สุดรันทด!ครอบครัวนครศรีฯ 5 ชีวิตสุดแร้นแค้น ลูกสาววัย 13 ต้องเขียนจดหมายขอความช่วยเหลือ

น้องเฟิร์นเด็กหญิงเขียนจดหมายวิงวอนช่วยเหลือครอบครัว 5 ชีวิตสุดแร้นแค้น

หลังจากศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือครอบครัวผู้ยากไร้อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 649/1 หมู่ 3 ต.ทางพน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช มีสมาชิกในครอบครัว 5 คน อาศัยรวมกันอยู่ในบ้านยกสูงไม้ยกสูงหลังเล็ก ๆ ที่อยู่ในสภาพเก่าและชำรุดทรุดโทรมอย่างหลัก จนกระเบื้องมุงหลังคาแตกเป็นจุด ๆ ฝาบ้านทำด้วยไม้กระดาษก็เปื่อยผุพังอย่างหนัก จนแทบจะพูดไม่ได้ว่าบ้านหรือกระท่อมหลังดังกล่าวเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ แต่น่าจะเป็นเพียงเพิกพักชั่วคราวปลายนาไร่เสียมากกว่า เพราะไม่สามารถกันแดด ลมหรือฝนได้เลยโดยเฉพาะจะโดนน้ำท่วมเกือบตลอดทั้งปี เมื่อฝนตกน้ำฝนรั่วและสาดกระเซ็นเข้ามาในบ้านโดยคนในบ้านต้องยอมทนนอนเปียกฝนอย่างน่าเวทนาสงสารยิ่งนัก โดย ด.ญ.ปิยะพร เหลี่ยมไตร หรือ “น้องเฟิร์น” อายุ 13 ปีบุตรสาวคนโต ที่บรรจงเขียนจดหมายเพื่อขอความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญและมีอุปการคุณ และนำไปโพสต์เผยแพร่ในเพซบุ๊ก จนได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง แต่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างเป็นรูปธรรมมากนัก จึงขอให้ศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนช่วยเป็นสื่อกลางในการช่วยเหลือครอบครัวดังกล่าวอย่างเร่งด่วน
(30 พ.ค.)ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือ โดยได้เดินทางไปยังโรงเรียนทางพูนวิทยาคาร ต.ทางพูน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช พบนายอนันท์ แดงเรือง ผอ.โรงเรียนทางพูนวิทยาคาร พร้อมคณะครูอาจารย์ได้นำ ด.ญ.ปิยะพร เหลี่ยมไตร หรือ “น้องเฟิร์น” มาพบสื่อมวลชน โดยนายอนันท์ แดงเรือง เปิดเผยว่า เนื่องจากน้องเฟิร์น เพิ่งมาเข้าเรียน ม.1 ที่โรงเรียนทางพูนวิทยาคารได้เพียง 2 อาทิตย์เศษ ๆ เท่านั้นทางโรงเนียนจึงยังไม่มีข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับครอบครัวของนักเรียนใหม่ โดยมีกำหนดเปิดโครงการเยี่ยมบ้านนักเรียนในวันที่ 6 มิ.ย. 2560 นี้ ซึ่งทางโรงเรียนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจได้ร่วมกับทางฝ่ายปกครอง เทศบาลทางพูน เข้าไปเยี่ยมที่บ้านและให้การช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว
สำหรับการช่วยเหลือเกี่ยวกับการสร้างบ้านใหม่ให้นั้นทางอำเภอจะช่วยเหลือเรื่องเสาปูน เทศบาลตำบลทางพูนช่วยเรื่องกระเบื้องมุงหลังคา ผู้ใหญ่บ้านจะช่วยเรื่องไม้เริ่มก่อสร้างบ้านใหม่ในวันที่ 1 มิ.ย. นี้ โดยทางโรงเรียนพร้อมสนับสนุนไม้เก่า ๆที่เหลือจากการก่อสร้างและรื้อศาลาและใม้ที่เหลือจากวัสดุฝึกของนักเรียนก็จะบริจาคให้นำไปปรับปรุงซ่อมแซมบ้านของน้องเฟิร์นด้วย และจะช่วยเรื่องรถรับส่งไปกลับระหว่างบ้านและโรงเรียน แต่เนื่องจากบ้านของน้องเฟิร์นอยู่ลุกเข้าไปในทางเล็ก ๆ ประมาณ 3 กม.รถโรงเนียนเข้าไปไม่ได้ ผู้ปกครองก็อาจจะนำมาส่งที่ถนนใหญ่เพื่อรอขึ้นรถโรงเรียนอีกต่อหนึ่ง นอกจากนี้ทาง
โรงเรียนจะดูแลเรื่องทุนการศึกษาให้น้องเฟิร์น ต่อไป และเมื่อเช้าวันนี้ (30 พ.ค.) ดร.วาสนา ทิพญพงศ์ธาดา นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เดินทางมาเยี่ยมและมอบเงินช่วยเหลือให้ครอบครัวน้องเฟิร์น 2,000 บาท อีกด้วย
ทางด้าน ด.ญ.ปิยะพร หรือ “น้องเฟิร์น” กล่าวว่า หลังจากครูนิกรณ์ ผุดงวัฒน์ ครูประจำชั้นโรงเรียนบ้านกลอง หมู่ 5 ต.ควนพัง อ.ร่อนพิบูลย์ ซึ่งเป็นโรงเรียนเดิมของตนนำจดหมายภาพถ่ายสภาพบ้านของตนพร้อมจดหมายไปโพสต์เฟซบุ๊กก็มีกระแสการช่วยเหลือเข้ามาบ้าง แต่ยังไม่เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน ตนอยากมีบ้านหลังใหม่ที่มีสภาพที่ดีกว่านี้ หนีน้ำท่วมได้ หลังคาไม่รั่ว ตอนฝนตกฝนไม่สาดเข้าบ้าน รวมทั้งเรื่องยานพาหนะในการเดินทางไปโรงเรียนเพราะรถโรงเรียนคงเข้าไปรับตนไม่ได้ บ้านตนอยู่ลึกเข้าไปเส้นทางทุรกันดาร หากได้รถมอเตอร์ไซด์ก็คงจะดี เพราะตนสามารถขับไปโรงเรียนได้โดยสะดวก แต่หากไม่ได้รถมอเตอร์ไซด์ได้รถจักรยานสองล้อก็ได้ แม้จะต้องปั่นไปกลับวันละเกือบ 10 กม.ก็สามารถลดความยากลำบากลงมาได้ในระดับหนึ่ง
“ตนไม่น้อยใจ ไม่โทษใครที่เกิดมาในครอบครัวยากจนแร้นแค้น เพราะมีพ่อคอยเป็นกำลังใจ ส่วนแม่ที่อยู่ปัจจุบันเป็นแม่เลี้ยง เพราะแม้ที่แท้จริงของตนทอดทิ้งตนไปตั้งแต่ตนเล็ก ๆ ไม่รู้ประสีประสา ใด ๆ แต่แม่เลี้ยงก็ดีกับตน อบรมสั่งสอน หากตนดื้อ ทำผิดแม่เลี้ยงก็ดุและตีบ้าง ซึ่งตนก็ไม่ได้โกรธเพราะรู้ว่าทำผิด หากไม่ผิดแม่เลี้ยงก็ไม่ดุและตีแน่ ซึ่งรักพ่อและแม่เลี้ยงมาก ตนอยากเรียนด้านอาหารและโภชนาการ เพราะชอบทำอาหาร ปรุงอาหาร อยากเป็นเชฟที่มีชื่อเสียงเหมือนเชฟกระทะเหล็ก”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทางนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้มอบหมายให้สำนักงาน พม.นครศรีธรรมราช เดินทางไปเยี่ยมและให้การช่วยเหลือ นอกจากนี้ยังมีมูลนิธิศุภนิมิตรส่งเจ้าหน้าที่ไปเก็บข้อมูลเพื่อช่วยเหลืออีกทางหนึ่ง ส่วนคณะของผู้สื่อข่าว และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ได้เดินทางไปเยี่ยมถึงที่บ้าน มอบเงินสดที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราชรวบรวมบริจาคให้จำนวนหนึ่ง พร้อมข้าวสาร อาหารแห้งอีกหลายรายการ
โดยสภาพบ้านไม้ยกสูงเก่า ๆ ที่ยังมีน้ำท่วมขังปลูกอยู่บนเนื้อที่ 2 ไร่ที่นายสุนทร พ่อของน้องเฟิร์น ซื้อมาจากญาติ ๆ เมื่อหลายปีก่อนแต่ยังจ่ายเงินค่าซื้อที่ดินไม่หมดโดยวางเงินมัดจำไว้จำนวนหนึ่ง สภาพโดยทั่วไปของบ้านชำรุดทรุดโทรม กระเบื้องมุงหลังคาแตกเป็นจุด ๆ มองทะลุฟ้า กระดาษกั้นก็ผุเปื่อยหลุดหายไปหลายจุด โดยบางจุดต้องนำกระสอบปุ๋ย ป้ายไวนิลเก่า ๆ มากางปิดกั้นลมฝนสาด มีสะพานไม้พาดข้ามจากทางเดินไปยังตัวบ้านประมาณ 20 เมตร ต้องเดินข้ามทีละคนและใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ ส่วนบนบ้านก็สามารถขึ้นไปอยู่พร้อมกันได้ไม่เกิน 4-5 คนเพราะเกรงจะพังครืนลงมาเพราะความเก่าและชำรุดทรุดโทรมอย่างหนัก
นายยุทธนา แต่งวงศ์ นายกมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้สมาคมจะร่วมกับ พล.ต.อาคม พงศ์พรหม ผบก.มทบ.41 นำคณะลงไปเยี่ยมและให้การช่วยเหลือเรื่องข้าวสารอาหารแห้ง และตรวจสอบสภาพบ้านเพื่อร่วมในการสร้างบ้านใหม่ให้กับครอบครัวน้องเฟิร์น คาดว่าจะมีการสร้างบ้านที่ค่อนข้างถาวรให้กับครอบครัวนี้ โดยผู้ใจบุญท่านใดจะร่วมบริจาคเงินหรือสิ่งของให้กับครอบครัวนี้ติดต่อแจ้งความประสงค์บริจาคได้ที่สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช โทร.0823333139 และ 081-6761299.
สัมภาษณ์คนที่ 1. ด.ญ.ปิยะพร เหลี่ยมไตร หรือ “น้องเฟิร์น”
สัมภาษณ์คนที่ 2. นายอนันท์ แดงเรือง ผอ.โรงเรียนทางพูนวิทยาคาร

ภาพข่าว/ยุทธนา แต่งวงศ์/082-3333139