‘สุพิศ’ ผู้สมัครนายกอบจ.สงขลาพ้นขวากหนาม เมื่อมีพระบรมราชโองการออกมา

พ้นขวากหนามชิ้นแรกของ “สุพิศ พิทักษ์ธรรม” หมดขวากหนามไปอีกดอกสำหรับ “สุพิศ พิทักษ์ธรรม” ผู้สมัครชิงเก้าอี้นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา หมายเลข 5 เมื่อมีพระบรมราชโองการให้พ้นจากตำแหน่งอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร โดยให้มีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ 2 พฤศจิกายน ตามใบลาออก

ช่วงเริ่มต้นสมัครเข้าใจว่าเรื่องการพ้นจากราชการของนายสุพิศเป็นประเด็นตะขิดตะขวงใจทำให้กังวลไม่น้อยว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)จะให้การรับรองเป็นผู้สมัครหรือไม่ ประเด็นการลาออกยังไม่มีผลสมบูรณ์ เนื่องจากยังไม่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าให้พ้นจากตำแหน่ง

แม้การลาออกจะชอบด้วยระเบียบสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (กพ.)ว่าด้วยการลาออกของข้าราชการ แต่รัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายแม่กำหนดคลุมไว้อีกอย่าง

รัฐธรรมนูญ มาตรา 180 กำหนดไว้โดยย่อว่า ข้าราชการระดับอธิบดีขึ้นไปการจะเข้ารับตำแหน่ง หรือพ้นจากตำแหน่งต้องได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าก่อน แต่ในวันยื่นใบสมัครชิงเก้าอี้นายกฯอบจ.สงขลาของนายสุพิศ ยังไม่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าให้พ้นจากตำแหน่ง

พระบรมราชโองการโปรดเกล้าให้นายสุพิศพ้นจากตำแหน่ง ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2567 แต่ให้มีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ให้ใบลาออกมีผล คือวันที่ 2 พฤศจิกายน 2567

การได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าให้พ้นจากตำแหน่งราชการทำให้นายสุพิศโล่งอกไปอีกเปราะ ขวากหนามชิ้นใหญ่ถูกเด็ดทิ้งไปอย่างไร้ข้อสงสัย

นับจากนี้ไป 30 วัน คือช่วงเวลาแห่งการหาคะแนนนิยมเพื่อให้ได้รับการเลือกตั้งด้วยคะแนนสูงสุด ที่มีคู่แข่งมากถึง 8 คน รวมสุพิศที่ต้องสู้กับตัวเองด้วยเป็น 9 คน
แม้ดูเหมือนจะโล่งขึ้น แต่ยังไม่ง่ายสำหรับสุพิศ กับคำถามมากมายที่เกิดขึ้นกับตัวเขา และต้องอธิบาย แต่บางเรื่องก็อธิบายยาก บางเรื่องได้ผูกมัดติดตัวสุพิศไว้แน่นแล้ว สะลัดออกยากแม้จะมีความพยายามก็ตาม

นอกจากนี้สุพิศยังมีคู่แข่งในระดับเบอร์ต้นๆ ทัังประสงค์ บริรักษ์ (นายกฯแบน) อดีตนายกเทศมนตรีเขารูปช้าง นิรันดร์ จินดานาค จากพรรคประชาชน

และยังมีผู้สมัครเบอร์รองที่พร้อมสู้แบ่งคะแนนไปอีกหลายคน ไม่ว่าจะเป็นสงขลา พอกันที “โป้-ณัฐภัท” ซึ่งทั้งสองทำงานกับกลุ่มเยาวชนมานาน กับการเปิดตัวแคมเปญหาเสียง การเมืองโปร่งใส ไม่ทุจริต ไม่โกงกิน

ถ้าจะสู้และไดรับชัยชนะ สุพิศยังต้องทำมากกว่านี้ เช่น นโยบายที่โดดเด่น แตกต่าง ขายความเป็นทีมบริหาร จัดการคะแนนอย่างเป็นระบบ เป็นวิทยาศาสตร์ ที่สำคัญคือการใช้สื่อโซเชี่ยลให้มากกว่านี้ มีการวางแผนนำเสนออย่างเป็นจังหวะ ช่วงเวลาที่ถูกต้อง

ถ้าจะให้ชัวร์สุพิศต้องวางแผนกวาดมาให้ได้ 300,000 คะแนน ภายใต้การบริหารจัดการที่ดีมีระบบบ อย่างสะเปะสะปะ สั่งการ รับฟังให้มาก เพราะนี้คืองานการเมือง ไม่ใช่งานราชการ


#นายหัวไทร
#ทำเฒ่าเรื่องเพื่อน
#สุพิศพิทักษ์ธรรม
#เลือกนายกฯอบจ