บทเรียนมุสลิม เมื่อร่างถูกนำไปเผา
เรื่องเล่าจาก ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดแห่งหนึ่งในภาคอีสาน เล่าว่า มีมุสลิมะห์ ซึ่งแต่งงานกับไทยพุทธและไปอยู่ที่ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ต่อมามุสลิมะห์ได้เสียชีวิต ในฐานะประธานกอจ. มีคนมาปรึกษาว่า จะทำอย่างไร เพราะเกิดเหตุแย่งชิงกระดูก หลังมุสลิมะห์คนดังกล่าวเสียชีวิต
สามีต้องการเผา แต่ญาติที่สุไหงโกลกต้องการนำไปฝัง แต่สุดท้ายสามีชิงเผาก่อน ญาติมาถึงเจอแต่เถ้ากระดูกญาติมุสลิมะห์ต้องการนำไปฝัง สามีต้องการนำไปลอยอังคาร
สุดท้ายต้องแบ่งกระดูกคนละครึ่ง ครึ่งหนึ่งเอาไปฝัง ครึ่งหนึ่งเอาไปลอยอังคาร
เป็นบทรียนที่เกิดขึ้นซ้ำซากที่มุสลิมะห์ที่หลงไหลกับเครื่องแบบทหาร แต่งานกับทหารเกณฑ์ที่มาจากอีสาน เมื่อปลดประจำการคนเหล่านี้ก็เดินทางกลับบ้านที่ภาคอีสาน ไปใช้ชีวิตแบบชาวพุทธ ที่เคยรับเป็นอิสลามก็หลงลืม มุสลิมะห์บางคนก็ยอมรับสภาภที่ต้องอยู่แบบคนพุทธ บางคนก็รับสภาพไม่ได้ก็ต้องเดินเลิกรากลับบ้านต้องยอมรับความอับอาย
ตรึกตรองกันให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจ…