“สรรเพชญ” ไม่เห็นด้วยบุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย ชี้ขายใกล้โรงเรียน-ชุมชน แพร่พิษร้ายให้เด็กและเยาวชน
20 ธันวาคม 2567 นายสรรเพชญ บุญญามณี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาแสดงความกังวลถึงสถานการณ์บุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย ประกอบกับที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรจะพิจารณาเรื่องการศึกษากฎหมายและมาตรการควบคุมกำกับบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย เนื่องจากปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าที่กำลังระบาดในประเทศไทย โดยเฉพาะการวางขายอย่างแพร่หลายในพื้นที่ใกล้สถานศึกษาและตลาดชุมชน อันส่งผลกระทบต่อเด็กและเยาวชนในวงกว้าง ซึ่งจากที่ได้เห็นในสังคมออนไลน์มีเด็กอายุต่ำสุดเพียง 1 ขวบ 7 เดือนสูบบุหรี่ไฟฟ้า บางคนเริ่มใช้บุหรี่ไฟฟ้าอย่างจริงจังตั้งแต่อายุเพียง 6 ปี ทำให้เห็นได้ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาเล็ก ๆ แต่คือวิกฤตที่ต้องแก้ไขโดยเร่งด่วน พร้อมย้ำว่าความล้มเหลวของมาตรการควบคุมในปัจจุบันเป็นช่องโหว่สำคัญที่ทำให้บุหรี่ไฟฟ้าเข้าถึงเด็กและเยาวชนได้ง่าย
“บริษัทบุหรี่กำลังใช้กลยุทธ์อันแยบยลโดยเจาะเป้าหมายไปที่เด็กและเยาวชน ด้วยการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ดึงดูดใจ เปลี่ยนรูปร่างลักษณะของบุหรี่ไฟฟ้าให้เป็นรูปการ์ตูนเพื่อดึงดูดเด็กและเยาวชน เช่น กลิ่นผลไม้และขนม Toypod รูปการ์ตูนต่าง ๆ รวมถึงการขายผ่านช่องทางออนไลน์และในพื้นที่ชุมชนที่เข้าถึงง่ายนอกจากนี้บริษัทบุหรี่ยังมีเป้าหมาย กลยุทธ์ เพื่อสร้างฐานผู้บริโภคระยะยาวในกลุ่มเยาวชน เนื่องจากพฤติกรรมการบริโภคบุหรี่ไฟฟ้าจะติดตัวพวกเขาจากพิษของนิโคตินไปจนโต” นายสรรเพชญกล่าว
นอกจากนี้ นายสรรเพชญยังได้เตือนถึงอันตรายจากสารเคมีในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งประกอบด้วยสารอันตรายหลายชนิด เช่น ฟอร์มาลดีไฮด์ (น้ำยาดองศพ) และ สารหนู ที่สามารถก่อมะเร็งและปัญหาสุขภาพร้ายแรงในระยะยาว พร้อมชี้ให้เห็นว่าบุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้อันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวน แต่กลับทำให้เลิกยากกว่า และมีผลเสียต่อสุขภาพในวงกว้าง นายสรรเพชญ ยังได้ตั้งคำถามถึงข้ออ้างที่ว่าการทำให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมายจะช่วยเพิ่มรายได้จากการเก็บภาษี โดยเน้นย้ำว่าค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ที่เกิดจากการรักษาโรคภัยที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่มวนสูงกว่ารายได้จากการเก็บภาษีหลายเท่า และผลกระทบทางสุขภาพต่อเยาวชนไทยนั้นไม่อาจประเมินค่าได้
ในตอนท้าย นายสรรเพชญ ได้เปิดเผยถึงบทบาทที่ตนมีต่อการสร้างความรู้เท่าทันในกลุ่มเยาวชน โดยที่ผ่านมาตนได้ร่วมมือกับ เครือข่ายนักสื่อสารรุ่นใหม่จังหวัดสงขลา ในการจัดกิจกรรมหลากหลายรูปแบบเพื่อป้องกันปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าในเยาวชน เช่น กิจกรรมพัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชนให้รู้เท่าทันโทษและพิษภัยของผลิตภัณฑ์ยาสูบ การจัดเวทีสาธารณะโดยมีกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การโต้วาที การจัดนิทรรศการ และการสร้างการมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชนในการต่อยอดความรู้เพื่อเผยแพร่ข้อมูลให้กับสังคม
“เราไม่ได้แค่พูดถึงปัญหา แต่ลงมือทำงานเชิงรุก ร่วมกับเด็กและเยาวชนในพื้นที่ เพื่อสร้างเกราะป้องกันและภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่งให้พวกเขา พร้อมทั้งปลูกฝังความรู้และความตระหนักรู้ที่ถูกต้อง เพื่อให้เยาวชนเหล่านี้กลายเป็นพลังสำคัญในการส่งต่อข้อมูลที่ถูกต้องและสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในสังคม วันนี้เราจำเป็นต้องเร่งสร้างความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน ครอบครัว และชุมชน เพื่อปกป้องลูกหลานของเราจากพิษภัยร้ายแรงของบุหรี่ไฟฟ้า ก่อนที่มันจะทำลายอนาคตของพวกเขาอย่างไม่อาจย้อนคืนได้” นายสรรเพชญกล่าว
“ถึงเวลาแล้วที่เราต้องปกป้องอนาคตของเด็กและเยาวชนไทย ไม่ให้พวกเขาต้องเสียอนาคตเพราะพิษภัยจากบุหรี่ไฟฟ้า” นายสรรเพชญกล่าวทิ้งท้าย