‘ซาบีดา ไทยเศรษฐ’ ตอบกระทู้ฮัจย์แพง ระบุ ครม.มติยกเลิกการผูกขาดให้สายการบินอื่นเข้ามาแข่ง จะช่วยให้ฮัจยืถูกลง นาทีตอบในสภา’ชาดา’โผล่ให้กำลังใจ
เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภา ทำหน้าที่ประธาน ในการพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา ของ นายซาการียา สะอิ ส.ส.นราธิวาส พรรคภูมิใจไทย ถาม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เรื่องการประกอบพิธีฮัจย์ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยนายอนุทินมอบหมายให้ น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ถามแทน
กระทู้ถามการแก้ปัญหาราคาไปประกอบพิธีฮัจย์ เป็นกระทู้ที่พรรคภูมิใจไทยถามรัฐมนตรีในสังกัดพรรคเดียวกัน จึงไม่มีปัญหาโดย น.ส.ซาบีดาชี้แจงว่า เรื่องค่าใช้จ่ายการประกอบพิธี ที่ได้ศึกษาและเสนอไปที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้ยกเลิกมติเดิม เราจะปลดล็อกจากการให้สายการบินไทยเป็นสายการบินเดียวในการส่งผู้แสวงบุญ เพราะการผูกขาดทำให้ไม่เกิดการแข่งขันทางด้านราคา กระทรวงมหาดไทยได้มีการทำการบ้าน ทำงานพูดคุยกับสายการบินต่างๆ เพื่อให้เข้ามาเสนอราคา และได้มีการเจรจากับซาอุดีอาระเบีย ขอให้เพิ่มเที่ยวบิน เพื่อผลประโยชน์แก่พี่น้องชาวไทยมุสลิมทุกท่าน
‘ในปีนี้ดิฉันได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้าคณะเดินทางไปทำบันทึกข้อตกลงและเจรจาเรื่องราคาค่าใช้จ่ายขั้นพื้นฐานกับกระทรวงฮัจย์ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งการเจรจาได้มีการขอลดราคาค่าขนส่งภายในประเทศ การเดินทางระหว่างเมือง เราต้องเน้นที่คุณภาพ ช่วงเวลาที่พี่น้องมุสลิมไปปฏิบัติศาสนกิจ จะทำอย่างไรให้เขาปฏิบัติได้อย่างสมบูรณ์’ น.ส.ชาบีดา กล่าว
เธอกล่าวว่า ในฐานะมุสลิมคนหนึ่ง ต้องขอขอบคุณ นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ที่ได้บรรจุวาระนี้ในการประชุม ครม.ที่ผ่านมา ท่านก็เห็นความสำคัญของพี่น้องชาวไทยมุสลิมเช่นกัน จึงต้องขอขอบคุณคณะรัฐมนตรีทุกท่าน ที่ได้เห็นชอบให้ยกเลิกมติ ครม.เดิมเพื่อเปิดโอกาสให้สายการบินต่างๆ เข้ามาเสนอราคา
ทั้งนี้ ช่วงท้าย นายวันมูหะมัดนอร์ ได้กล่าวขอบคุณ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี บิดาของ น.ส.ซาบีดา ที่มานั่งฟังกระทู้ว่า “ขอขอบคุณท่านชาดาด้วยนะครับ ที่มานั่งในห้องประชุมเพื่อให้กำลังใจนะครับ”
สำหรับคณะรัฐมนตรีสัญจรจ.สงขลา เรื่องการปลดล็อคการบินการเดินทางไปฮัจย์ ณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอ ดังนี้
1. อนุมัติขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2561 (เรื่อง แนวทางการจัดเที่ยวบินขนส่งผู้แสวงบุญพิธีฮัจย์) ในประเด็น การกำหนดสายการบินในการขนส่งผู้แสวงบุญพิธีฮัจย์ จาก กำหนดให้สายการบินแห่งชาติที่รัฐบาลประเทศซาอุดีอาระเบียมอบหมาย และบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (บมจ. การบินไทย) รับผิดชอบในการขนส่งผู้แสวงบุญพิธีฮัจย์ชาวไทยแบบเช่าเหมาลำตามความตกลงระหว่างคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย (คณะกรรมการฯ) กับกระทรวงฮัจย์และอุมเราะห์ และกรมการบินพลเรือนซาอุดีอาระเบีย ที่จะมีขึ้นในแต่ละปี ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 เป็นต้นไป เป็น การขนส่งผู้แสวงบุญพิธีฮัจย์ชาวไทยให้ดำเนินการตามความตกลงระหว่างคณะกรรมการฯ กับกระทรวงฮัจย์และอุมเราะห์ และสำนักงานการบินพลเรือนซาอุดีอาระเบียที่จะมีขึ้นในแต่ละปี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2569 เป็นต้นไป
2. อนุมัติขอยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2564 (เรื่อง แนวทางการจัดเที่ยวบินขนส่งผู้แสวงบุญพิธีฮัจย์)
สาระสำคัญของเรื่อง
1. เดิมกรมการบินพลเรือนซาอุดีอาระเบียได้กำหนดให้การดำเนินการขนส่งผู้แสวงบุญพิธีฮัจย์ ชาวไทย ดำเนินการโดยสายการบินแห่งชาติของประเทศไทยและประเทศซาอุดีอาระเบียฝ่ายละครึ่งหนึ่ง คณะรัฐมนตรีได้มีมติ (3 กรกฎาคม 2561) เห็นชอบให้สายการบินแห่งชาติที่รัฐบาลประเทศซาอุดีอาระเบียมอบหมายและบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) (บมจ. การบินไทย) รับผิดชอบในการขนส่งผู้แสวงบุญพิธีฮัจย์ชาวไทยแบบเช่าเหมาลำ ต่อมา บมจ. การบินไทยหลุดพ้นจากสภาพการเป็นรัฐวิสาหกิจ จึงมีสถานภาพเป็นสายการบินของเอกชน ซึ่งขัดกับข้อกำหนดของกรมการบินพลเรือนซาอุดีอาระเบียที่กล่าวมาข้างต้น ดังนั้น คณะรัฐมนตรีจึงมีมติ (20 เมษายน 2564) เห็นชอบให้ บมจ. การบินไทยเป็นสายการบินแห่งชาติของไทย ในการดำเนินภารกิจขนส่งผู้แสวงบุญพิธีฮัจย์ชาวไทย
2. ในการประชุมเตรียมการฮัจย์กับประเทศซาอุดีอาระเบีย ประจำปี พ.ศ. 2566 ระหว่างวันที่ 8 – 18 มกราคม 2566 สำนักงานการบินพลเรือนซาอุดีอาระเบีย แจ้งว่า ประเทศไทยสามารถแจ้งกำหนดสายการบินเพิ่มเติมได้ โดยขอให้แจ้งกำหนดสายการบินมาอย่างเป็นทางการ ประกอบกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้แสวงบุญที่ได้รับความเดือดร้อนในกรณีที่ค่าบัตรโดยสารในการเดินทางไปแสวงบุญที่ประเทศซาอุดีอาระเบียและค่าโหลดน้ำหนักสัมภาระมีราคาแพง ดังนั้น คณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย (คณะกรรมการฯ) ในคราวประชุม ครั้งที่ 2/2567 เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 ให้เสนอขอทบทวนและขอยกเลิกมติคณะรัฐมนตรี ดังนี้
2.1 ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2561 (จาก ให้สายการบินแห่งชาติที่รัฐบาลประเทศซาอุดีอาระเบียมอบหมาย และ บมจ. การบินไทยรับผิดชอบในการขนส่งผู้แสวงบุญพิธีฮัจย์ชาวไทยแบบเช่าเหมาลำ เป็น ให้สายการบินที่มาจากความตกลงระหว่างประเทศไทยและประเทศซาอุดีอาระเบียที่จะจัดทำขึ้นเป็นรายปีต่อไปรับผิดชอบในการขนส่งผู้แสวงบุญพิธีฮัจย์)
2.2 ขอยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2564 (ให้ บมจ. การบินไทยเป็น สายการบินแห่งชาติของไทย ในการดำเนินภารกิจขนส่งผู้แสวงบุญพิธีฮัจย์ชาวไทย)
การดำเนินการในเรื่องนี้จะเปิดโอกาสให้มีสายการบินในการขนส่งผู้แสวงบุญพิธีฮัจย์เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ราคาค่าบัตรโดยสารถูกลงรวมถึงคุณภาพและการให้บริการดีขึ้นเนื่องจากเกิดการแข่งขันทางการค้าและด้านราคาของสายการบิน โดยประเทศไทยจะเริ่มดำเนินการคัดเลือกสายการบินในการขนส่งผู้แสวงบุญพิธีฮัจย์ ใน ปี 2569 เป็นต้นไป (ปี 2568 ยังคงให้ บมจ. การบินไทยทำการบินแบบเช่าเหมาลำเช่นเดิม)
อย่างไรก็ตาม มติครม. วันที่ 18 กุมภาพันธ์ ไม่สามารถดำนเนินการได้ทันในการเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ในปี 2568 จะดำเนินการได้ในปี 2569