎหมายที่ต้องออกเพื่อให้กลไกการปฏิรูปเดินหน้าไปได้มีหน่วยงานใดบ้างที่จะต้องปฏิบัติ ใช้งบประมาณจำนวนเท่าใด” พล.ท.สรรเสริญ กล่าว
พล.ท. สรรเสริญ กล่าวว่า จะเห็นว่าแต่ละคณะมีรายละเอียดในการปฏิบัติที่ชัดเจนทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น ขั้นตอน กลไก ผลลัพธ์ ฯลฯ และหลังจากนั้นทั้ง 11คณะจะต้องติดตามการทำงานของหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง อาทิ รัฐสภา ศาล กระทรวง ทบวง กรม องค์กรอิสระ และหน่วยงานอื่นๆ จะต้องถูกติดตามโดยคณะกรรมการปฏิรูปแต่ละด้าน จากนั้นจะต้องทำรายงานเสนอครม.และรัฐสภาให้รับทราบถึงผลการดำเนินงานจึงจะเห็นว่าทั้ง 11 คณะนั้นคุ้มค่ากับการแต่งตั้ง
“คำถามยอดฮิตคือถ้าหน่วยงานใดไม่ทำตามคณะกรรมการปฏิรูป จะทำอย่างไร เรื่องนี้ ได้ให้มีการเจรจาพูดคุยเพื่อขอทราบเหตุผลว่าทำไมถึงไม่ทำ ถ้าสามารถรับฟังได้ก็ค่อยว่ากัน แต่ถ้าเห็นว่าไม่เหมาะสมก็ให้รายงานนายกฯ หรือรายงานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติที่จะแต่งตั้งขึ้นตามพ.ร.บ.ยุทธศาสตร์ชาติ ดำเนินการกับหน่วยงานเหล่านี้ได้” พล.ท.สรรเสริญ กล่าว
สำหรับ ค่าตอบแทนของคณะกรรมการปฏิรูป ไม่มีเงินเดือน จะมีเพียงเบี้ยประชุม รายครั้ง ครั้งละ 6,000บาท คาดว่าจะประชุมสัปดาห์ละไม่เกิน 2 ครั้ง ดังนั้น หนึ่งเดือนจะได้รับเบี้ยประชุมประมาณ48,000บาท