โลกร้อน!ปูตินขับไล่นักการทูตสหรัฐ 755 คนพร้อมยึดทรัพย์เพื่อตอบโต้การมติคว่ำบาตร นักวิเคราะห์ชี้หวังทำลายการเติบโตของรัสเซีย
วันที่ 31 กรกฎาคม ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซียประกาศให้พนักงานเจ้าหน้าที่ของสถานทูตสหรัฐฯจำนวน 755 คนเดินทางออกจากรัสเซียในวันที่ 1 กันยายนนี้ หลังจากที่มีคำสั่งขับไล่ฉบับแรกเมื่อวันศุกร์ และล่าสุดได้ประกาศฉบับที่ 2 ได้ระบุวันที่ๆจะต้องเดินทางออกเพื่อให้เหลือจำนวน 455 คนเท่ากับจำนวนเจ้าหน้าที่ของรัสเซียในสถานทูตรัสเซียที่วอชิงตัน
ทั้งนี้ วุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้ลงมติคว่ำบาตรเพิ่มเติมรัสเซีย อิหร่านและเกาหลีเหนือ ทำให้รัสเซียปฏิบัติการตอบโต้ตามมา ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์แสดงความผิดหวังที่รัสเซียใช้มาตรการตอบโต้
ด้านเยอรมนีได้ออกมากระตุ้นสหภาพยุโรปตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐที่มีต่อรัสเซีย โดยนาง บริตเจต ไซปรีส รัฐมนตรีพาณิชย์และพลังงานของเยอรมัน กล่าวว่า มาตรการคว่ำบาตรฉบับใหม่ที่สหรัฐเสนอให้ลงโทษรัสเซีย กำลังละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และเรียกร้องให้สหภาพยุโรปดำเนินการต่อต้านมาตรการดังกล่าว,ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวมทั่วทั้งยุโรป
นางบริตเจส ไซปรีส ยังกล่าวกับหนังสือพิมพ์ Funke Mediengruppe วันนี้ว่า “รัฐบาลเบอร์ลินได้พิจารณาร่างกฏหมายคว่ำบาตรรัสเซียที่ได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรสสหรัฐ ว่าเป็นการกระทำที่ละเมิดต่อกฎหมายระหว่างประเทศอย่างชัดเจน ”
ผู้นำเยอรมันและนักธุรกิจชาวเยอรมัน ต่างแสดงความกังวลว่ามาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐดังกล่าว อาจเป็นการขัดขวางบริษัทยักษ์ใหญ่ของเยอรมัน ไม่ให้สามารถที่จะทำงานในโครงการท่อส่งน้ำมันด้านพลังงานซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของประเทศได้
ทั้งนี้รัสเซีย เป็นผู้ขายแก๊สธรรมชาติให้กับยุโรปและบริษัทเยอรมนีได้ไปลงทุนท่อก๊าซและน้ำมันในรัสเซีย ซึ่งจะกระทบต่อยุโรปอย่างมาก
นางบริตเจต ยังกล่าวต่อว่า “สิ่งสำคัญที่สุดที่คณะกรรมมาธิการยุโรปจะต้องปฎิบัติคือการต่อต้านมาตรการดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตาม ก็จะต้องเลี่ยงการเผชิญหน้า สงครามการค้า กับสหรัฐอเมริกาด้วยเช่นกัน
นักวิเคราะห์ กล่าวว่า การที่สหรัฐฯคว่ำบาตรรัสเซีย โดยเบื้องลึกต้องการหยุดการเติบโตของรัสเซีย โดยเฉพาะด้านการขายอาวุธ เนื่องจากหลังจากที่รัสเซียได้เข้าสู่สมรภูมิซีเรียได้โชว์ศักยาภาพของอาวุธที่ทันสมัย อาทิ เครื่องบินรบซู35 ที่พัฒนามาจากซู29 ที่มีประสิทธิภาพในการโจมตีเป้าหมาย ส่งผลให้มนช่วง 6 เดือนแรกของปี มีคำสั่งซื้ออาวุธจากรัสเซีย 45,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือมากกว่า 2 ล้านล้านบาท โดยวได้ทำสัญญาแล้ว 8,000 ล้านเหรียญฯ
ขณะเดียว สหรัฐฯ ได้พัฒนาการเทคโนโลยีการกลั่นน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ โดยการกลั่นจากชั้นหิน (เซลล์ออยล์)ส่งผลให้เหลือใช้ในประเทศ จึงมีความเป็นไปได้สูงที่สหรัฐฯต้องการขายก๊าซธรรมชาติให้ยุโรปแทนรัสเซีย
