ผู้ประกอบการรถตู้ฯ วอนรัฐบาล ยืดอายุการใช้งานเป็น 15 ปี เผยหารายได้ไม่พอจ่าย ยังจะต้องเปลี่ยนรถอีก รับไม่ไหว อนาคตต้องเปลี่ยนรับเป็นรถมินิบัสอีก
ผู้ประกอบการรถตู้ระยะสั้นไม่เกิน 200 กิโลเมตร เช่น หาดใหญ่-ตรัง หาดใหญ่-พัทลุง ได้ออกมาวิงวอนรัฐบาล โดยกระทรวงคมนาคม กรมการขนส่งทางบกผ่อนปรน ยืดอายุการใช้งานรถตู้โดยสารออกไปอีกระยะหนึ่ง 2-3 ปี เพื่อแบ่งเบาภาระความเดือดร้อนในการเปลี่ยนรถใหม่ตามข้อกำหนดของกรมการขนส่งทางบก
“การเปลี่ยนรถใหม่ต้องใช้เงินไม่น้อย ทั้งค่าดาวน์รถ ทำสีใหม่ จดทะเบียนรถตู้โดยสาร เป็นเงินจำนวนไม่น้อย ซึ่งทุกวันนี้หาเงินไม่พอจ่ายอยู่แล้ว ผู้โดยสารน้อยลง หันไปใช้รถส่วนตัวกันมากขึ้น สภาพเศรษฐกิจก็ไม่ดี คนถ้าไม่จำเป็นก็ไม่เดินทาง“ ผู้ประกอบการรายหนึ่ง กล่าว
“สภาพรถตู้อายุ 10 ปี ยังคงสภาพใช้งานได้ดี เพราะเจ้าของรถจะดูแลอย่างดี ถือเป็นทรัพย์สิน ถ้าปลดระวางไปก็เชื่อว่า จะยังคงนำมาวิ่งรับส่งผู้โดยสารต่อ แต่วิ่งนอกเส้นทาง อันเป็นการผิดกฎหมาย จึงควรแก้ให้ถูกกฎหมายดีกว่า เพียงแค่ยืดอายุการใช้งานออกไปอีกหน่อย ให้พอมีเวลาตั้งตัว เหมือนยืดอายุการใช้งานแท็กซี่นั้นแหละ จะได้มีเวลาทำมาหากินสักระยะ หลังผ่อนรถหมดแล้ว”
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 27 ส.ค.67 สมาคมธุรกิจรถตู้ต่างจังหวัด นำโดยนายปรีดา มากมูลผล พร้อมตัวแทนสมาคม เดินทางมายื่นหนังสือถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ เพื่อขอความอนุเคราะห์ให้ขยายเวลารถตู้ที่อายุครบ 13 ปีเป็นรถมินิบัส โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ (สมัยนั้น) รับเรื่องแทนนายกฯ
หนังสือระบุว่า เนื่องด้วยทางสมาคมรถตู้รถมินิบัส ได้รับการร้องเรียนเรื่องความเดือดร้อนจากผู้ประกอบการ ประสบภาวะการณ์ขาดทุนจากการเดินรถมาตลอดตั้งแต่สถานการณ์โรคโควิด-19 แพร่ระบาด สภาพเศรษฐกิจตกต่ำ พี่น้องประชาชนผู้โดยสารใช้บริการน้อยลง ทำให้ผู้ประกอบการรถตู้รถมินินินัสโดยสารประจำทางสาธารณะ ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นขึ้นไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำมัน ก๊าซ มีราคาเพิ่มขึ้นตลอด
ทำให้ผู้ประกอบการบางรายต้องเลิกกิจการไป และยังมีข้อบังคับจากกรรมการขนส่งทางบกออกมาอีกว่าว่ารถตู้ที่มีอายุครบ 13 ปี แล้วจะต้องเปลี่ยนเป็นรถมินิบัสเท่านั้น ทำให้ผู้ประกอบการที่ขาดทุนมาโดยต่อเนื่อง ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนเป็นรถมินิบัสได้ และทางรัฐบาลมีแนวโน้มที่จะให้เปลี่ยนเป็นรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าอีกด้วย
หนีงสือ ระบุอีกว่า ดังนั้นทางสมาคมรถตู้รถมินิบัสพร้อมทั้งผู้ประกอบการ จึงกราบเรียนขอความเมตตามายังท่านหัวหน้าพรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ขอให้ชะลอเรื่องการเปลี่ยนรถตู้เป็นรถมินิบัสออกไปก่อน จนกว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยเข้ามาบริหารประเทศ และหาแนวทางการแก้ปัญหารถโดยสารขนาดเล็กทั้งระบบ ทางสมาคมพร้อมที่จะให้ข้อมูลถึงปัญหาที่จะต้องได้รับการแก้ไขด้วย
อุดม นวลศรี ผู้ประกอบการรถตู้ โพสต์เฟสบุ๊ค ระบุว่า ผู้ประกอบอาชีพ รถตู้โดยสารฯเดือดร้อนหนักวอนรัฐบาลแก้ปัญหาเยียวยาด่วนเพื่อลดการตกงานของผู้ประกอบอาชีพ เมื่อ31ธค 2567ที่ผ่านมากรมการขนส่งทางบกได้มีการปลดระวางรถตู้โดยสารประจำทางอายุเกิน10ปีทั่วประเทศทำให้ผู้ประกอบอาชีพได้รับความเดือดร้อนตกงานจำนวนมากทางผู้ประกอบอาชีพ ขอให้รัฐบาลทบทวนนโยบายคำสั่งขยายโอกาสให้ต่ออายุเยียวยาถึง15ปีตามความเหมาะสมตามสภาพการใช้งานโดยผ่านการตรวจสภาพของกรมการขนส่งทางบก หากมีความจำเป็นบังคับใช้ให้ออกรถใหม่รัฐบาลควรมีนโยบายและแผนรองรับแหล่งเงินทุนปลอดดอกเบี้ยหรือดอกเบี้ยต่ำให้ผู้ประกอบอาชีพด้วยหรือสำรวจความสมดุลย์ด้านรายรับรายจ่ายโดยทำการสำรวจจัดเก็บข้อมูลของจำนวนผู้โดยสารในแต่ละเส้นทางว่าจะคุ้มทุนหรือไม่โดยฝ่ายวิชาการหรือคณะกรรมการกลางกรมการขนส่งทางบก ปัญหาของรถตู้ประจำทางที่เกิดขึ้นในยุคนี้มีรถนอกระบบมาแย่งรับผู้โดยสารหรือวิ่งทับเส้นทางทำให้ผู้โดยสารถูกแบ่งไปส่วนหนึ่งรายจึงลดลงขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด รถตู้โดยสารยังเป็นที่นิยมของผู้โดยสารหรือผู้บริโภคเพราะสะดวกปลอดภัยประหยัดเวลาไหลตัวง่ายแก้ปัญหาการจราจรติดขัดด้วยเหมาะสำหรับสังคมเมืองระหว่างจังหวัดต่อจังหวัด รัฐบาลหรือผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้องควรทบทวนพิจารณารถตู้โดยสารที่ปลดระวางเมื่อ31ธค2567ให้กลับมาใช้งานได้เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์และสภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยเพื่อความอยู่รอดของผู้ประกอบอาชีพและบริการผู้โดยสารอีกต่อไป
#รถตู้วอนรัฐช่วย
#รถตู้เดือดร้อน
#นายหัวไทร
#ทำเฒ่าเรื่องเพื่อน