มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค พร้อมผู้เสียหายยื่นฟ้องคดีแบบกลุ่ม ‘บ.วิซาร์ดฯ’ โฆษณากระทะโคเรีย คิง เกินจริง คาดต้องชดใช้คืนผู้บริโภคทุกคนทั้งหมดไม่น้อยกว่า 1.6 พันล้านบาท
วันที่ 30 มิ.ย. 2560 ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค พร้อมด้วยนายเฉลิมพงษ์ กลับดี หัวหน้าศูนย์ทนายความอาสา มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค นายสิษฐวัศ ภาคินสกุลพัฒน์ ทนายความ นางอรกัลยา พุ่มพึง นางกัลยทรรศน์ ติ้งหวัง โจทก์ทั้งสอง และตัวแทนผู้บริโภคที่ร่วมดำเนินคดีแบบกลุ่ม ยื่นฟ้อง บริษัท วิซาร์ด โซลูชั่น จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายกระทะโคเรีย คิง ต่อศาลแพ่ง กรณีจำหน่ายสินค้าที่มีคุณสมบัติไม่ตรงตามโฆษณา จึงขอให้ศาลพิจารณาดำเนินคดีแบบกลุ่มและชดใช้ค่าสินค้าให้แก่ผู้บริโภคทุกรายที่ซื้อสินค้ามากกว่า 1,650 ล้านบาท
น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวถึงการมายื่นฟ้องเฉพาะวันนี้ มีผู้เสียหาย 74 ราย ที่ร่วมฟ้องคดีแบบกลุ่ม เรียกร้องค่าเสียหายรวม 9,653,400 บาท จากจำนวนที่ร้องเรียนกับมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค 167 ราย แต่มีรอส่งเอกสารมอบอำนาจ ซึ่งหลังจากยื่นคำฟ้องและคำร้องขอดำเนินคดีแบบกลุ่มแล้ว ศาลจะนัดไต่สวนคำฟ้องและคำร้องขอดำเนินคดีแบบกลุ่มต่อไป อย่างไรก็ตาม คาดว่า จะมีผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหายจากการโฆษณาเกินจริงของบริษัท วิซาร์ดฯ ทั้งหมดกว่า 5 แสนราย หากพิจารณาจากตัวเลขนำเข้ากระทะที่มีมากถึง 1.03 ล้านใบ และงบโฆษณา 1,651 ล้านบาท ในปี 2559
ด้านนายสิษฐวัศ ภาคินสกุลพัฒน์ ทนายความผู้รับผิดชอบคดี กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินการฟ้องคดีแบบกลุ่มในครั้งนี้เป็นการฟ้องในคดีผู้บริโภค หลังจากบริษัท วิซาร์ดฯ โฆษณากระทะโคเรีย คิง เกินจริง และสินค้ายังไม่ถูกต้องตามที่มีการโฆษณาด้วย ซึ่งได้แบ่งกลุ่มการฟ้องเป็น 2 กลุ่ม คือ ผู้บริโภคที่ใช้กระทะรุ่นไดมอนด์ และรุ่นโกลด์ ซีรี่ส์ และแบ่งกลุ่มผู้เสียหาย 3 กลุ่ม โดยเป็นผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหายมีภูมิลำเนาในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดอื่น ๆ ในประเทศ
ขณะที่นางกัลยทรรศน์ ติ้งหวัง โจทก์ที่ 2 ผู้เสียหาย จ.สตูล ที่ซื้อกระทะโคเรีย คิง รุ่นโกลด์ กล่าวว่า ตัดสินใจซื้อกระทะโคเรีย คิง เพราะโฆษณาให้ซื้อ 1 แถม 1 และลดราคาจาก 15,000 บาท เหลือ 3,300 บาท ซึ่งใช้ประกอบอาหารในครั้งแรก ยังไม่มีรอยไหม้ แต่เมื่อใช้ครั้งที่ 3 ทอดปลา ปรากฎว่าหนังปลาติดกระทะ เอาออกไม่ได้ แต่เนื้อปลายังใช้ได้อยู่ ส่วนวิธีการทำความสะอาด พยายามใช้ผ้าเช็ดเหมือนโฆษณา แต่ปรากฎว่า คราบไหม้ไม่หลุดออก ทำให้ต้องใช้ตะหลิวกระแซะออก
“ทุกครั้งต้องใช้น้ำมันประกอบอาหารตลอด ถ้าไม่ใช้อาหารจะติดแน่น และต้องแช่น้ำนานจึงจะเปลือย ล้างออกได้” ผู้เสียหาย จ.สตูล กล่าว และว่าการฟ้องแบบกลุ่มจึงช่วยให้ผู้บริโภคคนอื่นได้รับค่าเสียหายในครั้งนี้ด้วย เพราะจะให้ผู้บริโภคจาก จ.สตูล เดินทางมายื่นฟ้องทุกคน เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากไม่คุ้มกับค่าเดินทาง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการขายตรงและตลาดแบบตรง สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) มีมติเปรียบเทียบปรับสูงสุดกับบริษัท วิซาร์ดฯ 5 หมื่นบาท จำนวน 2 กรรม ทั้งสิ้น 1 แสนบาท พร้อมให้แก้ไขเนื้อหาในโฆษณา และสั่งให้ชดเชยให้แก่ผู้รับความเสียหายที่ร้องเรียนผ่านเข้ามาในกระบวนการ สคบ. ให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย. 2560 หากไม่ปฏิบัติตาม จะฟ้องศาลต่อไป
Cr.isranews