สื่อเครือผู้จัดการ สื่อไทยที่พิสูจน์ความจริงของซินเจียง อุยกูร์ มากว่า20ปี
.
นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งสื่อเครือผู้จัดการ ได้เปิดข้อมูลผ่านเพจ คุยทุกเรื่องกับสนธิ มีรายละเอียด ดังนี้
ผมเองเป็นผู้ก่อตั้งสื่อในเครือผู้จัดการ ได้ไปจีนตั้งแต่เปิดประเทศใหม่ๆ เคยมีนักข่าวประจำประเทศจีน และมีนักข่าวที่เกาะติดสถานการณ์ และเดินทางไปถึงซินเจียงเพื่อดูเรื่องนี้ด้วยตัวเอง มากถึง 4-5 คน ตลอดระยะเวลายี่สิบปีที่ผ่านมา มีทั้งเดินทางไปเองและเดินทางไปในฐานะเป็นทริปของสื่อมวลชน ไม่ว่าจะเป็นคุณวริษฐ์ ลิ้มทองกุล คุณดวงพร ลิ้มทองกุล ทั้งสองคนเคยเป็นนักข่าวประจำกรุงปักกิ่ง คุณอู๋ สุวิชชา เพียราษฎร์ บรรณาธิการบริหาร คุณใหญ่ สุรัตน์ ปรีชาธรรม บรรณาธิการข่าวจีน ล่าสุด คือคุณศุภชัย วุฒิชูวงษ์ เมื่อปี 2566
.
ท่านผู้ชมรู้ไหมว่า สำนักข่าวส่วนใหญ่ของประเทศไทย แทบจะไม่เคยไปซินเจียงเลย มีบ้างก็ไปแค่ปุ๊บปั๊บทัวร์ เท่าที่พอทราบมีสำนักข่าวไทย บางกอกโพสต์ ที่ไปแบบ Press Trip ที่มีคนจัดให้ เพราะฉะนั้นสำนักข่าวในประเทศไทยส่วนใหญ่ที่เขียนเรื่องซินเจียงแบบเป็นตุเป็นตะ พวกนี้คือคนที่แปลข่าวจากสำนักข่าวฝรั่ง สำนักข่าวตะวันตก เช่น BBC เป็นต้น ที่มีอคติกับประเดทศจีนอยู่แต่ไหนแต่ไรมาแล้ว
.
มณฑลซินเจียงถูกปลุกปั่นว่าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของชาวอุยกูร์ ถูกชาติตะวันตกยุยงให้แยกตัวเป็นเอกราชจากประเทศจีน และซ่องสุมกลุ่มก่อการร้ายในนาม “เตอร์กิสถานตะวันอก”ประกาศเป้าหมายจัดตั้งรัฐอิสลามในซินเจียง และเอเชียกลาง โดยใช้ความแตกต่างด้านชาติพันธุ์ และความศรัทธาในศาสนา เพื่อแบ่งแยกผู้คนและปลุกระดมว่า นี่คือญิฮาด หรือ สงครามศักดิ์สิทธิ์
.
30 ปีที่ผ่านมามีเหตุก่อการร้ายจากน้ำมือกลุ่มแบ่งแยกดินแดนซินเจียงหลายร้อยครั้ง มีผู้เสียชีวิตหลายพันคน ทำให้ขบวนการอิสลามเตอร์กิสถานตะวันออก ถูกสหประชาชาติขึ้นบัญชีเป็นองค์กรก่อการร้ายสากล และรัฐบาลสหรัฐฯ เองก็ยังเคยขึ้นบัญชีกลุ่ม ETIM เป็นองค์กรก่อการร้ายเช่นเดียวกัน แต่ในปี 2563 นายไมก์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ในสมัยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยุคแรก กลับได้ปลดกลุ่ม ETIM ออกจากบัญชีรายชื่อองค์กรก่อการร้ายของสหรัฐฯและบรรดาชาติตะวันตกก็เปิดประเด็นใหม่ กล่าวหาว่าทางการจีนใช้การปราบปรามการก่อการร้ายเป็นข้ออ้าง เพื่อฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวอุยกูร์ จัดตั้งค่ายกักกันเพื่อลบล้างแนวคิดอิสลาม ใช้แรงงานอุยกูร์ไปเก็บฝ้าย เป็นต้น
.
ขณะที่สื่อมวลชนจำนวนมากรายงานว่ารัฐบาลจีนตั้งค่ายกักกันในซินเจียง ควบคุมคนเป็นล้านๆ คนไปทรมาน เครือผู้จัดการของผมเป็นสื่อเดียวในประเทศไทยที่มีมุมจีน เพื่อรายงานข่าวเกี่ยวกับประเทศจีนโดยตรง แปลข่าวจากภาษาจีน ได้ส่งผู้สื่อข่าวเดินทางไปจีน ลงไปพื้นที่หาข้อมูลมานานกว่า 20 ปีแล้ว ไม่ได้รายงานจากปากของสื่อฝรั่งที่มีอคติ และแฝงนัยทางการเมือง
.
ผู้สื่อข่าวเราได้เดินทางไปซินเจียง ไปเยือนมัสยิดหลายแห่ง สนทนากับอิหม่ามหลายคนที่พูดตรงกันว่า มุสลิมทั่วโลกต่างยอมรับว่าแนวคิดสุดโต่งไม่ใช่แนวทางอิสลาม กลุ่มแบ่งแยกโดยใช้ศาสนาเป็นข้ออ้าง แต่แท้จริงแล้ว การใช้ความรุนแรงคือการทำลายศาสนาและความสงบสุขของสังคม
.
ประเด็นเลือกปฏิบัติกดขี่ชาวอุยกูร์ ชาวตะวันตกใส่ร้ายว่าทางการจีนบังคับชาวอุยกูร์ให้ทำหมัน แต่งงานกับชาวฮั่น บังคับเรียนภาษาจีน ห้ามทำละหมาด ห้ามถือศีลอด ให้รื้อมัสยิด แต่ผู้สื่อข่าวของผม คือคุณวริษฐ์ และคุณดวงพร ลิ้มทองกุล เคยบันทึกภาพเอาไว้เมื่อเดือนสิงหาคม 2548 เกือบยี่สิบปีที่แล้วคือ ชาวมุสลิมอุยกูร์สามารถปฏิบัติศาสนกิจได้ตามสมัครใจ ทั่วซินเจียงมีมัสยิดหลายร้อยแห่ง มีสถาบันการศึกษาชั้นสูงด้านศาสนาถึง 10 แห่ง ถ้าเรียนสายศาสนาจะได้ทุนการศึกษาไปเรียนต่อที่อียิปต์ ลิเบีย ปากีสถาน ซาอุดีอาระเบีย และในซินเจียงเรียนฟรีถึง 15 ปี คืออนุบาล ถึงมัธยมฯ ปลาย เด็กในซินเจียงทุกคนจะได้เรียนสองภาษา คือ ภาษาจีนกลาง กับภาษาของกลุ่มชาติพันธุ์ของตัวเอง รัฐบาลจีนไม่เคยรื้อถอนมัสยิด มีแต่ออกเงินซ่อมแซมบูรณะ โดยเน้นรักษาสถาปัตยกรรมดั้งเดิมเอาไว้
.
ล่าสุดนักข่าวของผมไปถึงซินเจียง คือคุณท็อป ศุภชัย เมื่อถามถึงเรื่องนี้ว่า ที่เขากล่าวหาว่ามีการบังคับใช้แรงงานอุยกูร์ 5 แสนคน เก็บฝ้าย จริงหรือเปล่า ใครลงข่าวนี้ท่านผู้ชมรู้ไหม ? BBC และ The Guardian กลุ่มหนังสือพิมพ์ที่ได้รับเงินสนับสนุนอย่างลับๆ จาก USAID เพื่อมาโฆษณาชวนเชื่อและทำลายประเทศที่ตัวเองทำลาย
.
พอคุณท็อปเขาถามไปอย่างนี้ คนท้องถิ่นก็ตลกกันใหญ่ ฮากันลั่น เขาบอกว่า คุณคิดดูซิ ฝ้ายซินเจียงกินสัดส่วนส่วนแบ่งในตลาดฝ้ายโลกสูงถึง 20% ในประเทศจีน 80% ปีที่แล้วซินเจียงผลิตฝ้ายออกมา 5.7 ล้านตัน เขาบอกว่า เดี๋ยวนี้การเก็บฝ้ายกว่า 90% ใช้เครื่องจักรเก็บเกี่ยวหมดแล้ว เหตุผลคือต้นทุนการใช้เครื่องจักรต่ำกว่าใช้แรงงานคน สอง แบ่งเบาภาระเกษตรกร ไม่ต้องทำงานหนักอีก สาม เครื่องจักรมีประสิทธิภาพมากกว่า เก็บฝ้ายได้เร็วกว่า เสียหายน้อยกว่าการใช้แรงงานเก็บ
.
ซินเจียง เป็นพื้นที่สำคัญในเส้นทางสายไหมทางบก ซึ่งเป็นเส้นทางการค้าสำคัญในสมัยโบราณ เชื่อมโยงจีนไปอินเดียและตะวันออกกลาง ในอดีตเราเรียกว่า เปอร์เซีย และไปสิ้นสุดที่ทวีปยุโรป ซึ่งถ้าเราดูแผนที่ในปัจจุบัน ซินเจียงมีพรมแดนติดต่อกับประเทศต่างๆ มากถึง 8 ประเทศ ประกอบด้วย รัสเซีย มองโกเลีย คาซัคสถาน คีร์กิซสถาน ทาจิกิสถาน อัฟกานิสถาน ปากีสถาน และ อินเดีย นอกจากนี้ ใต้ผืนดินซินเจียงยังมีน้ำมันสำรองอุดมสมบูรณ์ และเป็นพื้นที่ที่ผลิตแก๊สธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดของจีนด้วย
.
ข้อกล่าวหาที่ว่ารัฐบาลจีนต้องการลบล้างวัฒนธรรมของซินเจียง กดขี่ข่มเหงชาวอุยกูร์นั้น ไม่เป็นความจริง เป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อป้ายสีจีน กระชากหน้ากากจอมปลอมของรัฐบาล องค์กรต่างๆ รวมไปถึงสื่อมวลชนตะวันตก และสื่อมวลชนไทยที่หูหนวกตาบอด หลับหูหลับตาปล่อยฝรั่งอ้างคำว่า “สิทธิมนุษยชน” มาจูงจมูก โดยที่ไม่เคยลืมตาดูโลกแห่งความเป็นจริงเสียบ้างเลย
.
ในช่วงสิบปีที่ผ่านมานี้ นโยบาย 1 แถบ 1 เส้นทาง หรือ BRI มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการเปลี่ยนโฉมซินเจียง รัฐบาลจีนใช้ทั้งการพัฒนาเศรษฐกิจ มาตรการทางกฎหมาย ทำให้ทุกวันนี้ไม่มีเหตุการณ์ก่อการร้ายมาเลยเป็นเวลา 8 ปีแล้ว และประชาชนชาวซินเจียงก็มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเห็นได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นอายุขัยที่มากขึ้น การศึกษาที่ดีขึ้น รายได้เฉลี่ยต่อประชากรดีขึ้นมาก ปีที่แล้ว GDP ของซินเจียงมีมูลค่าสูงถึง 2 ล้านล้านหยวน คิดเป็นเงินไทยประมาณ 10 ล้านล้านบาท อยู่อันดับที่ 23 จาก 31 มณฑลของจีน ถ้าคิดเป็น GDP ต่อประชากร ซินเจียงอยู่อันดับที่ 16 และภายในสิ้นปีนี้ (2568) ประเทศจีนจะสร้างบ้านให้ชาวอุยกูร์ที่อยู่ในซินเจียง
.
ทุกวันนี้เมืองต่างๆ ในซินเจียงมีเส้นทางรถไฟความเร็วสูง และมีเที่ยวบินจำนวนมาก นักท่องเที่ยวเดินทางไปซินเจียงอย่างคึกคัก ซินเจียงกลายเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา มีการค้นหาข้อมูลการท่องเที่ยวซินเจียงเพิ่มขึ้นถึงสิบเท่าตัว ปีที่แล้วนักท่องเที่ยวมากกว่า 300 ล้านคน มาเยือนซินเจียง
.
ชุดซินเจียง-อุยกูร์ชุดนี้ ท่านผู้ชมจะหาฟังจากที่ไหนไม่ได้แล้ว เป็นชุดเดียวจริงๆ ท่านผู้ชมอย่าเพิ่งเบื่อ ตั้งใจฟังไป แชร์ให้ทุกคนไป แล้วจากนี้ไปท่านผู้ชมไม่ต้องไปฟังเรื่องซินเจียง-อุยกูร์จากใครอีกต่อไปเลย เพราะนี่คือความจริง ผมไม่เคยเอาคำโกหกมาให้ท่านผู้ชมเลยแม้แต่นิดเดียว ทุกอย่างมีหลักฐานพิสูจน์ได้ คนของผม 20 ปีที่แล้ว ตราบจนทุกวันนี้ ไปดูเหตุการณ์ที่ซินเจียง และผมก็จะไปดูเหตุการณ์ที่ซินเจียงเร็วๆ นี้ด้วย เชื่อผมสิครับ คลิปนี้เรื่องซินเจียง สมบูรณ์แบบที่สุด ไม่มีอีกแล้ว ไม่มีใคร ช่องอื่นหรือที่ไหนจะพูดแบบนี้ได้อีกแล้ว คุณฐปณีย์ คุณแยม คุณดูเสียบ้าง แล้วมาเทียบกับสิ่งที่คุณออกรายการลงในข้อความ The Reporter เสียบ้าง ว่ามันห่างชั้นกันเพียงไหน