ถ้าส่งอุยกูร์ให้จีนอีกครั้ง ก็ไม่ต่างอะไรกับ “ระเบิดพลีชาติ” ซึ่งผมไม่คิดว่าไทยจะกล้าทำ ยกเว้นตั้งใจเพื่อผลลัพธ์บางประการที่ประเมินผิดพลาด
ดร.มาโนชญ์ อารีย์ อาจารย์สาขารัฐศาสตร คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินท่วิโรฒ ประสานมิตร ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ถ้าส่งอุยกูร์ให้จีนอีกครั้ง ก็ไม่ต่างอะไรกับ “ระเบิดพลีชาติ” ซึ่งผมไม่คิดว่าไทยจะกล้าทำ ยกเว้นตั้งใจเพื่อผลลัพธ์บางประการที่ประเมินผิดพลาด
อุยกูร์เป็นหนึ่งในมุสลิมเชื้อสายเติร์ก ซึ่งมีสายสัมพันธ์ชาตินิยมกับกลุ่มชาวเติร์กในเอเชียกลางและโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตุรกีที่เหมือนเป็นเมืองหลวงของชาวเติร์กที่กำลังฟื้นคืนความยิ่งใหญ่อีกครั้ง เรื่องเติร์กชาตินิยมก็เป็นประเด็นเข้มข้นในการเมืองภายในตุรกี
ประธานาธิบดีตุรกี แอโดอาน จากที่คะแนนนิยมตกจากปัญหาเศษฐกิจและปัญหาผู้ลี้ภัยซีเรียในตุรกี แต่ตอนนี้พลิกกลับมาได้รับความนิยมมากขึ้นจากบทบาทในซีเรียและความสำเร็จที่ส่งผลให้ชาวซีเรียกำลังทะยอยกลับประเทศ ลองคิดตามนะครับ ถ้ามีประเด็นเรื่องไทยส่งอุยกูร์กลับให้จีนตอนนี้ ฝ่ายค้านในตุรกีอาจเล่นเรื่องนี้หนักมาก เพื่อโจมตีพรรค AK แอโดอานก็อาจจะมามีปัญหากับไทยหรือไม่ก็จีน หรือไม่ก็ทั้งคู่
การที่ผู้นำตุรกีจะถูกเล่นงานในประเด็นนี้ในประเทศย่อมเป็นผลที่ผู้นำตะวันตกที่ไม่ชอบเขาอยู่แล้ว น่าจะพอใจหรือสมประโยชน์ไปด้วย ยิ่งถ้ามีปัญหากับจีนก็ยิ่งดี จีนจะได้ช่วยจัดการกับแอโดอานอีกแรง ( แต่เชื่อว่าจีนกับรัสเซียทันเกมส์นี้ เพราะถ้าผู้นำตุรกีไม่ใช่คนนี้ หลายอย่างจะเอนเอียงไปทางตะวันตก กลัวแต่เราจะประเมินพลาด )
ที่ผ่านมาโลกมุสลิมมีสามขาที่สำคัญ คือ ซาอุฯ อิหร่าน และตุรกี แล้ววันนี้ความขัดแย้ง 3 ขานี้ลดลง เพราะเตรียมรับระเบียบใหม่ของโลกที่มีจีนกับรัสเซียผงาดขึ้นมา ถ้าตุรกีมีปัญหากับจีนก็อาจจะกระทบไปถึงรัสเซียที่จะวางตัวลำบากเพราะตุรกีถือไพ่นาโต้นอยู่ แต่ถ้าเป็นแบบนั้นสหรัฐฯและชาติตะวันตกก็อาจจะกวักมืือเรียกตุรกีกลับมาอีกครั้ง ถ้าเขากลับมาจับมือกัน เราที่ส่งอุยกูร์ให้จีนก็ …..
ประเด็นสำคัญคือเราที่วันนี้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับทั้ง 3 ขา ของโลกมุสลิมจะไปเสี่ยงทำลายความสัมพันธ์นั้นเพื่ออะไร? เพื่อใคร? อย่าประเมินปัญหาอุยกูร์ต่ำไปในลักษณะที่ว่าโลกมุสลิมไม่สนใจอุยกูร์นะครับ ( เหมือนที่บางคนอาจประเมินปัญหาปาเลสไตน์ผิดพลาดมาแล้ว) เขาอาจไม่แสดงตรงแต่ผลที่ตามมาชัดและหนักมากนะครับ
คิดให้ดีนะครับ ระเบิดพลีชาติเลยนะครับ เกียรติภูมิ ภาพลักษณ์ ความสง่างาม และอธิปไตยของชาติเป็นเรื่องสำคัญที่จะนำมาซึ่งผลประโยชน์ที่ยั่งยืนยาวนานครับ
สำหรับชาวอุยกูร์ ในประเทศไทย จำนวนกว่า 300 คน ถูกพบในที่สวนยางพารา อ.รัตภูมิ จ. สงขลา เมื่อปี 2558 ที่ทางการไทยส่งตัวผู้หญิงและเด็กชาวอุยกูร์จำนวน 170 คน จากทั้งหมดกว่า 300 คน ที่พบในที่สวนยางพารา อ.รัตภูมิ จ. สงขลา ไปยังตุรกีในเดือน มิ.ย. 2558 และหนึ่งเดือนถัดมาได้ส่งตัวชายชาวอุยกูร์ จำนวน 109 ราย กลับไปยังประเทศจีน
การดำเนินการทั้งสองครั้งกลับถูกวิพากษ์วิจารณ์จากทั้งสองฝ่าย รัฐบาลจีนแสดงความไม่พอใจที่ทางการไทยไม่ส่งชาวอุยกูร์กลับประเทศจีน แต่เลือกส่งไปยังประเทศที่สามแทน โดยเหลืออยู่ 44 คน ถูกกักขังอยู่ที่ ตม. สวนพลู
