จุฬาราชมนตรีไทยร่อนหนังสือถึงรัฐ “แนวทางการปฎิบัติหน้าที่ของฝ่ายทะเบียนในเรื่องการสมรสเท่าเทียม” เพื่อมิให้เป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และเป็นความผิดตามมาตรา 157
เมื่อ 8 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา นายอรุณ บุญชม จุฬาราชมนตรี ได้ทำหนังสือถึง อธิบดีกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เรื่อง “แนวทางการปฎิบัติหน้าที่ของฝ่ายทะเบียนในเรื่องการสมรสเท่าเทียม” กล่าวคือ
ตามที่อ้างถึง กรมการปกครอง โดยกองส่งเสริมองค์กรศาสนาอิสลามและกิจการฮัจย์ได้รับแจ้งจากฝ่ายกรรมการเลขานุการ (สำนักบริหารการทะเบียน) ว่า ได้รับข้อสอบถามจากกรมการกงสุล และประเด็นคำถามจากภาคส่วนต่าง ๆ ที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการรับจดทะเบียนสมรสของบุคคลเพศเดียวกันภายใต้กฎหมายไทย แต่การสมรสดังกล่าวเป็นสิ่งต้องห้ามและขัดต่อกฎหมายชารีอะห์ กรมการปกครองจึงขอความอนุเคราะห์สำนักจุฬาราชมนตรีพิจารณาตอบข้อหารือที่เกี่ยวข้องกับประเด็นดังกล่าวข้างต้น เพื่อจักได้กำหนดเป็นแนวทางปฏิบัติงานแก่สำนักทะเบียนทุกแห่งภายในประเทศ และแจ้งกรมการกงสุลที่มีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแลสถานทูตและสถานกงสุลไทยในต่างประเทศทราบต่อไป
ความละเอียดตามที่อ้างถึงนั้น การสมรสกับบุคคลเพศเดียวกัน เป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักการศาสนาอิสลามและเป็นสิ่งต้องห้ามตามบัญญัติแห่งศาสนาอิสลาม แต่ด้วยได้มีประกาศราชกิจจานุเบกษา เรื่องพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ๒๔) พ.ศ. ๒๕๖๗ (พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม) โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๖๘ นี้ และหากนายทะเบียนปฏิเสธที่จะรับจดทะเบียนให้ผู้ยืนคำร้อง จะถือเป็นความผิดตามมาตรา ๑๕๕๗ แห่งประมวลกฎหมายอาญานั้น ในการนี้ เพื่อมิให้เป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และเป็นความผิดตามมาตรา ๑๕๗แห่งประมวลกฎหมายอาญา สำนักจุฬาราชมนตรี จึงขอให้แนวทาง ดังนี้
การปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว ขอให้พิจารณาตามกายภาพของสำนักทะเบียนนั้น ๆ โดยหากพบว่า
สำนักทะเบียนนั้น มีเจ้าหน้าที่อื่นที่มีใช่มุสลิมสามารถปฏิบัติหน้าที่เป็นนายทะเบียนรับจดทะเบียนให้ผู้ยื่นคำร้องได้ ก็ให้ปฏิบัติหน้าที่แทนเจ้าหน้าที่มุสลิม และหากสำนักทะเบียนนั้นไม่มีเจ้าหน้าที่อื่นที่มีใช่มุสลิมที่สามารถปฏิบัติหน้าที่เป็นนายทะเบียนรับจดทะเบียนให้ผู้อื่นคำร้องได้ ก็ให้นายทะเบียนที่เป็นมุสลิมปฏิบัติหน้าที่เป็นนายทะเบียนรับจดทะเบียนให้ผู้ยื่นคำร้องได้ เป็นกรณีไป โดยถือเป็นเหตุจำเป็น”
แนวทางการปฎิบัติหน้าที่ของฝ่ายทะเบียนในเรื่องการสมรสเท่าเทียม ตามคำชี้แจงของสำนักจุฬาราชมนตรี ตามคำชี้แจงของสำนักจุฬาราชมนตรี”