อาหมัด บัดดาวี นายกฯคนที่ 5 มาเลยเซีย ผู้นำในยุคความหวังอละการปฏิรูป

สำนักข่าวมาเลเซียรายงานการจากไปของ Tun Abdullah Ahmad Badawi อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 5 ของมาเลเซียในวัย 86 ปี (แซงคุณปู่ Mahathir ในวัย 100 ปีไปแล้ว)

.

เพื่อระลึกถึงการจากไปของ “Tun Abdullah Ahmad Badawi” ผมได้นำส่วนหนึ่งของหนังสือที่ผมเขียน(ยังไม่พิมพ์) ที่กล่าวถึง Tun Abdullah มาโพสต์เพื่อให้ผู้อ่านได้รู้จัก Tun Abdullah มากขึ้นครับ
.
การเมืองมาเลเซียในยุค Tun Abdullah Ahmad Badawi: การเมืองแห่งความหวัง ✨ การปฏิรูป 🔧 และความท้าทายหลังยุค Mahathir
.
หลังจากการสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งอันยาวนานถึง 22 ปี ของ Tun Dr. Mahathir Mohamad มาเลเซียได้เข้าสู่ยุคของผู้นำใหม่ที่ได้รับความคาดหวังจากประชาชนอย่างสูง คือ Tun Abdullah Ahmad Badawi เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 5 เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2546 (2003) ท่ามกลางความหวังของประชาชนที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงไปสู่การเมืองที่โปร่งใส อ่อนโยน และเปิดกว้างมากขึ้น 🌱 หลังจากยุคแห่งการรวมศูนย์อำนาจและการบริหารประเทศแบบเข้มแข็งในสมัย Mahathir (Case, 2005)
.
Tun Abdullah ถูกขนานนามว่าเป็นผู้นำที่สุภาพและมีแนวคิดการเมืองแบบ “Islam Hadhari” 🕌 หรือ “อิสลามแบบอารยะ” ซึ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่ไปกับหลักศีลธรรม การศึกษาที่เข้มแข็ง และความยุติธรรมทางสังคม เพื่อสร้างมาเลเซียที่มีความสมดุลทั้งด้านวัตถุและจิตใจ
.
ในช่วงต้นของการดำรงตำแหน่ง Tun Abdullah ได้รับความนิยมอย่างสูงจากประชาชน ⭐ เนื่องจากภาพลักษณ์ของผู้นำที่เน้นความโปร่งใสและการบริหารประเทศด้วยหลักธรรมาภิบาล ตลอดจนการแสดงจุดยืนในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันที่ประชาชนรู้สึกว่าแพร่หลายมากในยุคสุดท้ายของ Mahathir
.
หนึ่งในนโยบายสำคัญของ Abdullah คือการส่งเสริม “Good Governance” 🧭 หรือการบริหารจัดการภาครัฐที่ดี ผ่านการพัฒนาระบบราชการให้มีความทันสมัย โปร่งใส และตอบสนองประชาชนมากขึ้น ตลอดจนการลดการแทรกแซงทางการเมืองในกระบวนการยุติธรรม เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นของประชาชนต่อระบบการเมืองและกฎหมายของประเทศ
.
การเปลี่ยนผ่านเช่นนี้สร้าง ความหวังใหม่ในสังคมมาเลเซีย ✨ อย่างมาก และส่งผลให้พรรคแนวร่วมแห่งชาติ (Barisan Nasional – BN) ภายใต้การนำของ Abdullah ชนะการเลือกตั้งทั่วไปปี พ.ศ. 2547 (2004) อย่างถล่มทลาย 🗳️ ได้รับที่นั่งมากถึง 198 จาก 219 ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร ถือเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ที่สุดของ BN นับตั้งแต่ก่อตั้งมา
.
นโยบายเศรษฐกิจในยุค Tun Abdullah ยังคงสืบทอดเป้าหมายระยะยาวจากยุค Mahathir ในการผลักดันมาเลเซียให้เป็นประเทศอุตสาหกรรม 🏭 แต่ได้ปรับแนวทางให้มุ่งเน้นการพัฒนาชนบท 🌾 ความมั่นคงทางอาหาร 🍚 และความยั่งยืนมากขึ้น ผ่านโครงการอย่าง Fifth Corridor Development (Wilayah Ekonomi) เพื่อกระจายการพัฒนาไปยังภูมิภาคต่าง ๆ (Gomez & Jomo, 2007)
.
อีกทั้ง Abdullah ยังเน้นการลงทุนในภาคการเกษตรและนวัตกรรมเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ลดความเหลื่อมล้ำระหว่างเมืองกับชนบท และพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ผ่านการศึกษาและวิจัย 📘 โดยคำนึงถึงความสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของประชาชน
.
อย่างไรก็ตาม นโยบายของ Abdullah ถูกวิจารณ์ว่าไม่มีความเด็ดขาดเพียงพอ ⚠️ ในช่วงที่มาเลเซียเริ่มเผชิญกับความผันผวนของเศรษฐกิจโลก รวมถึงวิกฤตการณ์น้ำมันแพงในปี พ.ศ. 2551 (2008) ซึ่งส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนและทำให้ความนิยมในตัวผู้นำลดลง (Gomez & Jomo, 2007)
.
Tun Abdullah พยายามสร้างสังคมที่สงบและสมานฉันท์ภายใต้ความหลากหลายทางชาติพันธุ์ 🫱🏽‍🫲🏼 โดยเน้นการเปิดพื้นที่ให้กลุ่มต่าง ๆ มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองมากขึ้น รวมถึงการส่งเสริมการศึกษาและเศรษฐกิจในหมู่ชนกลุ่มน้อย เช่น ชาวอินเดียและจีน (Shamsul, 2008)
.
Abdullah ยังพยายามลดความตึงเครียดระหว่างชาติพันธุ์ โดยการเน้นความร่วมมือและการพัฒนาร่วมกันมากกว่าการเน้นสิทธิพิเศษของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นหลัก 🤝 แนวคิดนี้ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนในช่วงแรก แต่ในเวลาต่อมากลับเผชิญแรงต้านจากกลุ่มมาเลย์หัวอนุรักษ์นิยม
.
แม้ Tun Abdullah จะเริ่มต้นด้วยความนิยมสูง แต่ในช่วงท้ายของการดำรงตำแหน่ง เขากลับเผชิญ ความท้าทายอย่างหนัก 🚨 จากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ปัญหาการบริหารที่ไร้ความเด็ดขาด และกระแสไม่พอใจจากภายในพรรค UMNO เอง รวมถึงการเคลื่อนไหวของขบวนการภาคประชาชน เช่น Bersih 🟡 และ HINDRAF ที่ไม่พอใจกับความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม
.
ผลการเลือกตั้งทั่วไปปี พ.ศ. 2551 (2008) สะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการเมืองมาเลเซีย เมื่อพรรค BN สูญเสียเสียงข้างมากในรัฐสภาเป็นครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษ 📉 และสูญเสียการปกครองในหลายรัฐสำคัญ ส่งผลให้ Abdullah ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งในปี พ.ศ. 2552 (2009) เพื่อเปิดทางให้ผู้นำคนใหม่คือ Najib Razak (Gomez & Jomo, 2007)

การเมืองมาเลเซียในยุค Tun Abdullah Ahmad Badawi เป็นยุคแห่งความหวังใหม่ในการปฏิรูปการเมืองสู่ความโปร่งใสและธรรมาภิบาล โดยเน้นความสมานฉันท์ทางชาติพันธุ์และการพัฒนาเศรษฐกิจที่สมดุลและยั่งยืน 🌍 แม้จะได้รับการสนับสนุนอย่างมากในช่วงแรก แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวนและความไร้เสถียรภาพทางการเมืองภายในประเทศ ทำให้รัฐบาลของเขาสิ้นสุดลงด้วยความผิดหวัง 😞
.
📖 Wallahu a’lam 🤲
(พระเจ้าทรงรู้ดีที่สุด)
.
✍️ Posted by C.M. 🧑‍🏫📘
ชัยวัฒน์ มีสันฐาน