ดร.อณัส อมาตยกุล อาจารย์ประคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ได้เปิดเผยว่า ชาวยิวทราบดีว่า นบีมูฮัมหมัด(ซ.ล.) เป็นศาสดาคนสุดท้ายที่มีความสัตย์จริง แต่ไม่ยอมรับเพราะเป็นลูกหลานวงศ์วานอิสมาแอล (บุุตรนบีอิบรอฮีม) เขาต้องการให้ศาสดาคนสุดท้ายเป็นลูกหลานยะโก๊บ (เจค๊อบ) และทราบดีว่า จะเกิดสงครามใหญ่อรามาเก็ตดอลก่อนวันกียามะห์ โดยอาศัยข้อมูลจากนบีมูฮัมหมัด(ซ.ล.) จากอัลกุรอ่านและอัลฮาดิษ จึงได้วางขั้นตอนในการยึดโลกใบนี้ เพื่อไปสู่ความสไเร็จว่า นบีคนสุดท้ายจะมาจากวงศ์วานของยะโก๊บ
“ตามความเชื่อของเชาวยิวก่อนวันสิ้นโลก พระมาซีอาร์ (อัลมาซีร) เพื่อมาช่วยพวกเขา แต่อัลมาซีรองค์ใหม่จะมาเกิดใหม่ได้นั้น จะต้องมีพื้นที่รองรับต้องมีสุเหร่ายิว ที่จะต้องตั้งอยู่บนอัลกุดส์และอักซอเท่านั้น จึงต้องการฟื้นฟูสุเหร่ายิว จากนั้นบรรดาแรบไบ(ผู้นำศาสนา) ก็จะอาบน้ำยกฮาดัสใส่เครื่องหอมและเข้าไปในฮารอม และจะอ่านคัมภีร์เตารอด 7 วัน 7 คืน เพื่อรอให้พระมาซีอาร์เสด็จลงมา จากนั้นการเชือดวัวที่เป็นสิ่งต้องห้ามายาวนาน จะเป็นที่อนุมัติทันที เป็นการฟื้นกุรบ่านขึ้นมา จะมีการคัดวัวที่สวยงาม และเชือดกุรอ่าน จากนั้นเขาเชื่อว่า มลาอิกะห์จะนำพระมาซีอาร์ลงมาจากฟากฟ้า ซึ่งพระมาซีอาร์จะเสด็จลงมาไม่ได้ หากไม่รื้อสุเหร่าของมูฮัมหมัด(ซ.ล.)ออกไป รื้อสุเหร่าของอุมัรศาสดามูฮัมหมัด ออกไป เพื่อแสดงให้เห็นว่า ศาสนาอิสลามได้ล่มสลายลงแล้ว” ดร.อณัส กล่าว
อาจารย์จากม.มหิดล กล่าวด้วยว่า ไม่มีเหตุอะไรเลย นอกจากที่กล่าวมาว่า ทำไมชาวยิวจึงต้องการยึดครองอัล อักซอ เพราะเป็นสถานที่สำคัญของ 3 ศาสนา และทุกคนมีสิทธิ์ไปแสวงบุญ และบริเวณของอัลกุดส์กวางขวางมาก สามารถใช้พื้นที่ว่างสร้างสุเหร่ายิวขึ้นมาได้ แต่แรบไบ ได้ชี้ว่า ส่วนที่สำคัญที่สุดอยู่ตรงมัสยิดอัลอักซอ ได้มีการออกแบบโครงสร้างทั้งหมดไว้แล้ว อยู่ที่กรุงเยรูซาเล็ม สิ่งนี้จะสำเร็จไม่ได้ หากไม่รื้่อสุเหร่่าของมุสลิมออกไป ซึ่งมีความพยายามทุกวิถีทาง ทั้งการดำเนินการทางโบราณคดีในการขุดเจาะเพื่อให้สุเหร่าถล่มลงมา และพยายามห้ามไม่ให้มุสลิมเข้ามาละหมาด ถ้ามีมุสลิมเข้าไปละหมาดน้อย ก็จะมีพื้นที่ว่างให้ฝ่ายโบราณคดีเข้าไปยึด และให้ฝ่ายโยธาเข้าไปก่อสร้างสุเหร่ายิวทันที และความฝันชองบรรดาลูกหลายยะโก๊บ(อ.)จึงจะประสบความสสำเร็จ สิ่งนี้ เป็นจิตวิทยาลึกๆของบรรดาบะนีอิสรอเอล