ชีอะห์รุกคืบผุดทีวีดาวเทียม-มุริดพึ่งช่องพระ-ปัตตานีได้พันธมิตรข่าว
เริ่มต้นเดือนรอมฎอน วงการทีวีมุสลิมได้กลับมาคึกคักอีกครั้งได้หลายรายลงสนามเพื่อแย่งความนิยมจาก 4 ช่อง
เดิม กลุ่มชีอะห์ก้าวสู่ทีวีผ่านดาวเทียมเต็มตัว ด้วยทุนสนับสนุนเต็มเปี่ยม ขณะที่มุดริด ทิมะเสน หลังออกจากไวท์มาขับเคลื่อนร๊อฟฮาน ได้เช่าช่องขายพระเครื่องมาทำราย ขณะที่ “ปัตตานี ชาแนล” มุ่งกลุ่มเป้าหมายที่กลุ่มเก่า ได้พันธมิตรข่าวชื่อดัง มาสร้างจุดขายใหม่ให้กับช่อง
กลุ่มชีอะห์ในประเทศไทยเปิดเกมรุกด้านการเผยแพร่แนวทางชีอะห์ด้วยการเปิดสถานีผ่านดาวเทียมKu-band ในระบบบอกรับสมาชิก ไม่เปิดให้ดูฟรีเหมือนทีวีทั่วไป มีรายงานว่า ผู้รับผิดชอบได้สั่งจานจากผู้ผลิตจานรับดาวเทียมเพื่อจำหน่ายให้กับสมาชิกประมาณ 10,000 จาน ได้ส่งมอบแล้วประมาณ 2,000 จาน
มีรายงานว่า สถานีโทรทัศน์ของกลุ่มชีอะห์ชื่อว่า อัลศอร มะห์ดีบริการข้อมูลข่าวสารให้กับสมัครสมาชิกที่ตั้งเป้าไว้ 10,000 รายภายในปี 2560 โดยสมาชิกจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเดือนละ 150 บาท หรือปีละ 1,800 บาท โดยเงินจำนวนนี้ ได้ทุนสนับสนุนจากสถานีโทรทัศน์ฮาดีของอิหร่านที่ต้องการเผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับอิหร่านและชีอะห์ให้กับสมาชิกทั้งหมดขั้นต้น 10,000 ราย หรือประมาณ 15 ล้านบาทเท่ากับสมาชิกไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย โดยผู้บริหารสถานี เป็นแกนนำชีอะห์ในประเทศไทย ที่ยังไม่ต้องการเปิดเผยนาม นับเป็นการเดินเกมรุกของฝ่ายชีอะห์ในประเทศไทยที่ต้องการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารของฝ่ายตน
ด้านมุริด ทิมะเสน หลังจากออกจาไวท์ชาแนล เพื่อมาขับเคลื่อนมูลนิธิร๊อฟฮานอย่างเต็มที่ มีแบ็คใหญ่เป็นอดีตสมาชิกวุฒิสภา ได้จัดงานใหญ่ที่มูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย ค่อนข้างประสบความสำเร็จ สะท้อนให้เห็นมุริด ยังเป็นจุดขายได้อยู่ ล่าสุดมุริด ได้จัดรายการโทรทัศน์รายการถามตอบ ในช่วงเดือนรอมฎอน โดยได้เช่าเวลาของช่องขายพระเครื่อง “ทาสพุทธ” เป็นช่องทางการเผยแพร่
สำหรับช่องทาสพุทธ ผู้บริหารไม่ใช่มุสลิม แต่ได้ร่วมกับมุสลิมบางกลุ่มก่อตั้งและบริหารช่องยูนิตี้ เพื่อเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับมุสลิมแต่ไม่ประสบความสำเร็จในเชิงธุรกิจ จึงได้ปิดยูนิตี้ ก่อนจะนำใบอนุญาตไปขายให้กับเซียนพระ ขายพระเครื่องเป็นหลัก ซึ่งจะมีรายการของมุดริด เป็นช่องมุสลิมคั่นการขายพระประมาณ 3 ชั่วโมง คนดูมุสลิมอาจจะอิหลักอิเหลื่ออยู่พอสมควร
ขณะที่ปัตตานีชาแนล ที่ออกอากาศทางระบบเคยูแบนด์หรือจานส้ม ก่อตั้งและบริหารโดย อุมัร สุจิตวรรณศรี บุตรชาย บรรจง โซ๊ะมณี แต่อุมัร มีปัญหาสุขภาพจึงขอยุติการทำทำทีวี ได้ผู้บริหารคนใหม่เป็นคนใกล้ชิดกับเจ้าของช่องสัญญาณ IPM ยังใช้ชื่อ ปัตตานีชาแนลเหมือนเดิม แต่ได้ปรับเนื้อหารายการใหม่ จากเดิมที่เสนอตามแนวของคณะใหม่ ไปเน้นคณะเก่า เน้นกลุ่มเป้าหมายมุสลิมสายเก่าที่จานดำเจาะไม่ถึง โดยอาศัยจุดแข็งพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีคนดูจานส้มมากกว่า 50% ของปริมาณจาน 5 ล้านจาน และเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ทีวีจานดำเจาะเข้าไม่ถึง โดยปัตตานีชานแนลในช่วงการเตรียมการได้นำ การบรรยายของบรรดาอาจารย์สายเก่า อาทิ อ.อับดดลฮากีม บาบอสำคัญของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และอีกหลายคน โดยผู้บริหารมั่นใจว่า จะสามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายได้
ปัตตานีชาแนล ได้จับมือกับองค์กรศาสนา สถาบันการศึกษา และหน่วยงานราชการบางส่วนเพื่อผลิตรายการตอบสนองผู้ชมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และผู้ผลิตรายการในกรุงเทพฯ และทุกภูมิภาคของประเทศ เพื่อขยายจุดแข็งให้เร็วที่สุด แต่ยังมีปัญหาการขยายการติดจานส้ม
นอกจากนี้ เพื่อเสริมจุดแข็งให้กับสถานี ปัตตานีชาแนล จึงได้ร่วมกับ Mtoday สำนักข่าวมุสลิมชื่อดังผลิตข่าวป้อนให้กับสถานีเวลา 22.00-23.00 น. ทุกวัน เริ่มวันที่ 30 มิถุนายนนี้
นับเป็นการเคลื่อนไหวที่น่าสนใจของทีวีดาวเทียมมุสลิมที่รายใหม่หวังแย่งชิงความนิยมจากผู้ผลิตรายเดิม แต่จะสามารถทำได้แค่ไหนต่องติดตามกันต่อไป
,