นายอรุณ บุญชม จุฬาราชมนตรี แจงแนวทางการแก้ปัญหาข้อพิพาทที่ดินมัสยิดจ.แพร่ เน้นการเจรจาไกล่เกลี่ย ระบุที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์ของมัสยิดเด่นชัย หากออกคำฟัตวาจะขัดกับกฎหมาย
ตามที่มีปัญหาข้อพิพาทระหว่างพี่น้องมุสลิมจ.แพร่ กับอิหม่ามมัสยิดเด่นชัย ผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินที่ไม่อนุญาตให้มีการใช่้ที่ดินในการละหมาดระบุว่า มีการวากั๊ฟที่ดินสำหรับเป็นกุโบร์ จนได้มีการส่งเรื่องมายังจุฬาราชมนตรี เพื่อให้ฟัตวาและมีการฟ้องร้องในชั้นศาลนั้น นายอรุณ บุญชม จุฬาราชมนตรี กล่าวกับMtodayว่า ที่ดินที่จังหวัดแพร่มีความสลับซับซ้อน เริ่มแรกพี่น้องมุสลิมหลายคนได้รวบรวมเงินซื้อที่ดินวากั๊ฟเป็นที่ดินสำหรับฝังศพ โดยมีมัสยิดที่เด่นชัย ต่อมาที่ดินได้ตกอยู่กับผู้จัดการมรดก ได้มีการทำพินัยกรรมให้แบ่งที่ดินออกเป็น 3 ส่วน คือ เป็นที่กุโบรฺ ที่ละหมาด และสำหรับขายสินค้า ซึ่งไม่ใช่เป็นเจตนารมณ์ของผู้วากั๊ฟแต่แรก
‘ตอนนี้ กรรมสิทธิ์ในที่ดินเป็นของมัสยิดเด่นชัย มัสยิดเป็นเจ้าของตามกฎหมาย หากสำนักจุฬาราชมนตรีไปฟัตวาก็จะไปขัดกับกฎหมาย ที่ผ่านมาก็ได้มีการเจรจาไกล่เกลี่ยแต่ก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้ จึงมอยหมายให้อิหม่ามประจำมัสยิดช้างคลาน ซึ่งมีความสนิทสนมกับอิหม่ามมัสยิดเด่นชัย ได้เจรจาไกล่เกลี่ยให้ได้ใช้ที่ดินตามที่พี่น้องมุสลิมจ.แพร่ต้องการ สำนักจุฬาฯ จะใช้การไกล่เกี่ลยเป็นสำคัญในการแก้ปัญหา’ นายอรุณ บุญชม กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พึ่งจุฬาฯไม่สำเร็จ ต้องพึ่งศาล! มุสลิมแพร่ฟ้องศาล แพ่งและอาญาอิหม่ามมัสยิดเด่นชัย
เปิดหลักฐานอีกด้าน ‘พินัยกรรมกุโบร์ จ.แพร่’ จุฬาฯต้องวินิจฉัยโดยด่วน
ปิดมัสยิดจังหวัดแพร่ทำไม หลังสังคมวิจารณ์ ฟังอิหม่ามตอบคำถาม