คนร้ายยิงหนุ่มใหญ่”นิยมเดชา”ที่มายอ จนท.รายงานเป็น”ไทยพุทธ”เจตนาสร้างความขัดแย้งหรือไม่!

เมื่อ 18 ก.ค.2560 เวลาประมาณ 19.00 น. ขณะที่ นายอยู่สบ นิยมเดชา อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64 ม.2 ต.บ่อครุ อ.ระโนด จ.สงขลา ขับขี่รถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีเทา ทะเบียน 6975 สุราษฎร์ธานี บริเวณถนนลูกรังเลียบคลองชลประทานพื้นที่ บ้านดูวา ม.3 ต.ถนน อ.มายอ จ.ปัตตานี โดยมี นางปราณี เทียนมณี อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 154/1 ม.1 ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นั่งข้างคนขับ เดินทางกลับจากสูบน้ำบ่อดินเชิงเขา บ้านดูวา ม.3 ต.ถนน อ.มายอฯ เมื่อถึงที่เกิดเหตุ ได้มีคนร้ายไม่ทราบชื่อ จำนวน 2 คน ซุ่มอยู่ข้างทาง ใช้อาวุธปืนพกสั้นยิงใส่จำนวนหลายนัด กระสุนถูก นายอยู่สบฯ ได้รับบาดเจ็บ แต่ได้ขับรถยนต์ออกจากที่เกิดเหตุ ไปหยุดขอความช่วยเหลือบริเวณหน้ามัสยิดอุซซิซาอาลิตตักวาบ้านดูวา ม.3 ต.ถนน อ.มายอ จ.ปัตตานี ส่วน นางสุปราณีฯ ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด หลังก่อเหตุคนร้ายหลบหนีไป ในที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 26 ปลอก หัวกระสุนทองแดงหุ้มตะกั่ว จำนวน 4 หัว ชิ้นส่วนทองแดง 1 ชิ้น และชิ้นตะกั่ว 1 ชิ้น

อย่างไรก็ตาม ในรายงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ระบุว่า สภ.มายอ รับแจ้งเหตุมีคนร้ายไม่ทราบชื่อและจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิงราษฎรไทยพุทธขณะขับรถยนต์เก๋งได้รับบาดเจ็บ 1 ราย (ยังไม่ทราบชื่อ) ถูกนำตัวส่ง รพ.มายอนั้น ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า ยังไม่ทรายชื่อ แต่ทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจรายงานว่า เป็น”ไทยพุทธ” เจตนาให้เกิดปัญหาความขัดแย้งหรือความเข้าใจผิดต่อมุสลิมหรือไม่

มูฮัมหมัด รุสดี ผู้สื่อข่าวในพื้นที่ภาคใต้ ตั้งข้อสังเกตุว่า น่าแปลกใจอย่างนึง ข้อมูลเบื่องต้นจาก จนท. เหตุชายแดนใต้ หากเหยื่อเป็นไทยพุทธมักจะระบุว่าเป็นราษฎรไทยพุทธ
แต่หากเหยื่อเป็นมุสลิม มักจะไม่ระบุ และหากเหยื่อเป็นไทยพุทธ มักจะสันนิษฐานว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ นำมาสู่การเพิ่มมาตรการเข้มงวด รปภ.ชุมชนไทยพุทธ

“แต่หากเหยื่อเป็นมุสลิม มักจะสันนิษฐานว่าเป็นเรื่องส่วนตัว แล้วเรื่องก็หายเงียบไป” ผู้สื่อข่าว ระบุ

สำหรับตระกูล “นิยมเดชา” เป็นตระกูลของมุสลิมที่กระจายอยู่ในหลายพื้นที่ของภาคใต้ และเป็นนามสกุลพระราชทาน