หน้าแรก ในประเทศ DSI หน้าแตก บอร์ดคดีพิเศษไม่รับ ‘ฮั้วเลือกส.ว’-ไฟเขียวคดีฟอกเงิน

DSI หน้าแตก บอร์ดคดีพิเศษไม่รับ ‘ฮั้วเลือกส.ว’-ไฟเขียวคดีฟอกเงิน

บอร์ด กคพ.’ ไม่รับคดีฮั้วเลือก สว. เป็นคดีพิเศษ – ไฟเขียวทำคดีฟอกเงิน สำหรับกรรมการฝั่ง ตร.3 คนขาดประชุม “ปลัดคลัง-มท.” ส่งตัวแทน

6 มี.ค.2568 ที่กระทรวงยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และคณะกรรมการคดีพิเศษ ร่วมประชุมพิจารณาคดี กรณีการคัดเลือกสมาชิกวุฒิสภา ที่มีกระบวนการ พฤติการณ์ที่ไม่ได้เป็นไปด้วยความสุจริต เป็นคดีพิเศษหรือไม่ เป็นการนัดประชุมครั้งที่ 2 ภายหลังส่งเรื่อง ให้
คณะอนุกรรมการกลั่นกรอง ด้านอาชญากรรมระหว่างประเทศ และอาชญากรรมพิเศษพิจารณา ให้ได้ข้อยุติ ก่อนเสนอคณะกรรมการคดีพิเศษในวันนี้อีกครั้ง

โดยวันนี้ มีผู้เข้าร่วมประชุม 19 คน ลา 3 คน ประกอบด้วย คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 2 คน คือ พล.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วงกับพล.ต.ท.สำราญ นวลมา

ขณะที่คณะกรรมการ ที่มีพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ผู้แทนโดยตำแหน่ง ได้ส่งผู้แทน คือ พล.ต.ท.อภิชาติ สุริบุญญา ผู้บัญชาการกฎหมายและคดี ซึ่งยังไม่ได้เข้าร่วมการประชุม ถือว่าครบองค์ประชุมแล้ว จึงสามารถดำเนินการประชุมต่อได้ ตามระเบียบวาระ

ทั้งนี้ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และเลขาธิการ คณะกรรมการกฤษฎีกา ในฐานะคณะกรรมการ ก็ได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมการประชุม ต่างจากครั้งก่อนที่เดินทางมาร่วมประชุมด้วยตัวเอง

โดยในช่วงเช้า นายนรินทร์พงศ์ จินาภักดิ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านกฎหมาย หนึ่งใน คณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีไม่รับ คดีฮั้วเลือก สว.เป็นคดีพิเศษ จะดำเนินการคดีฟอกเงิน และอั้งยี่ซ่องโจร ได้หรือไม่ว่า แนวทางกฎหมายอะไรที่เป็นของ กกต. เกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้ง เที่ยงธรรม สุจริตก็ทำไป อะไรที่เป็นกรรมที่เกี่ยวกับการกระทำผิดมีโทษทางอาญา ก็เป็นเรื่องของพนักงานสอบสวน หรือหากเป็นคดีซับซ้อนและกระทบความมั่นคงประเทศ มันก็เป็นอำนาจของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ก็แยกกันทำอยู่แล้ว

ถามย้ำว่า หากผลออกมาว่าไม่รับ ทางดีเอสไอ ก็สามารถดำเนินการตามกฎหมายได้ใช่หรือไม่ นายนรินทร์พงศ์ กล่าวว่า หากมีการกระทำผิดทางอาญากึ่งเดียว ก็ต้องมีคนดำเนินการโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งหากมีการกระทำผิดทางอาญาแล้ว คงไม่ต้องแบ่งว่าพนักงานสอบสวนหรือดีเอสไอ ดำเนินการ โดยเฉพาะที่มีผู้มาร้องเรียน หากมองกว้าง ๆ 2 แนวทาง แต่ในรายละเอียดขอสงวนไว้ก่อน เพราะไม่อยากพูดก่อนผู้ใหญ่ชี้แจง

เมื่อถามว่า กกต.จะไม่มาเข้าร่วมประชุมวันนี้ ใช่หรือไม่ นายนรินทร์พงศ์ ยืนยันว่าไม่มา เพราะมีการแจ้งแล้ว ส่วนตัวคิดว่าไม่มาอยู่แล้ว แต่ที่อยากให้มาร่วมประชุมด้วยจะได้ถกปัญหา แม้จะไม่มาการประชุมก็ดำเนินการต่อให้เสร็จสิ้นภายในวันนี้ ซึ่งวันนี้องค์ประชุม ในส่วนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านตนเองน่าจะมาครบ แต่ส่วนอื่นตอบไม่ได้ เพราะอาจมีการฝากตัวแทนมา

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ กล่าวก่อนเริ่มการประชุมพิจารณาคดีฮั้ว เลือก สว.ว่า วันนี้ เป็นการพิจารณาในวาระที่เราเคยพิจารณากันในครั้งที่แล้ว (25 ก.พ.) และยังมีประเด็นที่ค้างจึงส่งกลับไปให้คณะอนุกรรมการพิจารณาและวันนี้จะมารายงานให้ที่ประชุมได้ทราบ และมีประเด็นที่เราต้องดำเนินการต่อที่ยังไม่จบให้มีข้อยุติ ซึ่งขณะนี้ประเด็นต่าง ๆ ได้ดำเนินการไปตามขั้นตอนแล้ว ก็อยากจะให้มารายงานต่อที่ประชุมและดำเนินการไปตามขั้นตอนต่อไป

ส่วน พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รายงานว่ามีองค์ประชุมทั้งหมด 19 คน ซึ่งคณะกรรมการฝั่งตำรวจ 3 คน ไม่มา โดย พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ส่งตัวแทนมาร่วมประชุม แต่ยังไม่ได้อยู่ในห้องนี้ พล.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านการสอบสวนคดีอาญา และพล.ต.ท.สำราญ นวลมา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินก็ไม่ได้ร่วมประชุม ขณะที่นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และนายลวรณ แสงสนิทปลัดกระทรวงการคลัง ส่งผู้แทนเข้าร่วมพิจารณา

ส่วนบรรยากาศระหว่างประชุม มี สว.สำรอง 50-60 คน มาให้กำลังใจคณะกรรมการพิจารณาคดีนี้ด้วย

ต่อมาเวลา11.30 น. มีรายงานข่าวว่า ที่ประชุม กคพ. มีมติไม่รับคดีฮั้วเลือก สว. เป็นคดีพิเศษ แต่ให้ดำเนินการตามความผิดมาตรา 21 (1) ตามบัญชีแนบท้าย พ.ร.บ.สอบสวนคคีพิเศษ ซึ่งมีอำนาจในการสืบสวนสอบสวนคดีฟอกเงิน

สำหรับมติของที่ประชุม กพค. มีมติเห็นชอบ 11 เสียง ไม่เห็นชอบ 4 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง โดยมีผู้ขาดประชุม 3 เสียง ทำให้ได้เสียงไม่ถึง 2 ใน 3 จากบอร์ด กคพ. จำนวน 22 เสียง