นราฯ จัดการแข่งขันปันจักสีลัตชิงชนะเลิศจังหวัดนราธิวาส โดยมีนักกีฬาจากประเทศไทยและมาเลเซียเข้าร่วมการแข่งขันเป็นจำนวนมาก 

นราฯจัดการแข่งขันปันจักสีลัตชิงชนะเลิศจังหวัดนราธิวาส โดยมีนักกีฬาจากประเทศไทยและมาเลเซียเข้าร่วมการแข่งขันเป็นจำนวนมาก เพื่อเป็นการอนุรักษ์และเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่าง 2 ประเทศ

วันที่ 18 พ.ค. 60 เวลา 13.30 น. นายเถกิงศักดิ์ ยกศิริ รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นประธานเปิดการแข่งขันปันจักสีลัตชิงชนะเลิศจังหวัดนราธิวาส ณ อาคารรื่นอรุณ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส โดยมีพลอากาศเอก ทวิเดนศ อังศุสิงห์ รองผู้บัญชาการทหารอากาศ/ประธานอนุกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านปฏิรูปเร็ว สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ พร้อมคณะ นายปรีชา นวลน้อย นายอำเภอสุไหงโก-ลก นางสุชาดา พันธ์นรา นายกเทศมนตรีเมืองสุไหงโก-ลก พ.ต.อ.กองอรรถ สุวรรณขำ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอำเภอสุไหงโก-ลก ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดฯ

ทั้งนี้โครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ได้จัดร่วมกับการจัดแข่งขันกีฬาปันจักสีลัตในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ พลอากาศเอก ทวิเดนศ อังศุสิงห์ รองผู้บัญชาการทหารอากาศ/ประธานอนุกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านปฏิรูปเร็ว สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ กล่าวว่า กีฬาปันจักสีลัต เป็นกีฬาพื้นบ้านที่ทรงคุณค่า ซึ่งแสดงถึงจิตวิญญาณ ความเป็นอัตลักษณ์ของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้ และพร้อมที่จะผลักดันและส่งเสริมให้นักกีฬาปันจักสีลัต ได้มีการพัฒนาขีดความสามารถความเป็นเลิศในกีฬาปันจักสีลัต เพื่อคัดเลือกให้เป็นตัวแทนนักกีฬาปันจักสีลัตของจังหวัดนราธิวาส และได้เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาปันจักสีลัตชิงแชมป์ภาคใต้

สำหรับการแข่งขันกีฬาปันจักสีลัตชิงชนะเลิศจังหวัดนราธิวาสในปีนี้ กำหนดการแข่งขันระหว่างวันที่ 18-21 พฤษภาคม 2560 การแข่งขันครั้งนี้มีนักกีฬาจากประเทศมาเลเซีย มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา โรงเรียนกีฬาจังหวัดยะลา และชมรมปันจักสีลัตในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส จำนวน 300 คน ร่วมแข่งขัน โดยแบ่งการแข่งขันเป็น 2 ประเภท คือ ประเภทร่ายรำ และประเภทต่อสู้ กำหนดรุ่นการแข่งขัน 4 รุ่น คือ 1.รุ่นก่อนยุวชน 2.รุ่นยุวชน 3.รุ่นเยาวชน และ 4.รุ่นประชาชน ซึ่งการแข่งขันกีฬาปันจักสีลัตในครั้งนี้ ยังถือเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย โดยใช้กีฬาปันจักสีลัตเป็นสื่อกลาง ในการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากยิ่งขึ้นด้วย