ตัดไฟ-ไม่ตัดไฟ ภูมิใจไทยโยน หน่วยความมั่นคง-ตปท.นิ่งเฉย

อ่านกฎหมายและระเบียบหน่อย ! “พลพีร์” สวน “โรม” ย้ำ “มหาดไทยฯ- กฟภ.” ตัดไฟเองไม่ได้ เผย “กฟภ.” เคยส่งเรื่องถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว แต่เงียบกันหมด

กรณีที่นายรังสิมันต์ โรม สส.พรรคประชาชนให้ข้อมูลว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีอำนาจสั่งตัดไฟฟ้า ที่จ่ายไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้เลย ล่าสุด 31 มกราคม 2568 นายพลพีร์ สุวรรณฉวี สส.นครราชสีมา พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า

คิดว่าการที่นายรังสิมันต์ โรม ออกมาพูดนั้น เน้นพูดเอามันมากเกินไป ไม่ยึดโยงกับหลักการ หรือหลักกฎหมายเลย อย่าลืมว่า การที่เราจ่ายไฟไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เพราะเป็นสัญญาระหว่างรัฐต่อรัฐ ซึ่งเกี่ยวพันกับหลายหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการต่างประเทศ หน่วยงานความมั่นคงของรัฐ ทั้งของไทย และประเทศเพื่อนบ้าน สิ่งนี้มาจากการตัดสินใจร่วมกันของหลายฝ่าย หน่วยงานการไฟฟ้าภูมิภาค หรือ กฟภ. นั้น ใช่ว่ามีสิทธิ์ขาดว่าจะตัดไฟ จะจ่ายไฟ ได้เอง อย่างที่นายรังสิมันต์เข้าใจ

การที่ กฟภ. จะงดจ่ายไฟฟ้าหรือบอกเลิกสัญญา สามารถทำได้หากคู่สัญญาดำเนินการผิดสัญญา เช่น ไม่ชำระค่าไฟ หรือ กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องมีเอกสารทางการที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งร้องขอ หรือ มีหนังสือจากกระทรวงการต่างประเทศหรือหน่วยงานด้านความมั่นคงแจ้งมา อย่างเช่นครั้งก่อน

“เป็นเรื่องที่ต้องช่วยกันพิจารณา ที่อยากให้สังคมรับทราบคือ ที่ผ่านมา มีข้อมูลมาว่าทาง กฟภ. ไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่อย่างที่บอกว่าการตัดไฟเพื่อนบ้านมีความสลับซับซ้อน จึงได้มีการส่งเรื่องไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่นฝ่ายความมั่นคง ว่า หากมีการตัดไฟขึ้นมา ฝ่ายความมั่นคงจะจัดการอย่างไร ไปจนถึงการส่งเรื่องไปยังหน่วยงานการต่างประเทศ ให้ประสานเพื่อนบ้าน ให้เข้ามาตรวจตราดูแลการใช้ไฟในพื้นที่ ว่าเอาไฟไปทำอะไร นอกจกานั้น กฟภ. ยังทำหนังสือขอให้หน่วยงานตรวจสอบของไทย ช่วยพิจารณาบริษัท ที่ซื้อไฟฟ้าจากไทย ซึ่งมีความน่ากังวลในหลายประเด็น แต่ที่สุดแล้ว เรื่องทั้งหมดก็เงียบไป”

นายรังริมันต์ โรม รู้อยู่แก่ใจ ว่า กฟภ.ทำอะไรได้ ทำอะไรไม่ได้ บทบาทมีแค่ไหน อะไรทำได้เลย อะไรต้องรอ และถึงแม้นายอนุทิน จะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็ใช่ว่าท่านจะตัดสินใจทำอะไรได้ตามใจคิดทันที ดังนั้น ท่านอย่าแค่หลอกด่า หวังให้เป็นข่าว

“อย่าเอาแต่ยุส่งเลยครับ ผมเชื่อว่าทางรัฐบาล และกระทรวงมหาดไทย รวมถึง กฟภ. และหน่วยงานอื่นๆ ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยเฉพาะเรื่องผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ ส่วนท่านมีข้อมูล ก็ส่งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบไปดำเนินการตามขั้นตอน ไม่ใช่ว่าจะพูดเอาสนุกปาก อย่างที่ทำอยู่ครับ ”